'เสธ.เบิร์ด' ชี้ วาระสุดท้าย 'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต' จุดไฟชายแดน พังทั้งพ่อลูก

"เสธ.เบิร์ด" ชี้ วาระสุดท้าย ฮุนเซน-ฮุนมาเนต จุดไฟชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างโปรไฟล์-สืบทอดอำนาจ พังทั้งพ่อลูก
14 ธันวาคม 2568 พล.ท.วันชนะ สวัสดี ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...(สงครามสร้างโปรไฟล์ แต่สุดท้ายพังทั้งพ่อลูก)
ในขณะที่ ปูติน และ สี จิ้นผิง กวาดล้างคอร์รัปชันเพื่อเสริมความแกร่งให้ “รัฐ”
ฮุน เซน กวาดล้างคู่แข่งเพื่อเสริมความแกร่งให้ “ครอบครัว”
ความแตกต่างนี้เห็นได้ชัดที่สุดเมื่อเราดู “ปฏิบัติการทางทหาร” ครั้งสำคัญสองครั้งของเขา
1. สงครามสร้างโปรไฟล์ (เขาพระวิหาร, 2008–2011) จำความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา กรณี ปราสาทพระวิหาร ได้ไหม?
ในเวลานั้น เมื่อมองย้อนกลับไป มันดูเหมือน “การฝึกงาน” เสียมากกว่า ในตอนนั้น ฮุน มาเนต ลูกชายคนโตของ ฮุน เซน เพิ่งจบการศึกษาจากเวสต์พอยต์ (West Point) เขามีปริญญา แต่ขาดประสบการณ์แบบ “นักรบในป่า” ที่บรรดานายพลรุ่นเก่าของกัมพูชาให้การยอมรับ
ฮุน เซน ใช้การปะทะตามแนวชายแดนนี้เป็นเวทีเปิดตัวลูกชายในฐานะ “ผู้ปกป้องชาติ” แม้จะพ่ายศึกทางทหารครั้งนั้น ดังนั้นการปะทะครั้งนั้นมันไม่ใช่เพื่อแย่งชิงดินแดนแต่มันคือการ “สร้างเรซูเม่” เพื่อปูทางให้ มาเนต ก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการทางทหาร เพื่อให้มั่นใจว่ากระบอกปืนจะยังคงอยู่ในมือของ ตระกูล ฮุน อย่างมั่นคง
2. สงครามเพื่อการสืบทอดอำนาจ (2023–ปัจจุบัน)
ในขณะที่ ปูติน กำลังทำสงครามเต็มรูปแบบเพื่อแย่งชิงดินแดนในยูเครน
“สงคราม” ล่าสุดของ ฮุน เซน คือปฏิบัติการยึดครองพื้นที่ภายในประเทศอย่างเบ็ดเสร็จ การกวาดล้างทางการเมืองก่อนการถ่ายโอนอำนาจในปี 2023 คือปฏิบัติการทางทหารในคราบอื่น
นี่จึงไม่ใช่เรื่องของความมั่นคงแห่งชาติ แต่เป็นเรื่องของ “ความมั่นคงทางอาชีพ” เป้าหมายคือการเคลียร์กระดาน เพื่อให้ลูกชายของเขาสามารถสืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้โดยไร้เสียงคัดค้าน
แต่ความพยายามนั้นช่างไร้ผลเมื่อปัจจุบัน มาเนต หายไปจากเกมส์การปะทะ เพราะพ่อที่พยายามสร้าง ได้แทรกเขาเข้ามาบัญชาการเอง เกมส์นี้ยิ่งตอกย้ำความไร้เดียงสาในการบริหารประเทศของ มาเนต และยิ่งตอกย้ำการปกป้องผลประโยชน์ของ ฮุน เซน ในช่วงท้ายของการปะทะ หรือจะเป็นวาระสุดท้ายของตระกูลฮุนกับการครองกัมพูชา
เรียกได้ว่า ช่วงท้ายการปะทะนี้เสียทั้งพ่อ ทั้งลูก และอำนาจ







