เลขาฯรักชาติ จี้ยูเนสโกตอบโต้กัมพูชาใช้โบราณสถานตั้งฐานทัพ

เลขาฯรักชาติ จี้ยูเนสโกตอบโต้กัมพูชาใช้โบราณสถานตั้งฐานทัพ

เลขาฯรักชาติ แถลงถาม 'จีน-อเมริกา' จริงใจแก้สงครามชายแดน ไทย -กัมพูชา จริงหรือไม่ จี้ยูเนสโกตรวจสอบกัมพูชาใช้โบราณสถานเป็นฐานกำลัง

นายฐิติพันธุ์ เกยานนท์ เลขาธิการพรรคเลขาธิการพรรครักชาติ แถลงการณ์ตั้งคำถามถึงหลายประเทศชั้นนำ ที่มีเทคโนโลยีระดับโลก แต่กลับตรวจสอบไม่ได้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน พื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา ใครเริ่มโจมตีก่อน พร้อมเรียกร้อง สหประชาชาติ (UN) เร่งตรวจสอบ กัมพูชาสร้างบังเกอร์ในพื้นที่มรดกโลก และประเด็นยึดทรัพย์บิตคอยน์กว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่โยงกลุ่มมิจฉาชีพ

นายฐิติพันธุ์ ได้มีการหยิบยกประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน โดยเปรียบเทียบกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมหาอำนาจโลก  ในขณะที่ประเทศจีนมีความสามารถส่งดาวเทียมและสร้างสถานีอวกาศถาวรโคจรรอบโลกได้ หรือสหรัฐอเมริกาที่มีรถสำรวจอยู่บนพื้นผิวดาวอังคาร แต่กลับเกิดคำถามที่น่ากังขาว่า เหตุใดด้วยเทคโนโลยีระดับนี้ จึงไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า "ใครเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน" ในเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทยและกัมพูชา
 

ขณะที่ปม พื้นที่มรดกโลก มองว่า

กัมพูชาได้ทำการจัดตั้งฐานที่มั่นทางทหารและสร้างบังเกอร์ภายในพื้นที่มรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ซึ่งทางพรรครักชาติมองว่าการกระทำดังกล่าวเรียกร้องให้มีการดำเนินการตอบโต้ทันทีจากองค์การสหประชาชาติ (UN)

ช่วงท้ายของแถลงการณ์มีการเปิดเผยข้อมูล โดยอ้างถึงกรณีที่สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ได้ทำการยึดทรัพย์สินในรูปแบบบิตคอยน์มูลค่ากว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มสแกมเมอร์ในกัมพูชา โดยนายพีรพันธุ์ระบุว่า มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกยึดนี้ มีจำนวนมหาศาลกว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีของประเทศกัมพูชาเสียอีก

"มาถึงจุดนี้ เรายังดูไม่ออกกันอีกหรือว่า ใครกันแน่ที่เป็นสแกมเมอร์ที่คอยหลอกลวงชาวโลกว่าตนเองเป็นผู้ถูกกระทำ เรื่องนี้ไม่สามารถถูกเพิกเฉยได้อีกต่อไป และทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อต่อต้านภัยคุกคามต่อสังคมมนุษยชาตินี้"