ไฟลุกร้อยเอ็ด ‘แดง’ชน‘น้ำเงิน’ รหัส ‘1-4-6-8’ ศึกช้างชนช้าง

ยุบสภานับหนึ่งทางการ จับตาสมรภูมิศึกเลือกต้้ง จ.ร้อยเอ็ด รหัส 1-4–6-8 พรรคเพื่อไทย ต้องปะทะพรรคภูมิใจไทย แบบสูสีเหมือนศึกช้างชนช้าง
KEY
POINTS
- สมรภูมิเลือกตั้ง สส.ร้อยเอ็ด รอบนี้จะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ต่างฝ่ายต้องออกแรงต้านกินรวบ และไม่ให้อีกขั้วรุกคืบได้
- พื้นที่แข่งขันที่น่าจับตาเป็นพิเศษคือเขตเลือกตั้งที่ 1, 4, 6 และ 8 ซึ่งเป็นสมรภูมิ "ช้างชนช้าง" สู้กันหนักระหว่าง "แดง" กับ "น้ำเงิน"
- สนามเลือกตั้งร้อยเอ็ด ว่ากันว่าแทบลุกเป็นไฟแตกต่างจากทุกครั้ง เกิดจากพรรคภูมิใจไทยใช้พลังดูด สส. อดีต สส.พรรคเพื่อไทย รวม 3 คน
- จับตาศึกล้างตาในเขต 1 ระหว่าง "สถาพร" และ "อนุรักษ์" ขณะที่"ศึกสายเลือดสินธุไพร" ชนกันระหว่าง หลานชนหลาน "ชญาภา" ต้องออกแรงต้าน "ธนชัย สินธุไพร"
เซียนการเมืองแถบภาคอีสานกลาง วิเคราะห์และให้โฟกัสไปที่ จ.ร้อยเอ็ด เป็นพิเศษ เพราะเป็นจังหวัดที่พรรคภูมิใจไทย ดูด สส.และอดีต สส.ของพรรคเพื่อไทยไปถึง 3 คน
2 สส.คือ นรากร นาเมืองรักษ์ สส.เขต 4 กิตติ สมทรัพย์ สส.เขต 6 และ ศักดา คงเพชร อดีต สส.สอบตก เขต 7
พลันที่ยุบสภานับหนึ่งตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2568 สมรภูมิเลือกตั้งใหญ่จังหวัดดินแดนหอโหวด 101 เริ่มดุเดือดมากขึ้น ยิ่งจับตาเขตที่ค่ายแดง สู้กับค่ายน้ำเงินเป็นหลัก ถึงขั้นมีการพูดถึง รหัสท้าชนคน 2 ขั้ว คือ “1-4-8” หมายถึง เขต 1 เขต 4 และเขต 8 เรียกว่าเป็นสมรภูมิสู้รบชิง สส.เขตช้างชนช้าง
ในการนี้ หากไม่พูดถึงเขต 6 อีกเขตที่เป็น สส.เก่าเพื่อไทยคงไม่ได้ ทันทีที่มีการยุบสภา สส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง กิตติ สมทรัพย์ และนรากร นาเมืองรักษ์ ก็แสดงตนลาออกพรรคเพื่อไทย ไปร่วมพรรคภูมิใจไทยทันที
แม้ก่อนหน้านี้ บ้านใหญ่เขต 6 ได้ให้ทายาทไปโชว์พลังข่มคู่ต่อสู้ ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทยบ้างแล้วก็ตาม
จับตาสู้ดุเดือดสุดในร้อยเอ็ด หนีไม่พ้น เขต 1 อ.เมือง ร้อยเอ็ด คู่ล้างตา หลัง สถาพร ว่องสัธนพงษ์ เคยพ่ายแพ้ อนุรักษ์ จุรีมาศ สส.จากพรรคชาติไทยพัฒนา บ้านใหญ่ร้อยเอ็ด ซึ่งยกทีมพร้อม ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และ 10 สส.ร่วมแสดงตนอยู่กับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งรอบหน้า
อนุรักษ์ ชนะสถาพร ด้วยคะแนน 40,436 ต่อ 32,318 รอบนี้กระแสคนในแถบบึงพลาญชัย ตกใจกับ“อนุรักษ์” ที่กล้าทิ้งพรรคชาติไทยพัฒนาไปซบค่ายครูใหญ่สีน้ำเงิน
เขต 1 สถาพร ตัดสินใจลงสู้กับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง โดยล่าสุดผ่านการสอบสัมภาษณ์กับแกนนำพรรคแล้ว รวมทั้งล่าสุด สส.น้ำ จิราพร สินธุไพร ออกแรงสนับสนุนอยู่ข้างหลัง รวมทั้งยังมี ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ ของพรรค เป็นคนเชียร์ให้อยู่ต่อกับพรรคเพื่อไทย รอเพียงวัน ว.เวลา น. เปิดตัวทางการเท่านั้น
ล่าสุด ท็อป สถาพร เปิดตัวไม่เป็นทางการ เมื่อจิราพร ชวนขึ้นเวที นั่งให้กำลัง สส.เบียร์ปราศรัยที่โรงเรียนพิมพ์พัฒนา ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ เมื่อ 7 ธ.ค. 2568
สถาพร เป็นลูกของ สานิต ว่องสัธนพงศ์ อดีต สส.ร้อยเอ็ด เขต 1 พรรคเสรีธรรม ก่อนย้ายมาควบรวมพรรคไทยรักไทย “สานิต” เคยมีผลงานล้มช้าง อนุรักษ์ จุรีมาศ เมื่อปี 2544
เลือกตั้งปี 2569 สถาพร จะขอล้างตา ท้าชนอนุรักษ์ อีกครั้ง เพื่อเดิมพันว่า คนบึงพลาญชัยจะเลือกกระแสพรรคแดงหรือน้ำเงิน เพราะต่างฝ่ายต่างได้เปรียบ ตรงมีกลไกอำนาจรัฐ และกลไกท้องถิ่น นายก อบจ.ร้อยเอ็ด เป็นกองหนุน
ถัดมา เขต 4 สนามสู้รบระหว่าง อดีต สส.แดง หักดิบนายใหญ่ตีจากไปซบพรรคน้ำเงินพรรคครูใหญ่ นรากร นาเมืองรักษ์ สส.เขต 4 โดย นิรันดร์ นาเมืองรักษ์ ไปเปิดตัวแทนลูกชายที่พรรคภูมิใจไทยแล้ว ก่อนหน้านี้
เขตนี้สู้หนักระหว่างผู้ว่าจ่อย ศุภศิษย์ กอเจริญยศ อดีตผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี เพื่อนของ เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายก อบจ.ร้อยเอ็ด ลงสมัครพรรคเพื่อไทย ว่ากันว่า กระแส อดีตผู้ว่าฯ ศุภศิษย์ ไม่ธรรมดา มีโอกาสเป็นไปได้ถึงชนะถ้าไม่พลาดท่าให้กับบ้านใหญ่นาเมืองรักษ์
เขต 6 บ้านใหญ่สมทรัพย์ ทิ้งพรรคเพื่อไทย เปิดตัวเข้าพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่โหวตนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล รอบนี้ กิตติ สมทรัพย์ ต้องรักษาพื้นที่ชนกับ ทองลี มีหินกอง ดีกรีประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสุวรรณภูมิ เขตนี้สู้กันหนัก ทว่า กิตติ ยังถือแต้มต่อสูง
เขต 8 ดุเดือด อ.ศรีสมเด็จ ไฟลุกท่วมแน่ เมื่อ อ๊อฟ ธนชัย สินธุไพร ลูกชาย ของจุรีพร สินธุไพร น้องสาวนิสิต สินธุไพร หันกลับมาลงสู้เขต 8 ท้าชนแชมป์เก่า เบียร์ ชญาภา สินธุไพร น้องสาวรัฐมนตรีน้ำ จิราพร และพ่อใหญ่นิสิต สินธุไพร เป็นการวัดพลังไฟต์บังคับอีกครั้ง ในศึกสายเลือดสินธุไพร
ธนชัย เปิดตัวลงในนามพรรคภูมิใจไทย เดิมที จุรีพร วางตัวลูกชายลงเขต 1 แต่เมื่ออนุรักษ์ ขนพรรคพวกพรรคเลือดสุพรรณฯ มาลงเขต 1 ทำให้ธนชัยต้องถอยกลับไปลงเขต 8 ที่เคยเป็นเขตของจุรีพร ที่เพิ่งพ่ายหลานสาวเมื่อปี 2566
ครั้งก่อนปี 2566 เขต 8 อ.ศรีสมเด็จ อ.จตุรพักตรพิมาน อ.เมืองสรวง (เฉพาะ ต.หนองผือ ต.เมืองสรวง) อ.อาจสามารถ (เฉพาะ ต.โหรา ต.หนองบัว ต.บ้านดู่ และต.ขี้เหล็ก) และ อ.ธวัชบุรี (ต.เมืองน้อย ต.เขวาทุ่ง และต.ราชธานี) เบียร์ ชญาภา ชนะ จุรีพร 47,305 แต้ม
ขณะที่ จุรีพร เคยลงสมัครพรรคไทยสร้างไทย เข้าที่ 2 ได้ 20,828 แต้ม
รอบนี้ ศึกหลานชนหลาน ดุเดือดหนักหน่วงเช่นเคย โอกาสของ เบียร์ยังมีแต้มต่ออยู่ คงได้แรงดันพี่สาวมาช่วยต้านกำลังขั้วน้ำเงิน เดิมพันดีเอ็นเอ สินธุไพร
ขณะที่ เขต 5 ฐานที่มั่นของ น้ำ จิราพร สส.2 สมัย และอดีตรัฐมนตรีประสำนักนายกฯ บ้านเกิดตระกูลสินธุไพร เขตนี้ คอการเมืองร้อยเอ็ด คาดเดาไม่ยาก ไร้คู่ต่อกรที่มีสรรพกำลังหนักหน่วง
จิราพร คงผ่านด่านเป็น สส.สมัยที่ 3 ได้ไม่ยาก แม้กระแสพรรคจะไม่ป๊อบเท่าปี 2566 และพ่อใหญ่นิสิต ถูกจับกุมตัวส่งเรือนจำพัทยาก็ตาม
สมรภูมิร้อยเอ็ด ต้องยอมรับว่าเขต 1-4-6-8 จะเป็นเขตที่สู้กันหนักระหว่างค่ายแดงและค่ายน้ำเงิน แน่นอนว่าเป็นโอกาสยากที่ขั้วใดจะกินรวบได้ทั้งหมด
ศึกเลือกตั้งร้อยเอ็ดทั้ง 8 เขต คงยากยิ่งที่เพื่อไทยจะกวาด สส.ยกจังหวัด ด้วยกระแสพรรคที่ไม่พีคเหมือนครั้งก่อน ประกอบกับสภาพท่วงทำนองบริบทอุดมการณ์คนอีสานแถบร้อยเอ็ด มีดีเอ็นเอคนเสื้อแดงสูง และรักความยุติธรรม เป็นคนชนบทที่ตื่นตัวการเมืองสูงกว่าโซนอื่น ๆ
สำหรับภูมิใจไทย ก็ไม่ต่างกัน พื้นที่ร้อยเอ็ดก็เป็นงานยากยิ่ง ที่จะฝ่ากระแสแดงต้านสีน้ำเงิน รุกกินรวบเมืองหอโหวด 101 ไปได้ง่ายๆ







