กัมพูชา ระดม BM 21 – ปืนใหญ่ – โดรนพลีชีพ ยิงถล่มทหารไทยต่อเนื่อง

กัมพูชา ระดม BM 21 – ปืนใหญ่ – โดรนพลีชีพ ยิงถล่มทหารไทย ทภ.2 ลั่น ตอบโต้ตามสิทธิป้องกันตัว ทำคู่มือฉบับประชาชน ลำดับเหตุการณ์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ธ.ค.68 รายงานข่าวจาก กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธนาๆ ชนิด โดยยิงจรวด BM 21 และปืนใหญ่ พร้อมโดรนทิ้งระเบิด มาฝั่งไทยบริเวณ ตำบลกระสุนตก ในแผ่นดินไทย พื้นที่ ปราสาทตาควาย ,ปราสาทตาเมือน ,ช่องปลดต่าง,เขาพระวิหาร,ช่องระยี ,ภูมะเขือ ,เนิน 600,บ้านภูมิซรอล ม.12,ช่องอานม้า ,ช่องบก,ปราสาทตาควาย,พลาญยาว
สำหรับตำบลกระสุนตก ที่ทางฝ่ายกัมพูชาใช้โดรนพลีชีพถล่มลงหนัก ในพื้นที่ พญาสัตบรรณ ,ช่องอานม้า,เนิน 561
ทั้งนี้ทาง กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดทำ อินโฟกราฟิก เรื่องสถานการณ์กัมพูชา (ฉบับสื่อสารประชาชน) เพื่อสร้างความรับรู้ และเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ฝ่ายไทยนั้นป้องกันตัวเองมิได้รุกรานเข้าไปในพื้นที่ของกัมพูชา มีแต่ทางกัมพูชาที่เข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย และเป็นฝ่ายเริ่มยิงเข้ามาในประเทศไทยก่อน
1.ไทยป้องกันตัว ไม่ใช่ฝ่ายรุกราน ทุกการปฏิบัติการของกองทัพไทย มีเป้าหมายเพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน เท่านั้น ไม่ใช่การเริ่มต้นความขัดแย้ง
2 มีภัยคุกคามต่อชีวิตคนไทยจริงเกิดเหตุ ลอบวางทุ่นระเบิดยิงใส่ทหารไทยจนบาดเจ็บและพิการ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งทหาร และประชาชน
3 ข่าวกรองยืนยัน มีอาวุธหนักเล็งเป้าเข้าไทย ตรวจพบการเคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้องพิสัยไกลกว่า 100 กิโลเมตร และมีการเล็งเป้าไปยังพื้นที่ใกล้ สนามบินบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นภัยต่อพลเรือนโดยตรง
4.กองทัพไทยจำเป็นต้องตอบโต้ ตามกฎหมายสากล การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตาม กฎการปะทะ และสิทธิในการป้องกันตนเอง ของรัฐอธิปไตย
5.จะไม่รอให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อก่อน กองทัพจะยับยั้งภัยคุกคามเชิงรุกทันที เพื่อไม่ให้คนไทยต้องสูญเสีย
6 ฝ่ายกัมพูชามีพฤติกรรม เป็นปรปักษ์ซ้ำซากทั้งการกระทำที่เป็นภัยจริง (Hostile Act) และการแสดงเจตนาคุกคาม (Hostile Intent) เกิดขึ้นต่อเนื่อง
7.กองทัพไทยจะปฏิบัติการกิจนี้ จนกว่าประเทศ และประชาชนจะปลอดภัยอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มกำลัง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







