'อภิสิทธิ์' ยันปชป.พร้อมเลือกตั้ง คาใจ 'ภท.-ปชน.' ตั้งเงื่อนไขสู่ทางตัน

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยประกาศยุบสภาว่า ในส่วนของพรรคมีความพร้อมเพราะเราเป็นพรรคการเมืองในระบบรัฐสภาการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้เสมออยู่แล้ว

ทั้งนี้ตนได้กำชับกับผู้บริหารทุกคนมาตั้งแต่ต้นว่า เราทำงานแข่งกับเวลายอมรับว่า มีข้อจำกัดหลายเรื่องในเวลาสั้นๆ แต่มั่นใจว่าในแง่ของนโยบายมีความพร้อมที่จะตอบโจทย์ของประเทศ 

ขณะที่การคัดเลือกผู้สมัครได้เร่งรัดปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างครบถ้วนตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยมีบุคคลใหม่ที่สนใจเข้ามาเสนอตัวเป็นจำนวนมากซึ่งจะต้องกลั่นกรองและคัดเลือกให้เหมาะสมที่สุด
 

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวว่าสิ่ งที่พรรคห่วงใยและออกแถลงการณ์ไปก่อนหน้านี้คือ ปัญหาของประเทศในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นการสู้รบตามแนวชายแดน หรือการฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติอย่างรุนแรงถ้าเรามีการเมืองที่เป็นเอกภาพ มีพลังและมีอำนาจเต็ม น่าจะผ่านสถานการณ์เหล่านี้ไปได้ด้วยดีมากกว่า

เสียดายว่าการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองทำให้เกิดความชะงักงันเกิดขึ้นสิ่งที่เรียกร้องคือนายกฯและรัฐบาลควรมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจทั้ง2เรื่องให้เสร็จสิ้นด้วยดี แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งซึ่งจะมีข้อจำกัดโดยปริยาย หากรัฐบาลจะดูแลภารกิจหลักเหล่านี้ไม่ให้ได้รับผลกระทบหรือกระทบน้อยที่สุดก็จะเป็นสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอมากกว่าส่วนการเลือกตั้งก็ว่ากันไป

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการเปิดตัวผู้สมัครในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ว่า เราทำตามกฎหมายเคร่งครัดโดยในขณะนี้เราได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการรับฟังความเห็นจากสาขาพรรคและตัวแทนจังหวัดตามที่กฎหมายบังคับ หลังจากนั้นเมื่อได้ความเห็นกรรมการสรรหาจะเร่งประชุมต่อไป

ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งท่ามกลางสถานการณ์สู้รบนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องไปดุว่าเป็นอย่างไรเพราะเรามีตัวอย่างในการเลือกตั้งซ่อมที่จ.ศรีสะเกษมาแล้วเรื่องนี้ถือเป็นอำนาจหน้าที่และดุลพินิจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ซึ่งคงต้องปรึกษาฝ่ายความมั่นคง

ส่วนที่มีการมองว่ารัฐบาลรักษาการอาจใช้อำนาจรักษาการลากยาวออกไปในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะไปลากยาวด้วยเหตุผลอะไรคงไม่ได้ ยกเว้นเท่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ส่วนที่มีการหยิบยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ว่าการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศคิดว่าประเด็นนี้เป็นอำนาจหน้าที่กกต.ที่จะวินิจฉัย
 

เมื่อถามว่าการชิงยุบสภากระทันหันเช่นนี้จะทำให้พรรคภูมิใจไทยเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากไปถกเถียงตกลงแล้วใครเป็นคนผิดข้อตกลง

แต่ที่เราพยายามออกแถลงการณ์ คือน่าเสียดายว่าถ้าการเมืองพยายามจะหาคำตอบร่วมกันผลักดันในสิ่งที่เป็นเป้าหมายร่วมก็จะเป็นการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ปัญหาใหญ่ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบไปด้วยความได้เปรียบเสียเปรียบเราก็ทราบกันมาอยู่แล้วตามเงื่อนไขเมื่อมาถึงจุดนี้ก็ต้องดำเนินไปตามกระบวนการ

เมื่อถามว่าเสียดายหรือไม่กับการที่การแก้รัฐธรรมนูญสูญเปล่าและกฎหมายที่ค้างในสภาฯ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้ตนมีความรู้สึกสับสนว่าฝ่ายที่ต้องการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ดีๆกลับเลือกเส้นทางที่ทำให้มันจบลงแม้ว่าจะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้ทำประชามติแต่ไม่ได้ช่วยลดหรือเดินหน้าได้ง่ายขึ้น

เพราะจริงๆแล้วก่อนหน้านี้คำถามที่จะไปถามจะต้องเกิดขึ้นตัวร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณาอยู่ในปัจจุบัน ก็แปลกใจแทนที่จะพยายามหาทางออกแต่กลับไปเลือกเส้นทางที่ตั้งต้นกันใหม่