มติรัฐสภา ปรับใหม่ ให้ วงประชุม 'กมธ.ร่าง-ฟังความเห็น' ทำเปิดเผย

กมธ.เสียงข้างมาก แพ้โหวตครั้งแรก หลัง "รัฐสภา" หนุนบัญญัติให้เผยแพร่การประชุม ระหว่างกมธ.ร่าง-ฟังความเห็น ต่อสาธารณะ ตามกมธ.เสียงข้างน้อย
ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยที่ประชุมได้พิจารณาต่อเนื่องถึง มาตรา 256/25 ว่าด้วยข้อกำหนดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง กรรมาธิการ (กมธ.) ร่างรัฐธรรมนูญ และ กมธ.รับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญเดือนละหนึ่งครั้ง โดยใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภามาบังคับใช้โดยอนุโลม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการพิจารณาเนื้อหานั้นพบว่ามีประเด็นที่สมาชิกรัฐสภาคัดค้านการแก้ไขของกมธ.เสียงข้างมาก เพราะไม่มีบทบัญญัติใดที่สนับสนุนให้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะทั้งที่ควรให้ประชาชนรับทราบ ขณะที่กมธ.เสียงข้างน้อย คือ นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สว. และ น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน ฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย ได้สงวนความเห็นให้เพิ่มเติมข้อความที่รองรับการเผยแพร่ทางสื่อสาธารณะ หรือการถ่ายทอดสดให้ประชาชนรับทราบ
ทั้งนี้ในการลงมติพบว่าเสียงข้างมากของที่ประชุมสนับสนุนความเห็นของ กมธ.เสียงข้างน้อย แต่ยังมีข้อถกเถียงถึงประเด็นการบัญญัติถ้อยคำ เนื่องจากคำสงวนความเห็นของ นพ.เปรมศักดิ์ ระบุเพียงว่า ให้มีการเผยแพร่การประชุมร่วมกันทางสื่อสาธารณะเพื่อให้ประชาชนทราบ ขณะที่ของนส.พนิดา กำหนดว่า ให้เป็นการประชุมโดยเปิดเผย ที่รัฐสภาต้องจัดให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมเพื่อให้ประชาชนรับได้อย่างทั่วถึง
ทำให้ที่ประชุมต้องพักการประชุมนานเกือบ 1 ชั่วโมงเพื่อให้กมธ.พิจารณาเนื้อหาและตกลงร่วมกันว่าจะใช้ถ้อยคำในคำสงวนของผู้ใด
หลังจากนั้นที่ประชุมได้กลับมาพิจารณา ซึ่ง น.ส.พนิดา อภิปรายยืนยันว่า ในการสงวนความเห็นนั้น กำหนดให้ใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาโดยอนุโลม ซึ่งต่อไปจะมีการแก้ไขว่า หากที่ประชุมอยากให้เป็นการประชุมลับ ต้องออกเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ดังนั้นหากไม่มีการใช้เกณฑ์ดังกล่าวจะทำให้การประชุมระหว่างง 2 กมธ. เป็นไปโดยเปิดเผยเป็นหลัก
“ถือเป็นประเด็นที่จะสร้างความชอบธรรมต่อการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งการประชุมร่วมกันของผู้ทำรัฐธรรมนูญจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสะท้อนการประชุมให้ประชาชนได้รับทราบ ว่าจากการรับฟังความเห็นมานั้น ได้กลับมาสะท้อนที่ตรงกับเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงความเห็นจริงหรือไม่ ซึ่งเป็นความชอบธรรมทางประชาธิปไตยให้กับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากที่สุด" น.ส.พนิดา อภิปราย
ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะกมธ. อภิปรายชี้แจงต่อว่า ในการสงวนความเห็นของกมธ.เสียงข้างน้อย มีเจตนารมณ์เดียวกัน คือให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมที่จะนัดหมายทุกเดือนเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยมีการกำหนดถ้อยคำที่ชัดเจน ตามที่นพ.เปรมศักดิ์ เสนอนั้นได้เขียนข้อความที่กระชับ แต่อาจเกิดการตีความได้ว่าจะถ่ายทอดสดหรือไม่ เพราะไม่ได้เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่หากเป็นไปตามความเห็นของ น.ส.พนิดา กำหนดชัดเจนว่าคือการถ่ายทอดสด ทั้งนี้ยืนยันว่า การสงวนความเห็นนั้นไม่มีความขัดแย้งกันเอง
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเพื่อตัดสิน โดยผลของมติเสียงข้างมากเห็นด้วยกับการแก้ไขที่เสนอโดย นพ.เปรมศักดิ์ ที่ระบุให้มีการเผยแพร่การประชุมร่วมกันระหว่าง กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และ ร่างกมธ.รับฟังความคิดเห็น ที่จัดขึ้นเดือนละหนึ่งครั้ง ทางสื่อสาธารณะเพื่อให้ประชาชนทราบ







