‘สาครบุรี’ ฝ่ากระแสส้ม โอกาส ‘น้ำเงิน’ 50 : 50?

“การเมืองระดับชาติ” ยังต้องจับตา เพราะลึกๆ แล้ว อีก 50% ที่เหลือ อาจต้องลุ้นว่าจะ “ฝ่ากระแสส้ม”ที่ปกคลุมอย่างหนาแน่นในการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาได้หรือไม่
KEY
POINTS
- พรรคภูมิใจไทย (พรรคน้ำเงิน) ตั้งเป้าชิง 4 ที่นั่ง ส.ส. ในสมุทรสาคร (สาครบุรี) โดยใช้กลยุทธ์ดึง "บ้านใหญ่ไกรวัตนุสสรณ์" เพื่อสู้กับ "กระแสส้ม" ของพรรคก้าวไกล
- โอกาส 50% ที่พรรคภูมิใจไทยจะชนะการเลือกตั้ง มาจากความเชื่อมั่นในฐานเสียงท้องถิ่นที่แข็งแกร่งของกลุ่ม "บ้านใหญ่" ซึ่งมีตำแหน่งนายก อบจ. ในปัจจุบัน
- อีก 50% คือความท้าทายและความไม่แน่นอนในการฝ่า "กระแสส้ม" ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเคยทำให้พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลชนะที่นั่งเกือบทั้งหมดและยกจังหวัดในการเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมา
- แกนนำพรรคภูมิใจไทยยอมรับว่ามีความมั่นใจ "กว่า 50%" แต่ที่เหลือยังต้องลุ้นว่าจะสามารถเอาชนะกระแสความนิยมของพรรคก้าวไกลที่ยังคงหนาแน่นในพื้นที่ได้หรือไม่
เดิมพันศึก“สาครบุรี” ฝ่ากระแสส้ม “ล้มบ้านใหญ่” จับตา 4 ที่นั่ง สส.“พรรคน้ำเงิน” ยังคงคอนเซ็ปภูมิใจดูด “บ้านใหญ่”ส่งสัญญาณสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังเกิดขึ้นในเร็ววัน
วันที่ 9 ธ.ค. “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย “นภินทร ศรีสรรพางค์” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย คุมโซนราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เปิดตัว “ว่าที่ผู้สมัครสส.” จังหวัดสมุทรสาครทั้ง 4 เขต ประกอบด้วย ธนชิต ทัศนีย์ไตรเทพ อนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ธนวัฒน์ ทองโต และปัญญา ชวนบุญ
ส่องลึก“ศึกสาครบุรี” รอบนี้ จะมีที่นั่งผู้แทนฯ เพิ่มจาก 3 ที่นั่ง เป็น 4 ที่นั่ง “พรรคน้ำเงิน” อาจยังต้องฝ่ากระแสส้ม
เพราะหากย้อนกลับไปในการเลือกตั้ง “2 ครั้งล่าสุด” พบว่า
การเลือกตั้ง ปี 2562 สมุทรสาคร มีสส.3 คน “บ้านใหญ่” เจอกระแสพรรคอนาคตใหม่ กวาดสส.ไป 2 ที่นั่ง และพรรคพลังประชารัฐกวาดสส.ไป 1 ที่นั่ง ประกอบด้วย
เขต 1 ทองแดง เบ็ญจะปัก จากพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนเป็นอันดับ1 ที่ 29,912 คะแนน ขณะที่ “ต่าย”อนุสรณ์ ลูกชายคนเล็ก “เฮียม้อ”มณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ. อดีตสส. และบ้านใหญ่เมืองสาครบุรี ย้ายจากพรรคเพื่อไทยลงชิงในนามพรรคชาติไทยพัฒนา หล่นไปอยู่อันดับ 3 ที่ 20,546 คะแนน
เขต 2 สมัคร ป้องวงษ์ จากพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ที่ 36,738 คะแนน
เขต 3 จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ จากพรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ที่ 25,323 ขณะที่ "ปัญญา ชวนบุญ" ลงชิงในนามชาติไทยพัฒนา ตามมาเป็นที่ 2 ด้วยคะแนน 23,671
ขณะที่การเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อ ปี 2566 ท่ามกลางสถานการณ์อลหม่าน ที่พรรคส้มเผชิญคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ส่งผลให้เกิดปรากฎการณ์ “ผึ้งแตกรัง” สส.ถูกช้อนจากพรรคการเมืองในซีกรัฐบาลเวลานั้น โดย “สมัคร” ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ก่อนย้ายไปพรรคชาติพัฒนา
ส่วน “สส.ทองแดง” ประกาศยุติบทบาท ไม่ลงเลือกตั้ง เพื่อเปิดทางพรรคก้าวไกล สรรหาบุคคลที่เหมาะสม
ผลการเลือกตั้งปรากฎว่า “3 ที่นั่งสส.”เจอกระแสพรรคส้ม แม้จะแปรสภาพจาก“พรรคอนาคตใหม่”เป็น“พรรคก้าวไกล” ก็ยังปักธงยกจังหวัด ประกอบด้วย
เขต 1 ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม จากพรรคก้าวไกล เอาชนะไปด้วย 45,545 คะแนน ขณะที่“อนุสรณ์” รอบที่ผ่านมา ลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อยู่ในลำดับที่ 52 หมดลุ้น สส.
เขต 2 ศิริโรจน์ ธนิกกุล จากพรรคก้าวไกล เอาชนะไปด้วย 46,896 คะแนน ขณะที่ “ธนวัฒน์”1 ใน 4 ว่าที่ผู้สมัคร ที่พรรคภูมิใจไทยเปิดตัว รอบที่ผ่านมาลงชิงในนามพรรคประชาธิปัตย์ ได้อับดับ 5 ที่ 3,274 คะแนน
เขต 3 ศิรสิทธิ์ สงนุ้ย จากพรรคก้าวไกล เอาชนะไปด้วย 35,068 คะแนน ขณะที่ “ปัญญา” ย้ายจากพรรคชาติไทยพัฒนา ลงชิงในนามภูมิใจไทย ตามมาที่ 2 ด้วย 29,047 คะแนน
แน่นอนว่า ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้าไม่นานหลังจากนี้ “เมืองสาครบุรี” จะยังคงเป็นอีกหนึ่งในสนามวัดพลังของบรรดาพรรคการเมือง
โดยเฉพาะ “พรรคน้ำเงิน” ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ดูด “บ้านใหญ่ไกรวัตนุสสรณ์” ที่เวลานี้มี “ปลัดแต” อุดม ไกรวัตนุสสรณ์ พี่ชาย “ต่าย” อนุสรณ์ เป็นนายก อบจ.สมุทรสาคร คนปัจจุบัน
จับอาการ “นภินทร” ในฐานะแม่ทัพพูดถึงความมั่นใจศึกสาครบุรีรอบนี้ มีความมั่นใจกว่า 50% ว่าจะผ่านการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากฐานเสียงบ้านใหญ่ผ่านสนามท้องถิ่น
ทว่า ภายใต้ปัจจัยที่กำลังจะเกิดขึ้น ใน“การเมืองระดับชาติ” ยังต้องจับตา เพราะลึกๆ แล้ว อีก 50% ที่เหลือ อาจต้องลุ้นว่าจะ “ฝ่ากระแสส้ม”ที่ปกคลุมอย่างหนาแน่นในการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาได้หรือไม่ อย่างไร!







