เปิดยุทธการ โจมตีคู่ขนาน 3 เหล่าทัพ ทุบหม้อข้าว 'ฮุน เซน'

เปิดยุทธการ โจมตีคู่ขนาน 3 เหล่าทัพ ทุบหม้อข้าว 'ฮุน เซน'

3 เหล่าทัพ วางแผนปฏิบัติการเป็นขั้นตอน ล็อกเป้าโจมตีทางอากาศยกระดับเข้มข้นเรื่อยๆ ลดทอนขีดความสามารถกัมพูชา

KEY

POINTS

  • กองทัพภาคที่ 2 พบว่า กัมพูชาจ้างต่างชาติบังคับโดรนโจมตีทหารไทย โดยมีทหารกัมพูชาทำหน้าที่ชี้เป้า
  • กองทัพมีมาตรการเชิงรุกจัดการโดรนพลีชีพร่วมกับ 3 เหล่าทัพ โจมตีพื้นที่เป้าหมาย ศูนย์บัญชาการโดรน 

กองทัพไทย” ไม่เคยคาดคิดว่า การพัฒนาพื้นที่ของกัมพูชาในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยการสร้างสิ่งปลูกสร้าง หมู่บ้าน ถนน กาสิโน ซึ่งผุดเป็นดอกเห็ดตามแนวชายแดน จะนำมาซึ่งภัยคุกคามประเทศไทยในวันนี้

โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ ที่ได้รับจากประเทศมหาอำนาจจำนวนมาก ทั้งที่เป็นทางการ เช่น ปืนใหญ่อัตตาจร SH-1 จรวดหลายลำกล้อง Type 90B/RM-70/BM-21 จรวดหลายลำกล้อง PHL-03 จรวดต่อสู้อากาศยาน KS-1C

อีกทั้ง ยังมีอาวุธไม่ได้จัดซื้อจัดหาตามระบบ แต่ใช้วิธีใต้ดินอีกจำนวนมาก เช่น โดรนพลีชีพ หรือ ที่รู้จัก โดรน กามิกาเซ่ สร้างผลกระทบการปฏิบัติการทางทหาร จ้องโจมตี ที่ตั้งหน่วย สถานที่สำคัญฝ่ายไทย

ส่วนทุ่นระเบิดทำทหารไทยสูญเสียขาไป 7 นาย และยังไม่นับรวมระเบิดที่ถูกลอบวางในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และยังพบข้อมูลกัมพูชาส่งกำลังพลไปฝึกเก็บกู้ทุ่นระเบิดในกลุ่มประเทศโซเวียต เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และนำกลับเข้าประเทศ เก็บไว้กว่า 10,000 ลูก โดยอ้างว่านำมาฝึกเพื่อการศึกษา

ขณะที่ บ่อน-ตึกกาสิโน กว่า 160 แห่งกระจายในตัวเมือง และพื้นที่ติดชายแดนไทย ถูกพัฒนาเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ สแกมเมอร์ ค้ามนุษย์ สร้างผลกระทบคนไทยและทั่วโลก ถูกปรับให้เป็นแหล่งที่ตั้งศูนย์บัญชาการโดรนครบวงจร และเป็นคลังอาวุธ นำมาโจมตีตลอดการปะทะก่อนหน้านี้ และปัจจุบัน

สอดคล้องกับข้อมูล กองทัพภาคที่ 2 พบว่า กัมพูชาจ้างต่างชาติบังคับโดรนโจมตีทหารไทย โดยมีทหารกัมพูชาทำหน้าที่ชี้เป้า เช่น พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี

สำหรับลักษณะโดรนที่ใช้เป็นชนิด FPV ติดลูกกระสุน ค.82 มม. และใช้สายไฟเบอร์ออปติกในการบังคับโดรนบินได้ช้าแต่บินได้นาน และมีโดรนชี้เป้า 1 ตัว บินสังเกต แจ้งที่หมาย พร้อมทิ้งทำลายบริเวณช่องด้านหน้า หรือด้านหลังบังเกอร์ หวังให้สะเก็ดระเบิดกระเด็นเข้ามาด้านใน

โดย ทภ.2 จับสัญญาณวิทยุทางทหารโหมด CRL คำภาษาอังกฤษลงท้ายประโยคว่า Finished (เสร็จสิ้น สำเร็จแล้ว) ประกอบกับจุดตรวจการณ์พบรถจักรยานยนต์ ขับออกไปหลังจากทิ้งโดรนพลีชีพ

ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ระบุว่า กองทัพมีมาตรการเชิงรุกจัดการโดรนพลีชีพร่วมกับ 3 เหล่าทัพ โจมตีพื้นที่เป้าหมาย ศูนย์บัญชาการโดรน ลดขีดความสามารถในการใช้โดรนกามิกาเซ่ ในการโจมตีฝ่ายไทย

“กองทัพอากาศ ให้การสนับสนุนทั้งกองกําลังสุรนารี กองกำลังบูรพา และกองกําลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด เรามีการพูดคุยกันอยู่แล้ว และนําไปสู่การใช้กําลังทางอากาศ โจมตีเป้าหมายเหล่านั้นอย่างเป็นขั้นตอน เป็นระบบ ทํางานสอดประสานเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันหน่วยทหาร และกําลังพลของเราให้ปฏิบัติภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ” พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ กล่าว

3 กองทัพ ใช้ยุทธวิธีโจมตีคู่ขนาน ทำลายเป้าหมายทางทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ กำลังพล และฐานบัญชาการ ครอบคลุม ท่อน้ำเลี้ยง ทุนเทา สนับสนุนกองทัพกัมพูชาในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เปรียบทุบหม้อข้าว ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา

4 วันของการปะทะ ล่าสุด เครื่องบิน F-16 และ Gripen เข้าโจมตีทำลายกาสิโนกัมพูชาไปแล้วหลายแห่ง เช่น ที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ บริเวณด่านโอร์เสม็ด จ.อุดรมีชัย ที่ตั้งบ่อนกาสิโนของ “ลียง พัด” ถูกทางการไทยยึด และอายัดทรัพย์สิน และเครือข่าย รวมมูลค่ากว่า 400 ล้าน พัวพันสแกมเมอร์

โดยมีรายงานว่า พื้นที่ด้านหลังกาสิโนแห่งนี้มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่จำนวนหลายอาคาร เป็นทั้งห้องพัก และสำนักงาน ดำเนินการแล้วเกือบ 100% เพื่อรองรับการย้ายฐานคอลเซนเตอร์ และสแกมเมอร์จากปอยเปต และชเวโก๊กโก่ เมียนมา 

จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บริเวณจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย เป็นฐานบัญชาการปล่อยโดรนพลีชีพ คลังเก็บอาวุธหนัก จุดเติมเชื้อเพลิงรถยิงจรวด BM-21

พื้นที่กําลังบูรพา กองทัพภาค 1 ได้ใช้รถถัง Oplot จากยูเครน ยิงใส่กาสิโนกัมพูชา อยู่ตรงข้ามด่านบ้านตาพระยา จ.สระแก้ว ใช้เป็นสถานที่ตั้งฐานบัญชาการยิงอาวุธวิถีโค้ง ป้อมปืนกล และสะสมอาวุธของฝ่ายกัมพูชาโจมตีใส่พลเรือน และทหารไทย

ในส่วนของทหารเรือ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด(กป.จต.)ทหารนาวิกโยธิน ยิงปืนใหญ่ และใช้โดรนติดอาวุธ ทำลายกาสิโน ที่บ้านทมอดา ท่าเส้น จ.ตราด

สำหรับจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ปัจจุบันสัญญาณเรดาร์จับความเคลื่อนไหว 52 คัน โดยทหาร ทหารกัมพูชา ใช้วิธียิงโจมตีเสร็จ ถอยออกไปประมาณ 10 กม. หรือ วิ่งเข้าแหล่งชุมชน บ้านประชาชน หลบเลี่ยงปืนใหญ่ของไทย และจะกลับเข้ามายิงใหม่

“ยิงประมาณ 4-5 ท่อ แล้วก็เสร็จถอยกลับไป แล้วย้อนมายิงใหม่ ขึ้นอยู่เทคนิกว่าต้องการทำลายอะไร ส่วนการถอยหนี เพื่อหลบเรดาร์จากปืนใหญ่ไทย” แหล่งข่าว ทภ.2 ระบุ

แม้ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า การปฏิบัติการทางทหารจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ เพราะมีปัจจัยภายนอกแทรกซ้อน เช่น กองกำลังกัมพูชา การใช้อาวุธโจมตีฝ่ายไทย 

แต่ย้ำว่า ปฏิบัติการทั้งหมดถูกวางแผนเป็นขั้นตอน ล็อกเป้าโจมตีไว้หมดแล้ว เป็นการทํางานสอดประสานของ 3 เหล่าทัพ นำไปสู่เป้าหมายของกองทัพบก

"จะทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพ ขีดความสามารถทางการทหารไปอีกยาวนาน เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานของเรา”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์