กองทัพ โต้ ทรัมป์ ทหารเหยียบทุ่นระเบิด ไม่ใช่อุบัติเหตุ ไม่การันตีหยุดยิง

กองทัพ โต้ ทรัมป์ ทหารเหยียบทุ่นระเบิด ไม่ใช่อุบัติเหตุ ไม่การันตีหยุดยิง

กองทัพ โต้ ทรัมป์ ทหารเหยียบทุ่นระเบิด ไม่ใช่อุบัติเหตุ ย้ำตอบโต้กตามสัดส่วน ยก กัมพูชา ยิงอาวุธตกใส่พื้นที่พลเรือน แขนขาด อุบัติเหตุหรือไม่

วันที่ 13 ธ.ค.68 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงกรณี โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาระบุว่าทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดเป็นอุบัติเหตุ ว่า
อยากจะถามกลับไป เป็นอุบัติเหตุจริงหรือไม่ ในเรื่องการปฏิบัติการทางทหาร เรามีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย การปฏิบัติที่ผ่านมามีการเดินทางโดยพลลาดตระเวน ในเรื่องการตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ การที่ไปเหยียบระเบิดเป็นการจงใจของฝ่ายกัมพูชาในการดำเนินการ เพราะทุ่นระเบิดถือเป็นอาวุธ ไม่ได้เป็นของเล่นที่สามารถสร้างอุบัติเหตุได้เป็นการจงใจที่มีการวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่ทหารเราลาดตระเวน ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาเรามีการเคลียร์ทุ่นระเบิดเรียบร้อยหมดแล้ว แต่กลับเข้ามาอีก นั่นแสดงให้เห็นถึงความจงใจที่จะทำร้ายต่อชีวิต กําลังพลของเราที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นยั่วยุของทางฝ่ายกัมพูชา

 

เช่นเดียวกับกรณี ที่ทางฝ่ายกัมพูชายิงกระสุนตกในพื้นที่พลเรือนจังหวัดศรีสะเกษ ทําให้ประชาชนแขนขาในวันนี้ ก็คงไม่ใช่อุบัติเหตุ เป็นการโจมตีตั้งใจ โจมตีเป้าหมายไม่เลือก โจมตีเป้าหมายพลเรือน ทําให้ประชาชนแขนขาด แน่นอนว่าการสูญเสีย เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่มีผลกระทบต่อประชาชน เราจะลดความสูญเสียเต็มที่ การที่เราอพยพประชาชนไปสู่พักพิง เพื่อให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ศูนย์พักพิงอยู่ในระยะห่างจากการใช้อาวุธของกัมพูชาถือเป็นมาตรการหนึ่งที่เราดําเนินการ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยสถานที่ต่าง ๆ ดําเนินการต่อเนื่อง ทั้งนี้หากฝ่ายกัมพูชาโจมตีไม่เลือกด้านไม่เลือกเป้าหมายที่เกิดเหตุ ทําให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะรวบรวมเป็นหลักฐานประท้วงร้องไปยังประชาคมโลกด้วยเช่นเดียวกัน

พร้อมย้ำว่า ไม่สามารถยืนยันได้ จะหยุดยิงเย็นนี้หรือไม่ เพราะว่าปัจจุบันสิ่งที่กัมพูชาพูดกับสิ่งที่ทำคนละเรื่อง กัมพูชาพูดอยากเจรจาสงบศึก อยากทำตามข้อตกลง ปฏิกิริยากัวลาลัมเปอร์ที่ลงนามไว้ แต่การปฏิบัติของกัมพูชา คนละด้านกัน และเห็นอย่างชัดเจน 
ย้ำว่าฝ่ายไทย ไม่ใช่ฝ่ายรุกราน แต่เราทําเพื่อป้องกันอธิปไตยบูรณภาพดินแดนของไทยเท่านั้น ดังนั้นที่เขาบอกว่าจะมีการเจรจาช่วงบ่ายนี้ คิดว่าคงไม่มีฝ่ายใด จะเชื่อ100%จนกว่าจะมีความชัดเจนและมีความจริงใจจากฝ่ายกัมพูชา

ด้าน พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวเสริมว่า
เราเป็นทหารถูกฝึกมาในเรื่องการใช้อาวุธ ในเรื่องการใช้จรวดหลายลำกล้องและปืนใหญ่ที่ยิงเข้ามา เพราะเหตุใดบางจุดลงพื้นที่พลเรือน บ้านประชาชน เชื่อว่าทหารทุกคนต้องได้รับการฝึกและรู้ขีดความสามารถของอาวุธตัวเอง แม้ว่าจรวดหลายลำกล้องไม่ได้ยิงแม่นเหมือนปืนใหญ่ของไทย หรือกองทัพอากาศ แต่เชื่อว่าทหารกัมพูชาทราบดี ความคลาดเคลื่อนของจรวดจะอยู่ในพิกัดไหน เช่น BM-21 จะยิง1 ระบบ ต้องกว้างประมาณนี้อยู่ในพื้นที่นี้ เพราะฉะนั้นคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมาอ้างว่ากัมพูชายิงฐานทหารแล้วพัดหลงไปโดนพลเรือน เขาต้องรู้อาวุธของเขาทําลายในพื้นที่กว้างเพียงใด ถ้าเกิดเหตุลงพื้นที่บ้านชาวบ้านได้รับความเสียหาย แสดงว่า เขาจงใจว่ายิงมาตรงนี้จะโดน อย่ามาอ้างว่าจะยิงฐานทหารแล้วพลัดไปโดนบ้านพลเรือน

ขณะที่ พลอากาศโท จักรกฤษณ์  ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันได้มีการทําลาย เส้นทางส่งกําลังบํารุงได้หลายเส้นทาง ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ถูกกําหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ประโยชน์ก็คือ ลด ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ตอนใน แต่บริเวณชายแดนก็ยังมีการปะทะกันอยู่

"ในเรื่องการดำเนินการ ประธานาธิบดีทรัมป์ ใช้คำว่า rataliated แปลว่า เราตอบโต้ปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้าม  วันนี้เวลานี้ เราปฏิบัติการบนพื้นฐานป้องกันตนเอง เราใช้กําลังเท่าที่จําเป็นและได้สัดส่วน กับสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อเราจะเห็นว่าเราพยายามดําเนินการทุกภาคส่วนในการลดผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องในการสู้รบ สังเกตจากการเลือกเป้าหมาย การใช้อาวุธ เป็นต้น"