2 คม‘ชาตินิยม’ สู้ไป เสียวไป สลัดยี้‘อนุทิน’ สุดซอย ‘กัมพูชา’

2 คม‘ชาตินิยม’ สู้ไป เสียวไป สลัดยี้‘อนุทิน’ สุดซอย ‘กัมพูชา’

อันตรายของ “อนุทิน” หนีไม่พ้นพิษสงของเครือข่าย”ฮุน เซน” ที่อาจแว้งกัดด้วยประเด็นที่คิดไม่ถึงได้ทุกเมื่อ 

KEY

POINTS

  • สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง กลายเป็นอีกบททดสอบสำคัญของรัฐบาล หลังโดนวิจารณ์แก้น้ำท่วมหาดใหญ่ล้มเหลว
  • รัฐบาลเผชิญแรงกดดันให้ใช้แนวทางแข็งกร้าวกับกัมพูชา ปลุกกระแสชาตินิยม ก่อนเลือกตั้ง
  • อนุทิน เองก็มีความเสี่ยงอาจโดนเครือข่ายอำนาจในกัมพูชา แว้งกัดได้ทุกเมื่อ

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาเดือดอีกครั้งในจังหวะที่อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เพิ่งจะหายเมาหมัดจากวิกฤติน้ำท่วมหาดใหญ่ อยู่ในช่วงฟื้นฟูเยียวยา ยังไม่สะเด็ดน้ำ แถมเสียงวิจารณ์ถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการในพื้นที่ก็ยังมีอยู่

น่าสนใจว่า การที่ฝ่ายกัมพูชา เปิดฉากโจมตีใส่ไทยก่อน ตามการสื่อสารของกองทัพ ที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน ส่งผลให้ความตึงเครียดขยายวงกว้าง สถานการณ์ของรัฐบาลตอนนี้ไม่ต่างจากรัฐบาลก่อน คือต้องรบกับกัมพูชา 

การปะทะที่ชายแดนรอบนี้ จึงเป็นเดิมพันสำคัญของรัฐบาลอนุทิน ที่อาจทำให้กระแสตีกลับหรือไม่อย่างไร จากที่ผู้คนคาดหวังหลังเปลี่ยนรัฐบาล ทุกอย่างน่าจะคลี่คลาย ชาวบ้านกลับไปใช้ชีวิตทำมาหากินตามปกติ

แต่แล้วเหตุการณ์ปะทะล่าสุด ดันมาเกิดในช่วงท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บรรยากาศและอารมณ์ผู้คนอยู่ในช่วงเฮฮาปาร์ตี้ เฉลิมฉลอง เตรียมเดินทางกลับบ้าน ท่องเที่ยว หลายคนคาดหวังเรื่องเศรษฐกิจกระเตื้องจากการจับจ่ายใช้สอย

สวนทางในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา ประชาชนกลับต้องอพยพ ห้างร้านเสียโอกาสค้าขาย ตรงนี้จึงอาจเป็นจุดเสี่ยงสำคัญของรัฐบาลอนุทิน ต้องบริหารอารมณ์คนให้ดี เพราะได้รับผลกระทบเต็มๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก

จุดชี้ขาดสำคัญของศึกกับกัมพูชา รอบนี้มีเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่ายถึงรัฐบาลขอให้จัดการแบบม้วนเดียวจบ เอาให้สุดซอยไปเลย ขืนกล้าๆ กลัวๆ ปล่อยยืดเยื้อไม่จบ ความนิยมยิ่งหดหายกลางกระแสชาตินิยม จะแค่ถล่มกาสิโนบางแห่งราบคาบ หรือต้องดับซ่าฮุน เซน

งานนี้ถึงต้องวัดใจอนุทิน อย่างขีดสุด จะสู้ไป เสียวหลังไปหรือไม่ เพราะเครือข่ายอำนาจในกัมพูชา โยงใยถึงเครือข่ายอีลีท และกลุ่มทุนในไทยไม่น้อย ตัวเชื่อมสำคัญที่เห็นชัดสุด คือ เบน สมิธ ที่ปรึกษาฮุน เซน ที่เพิ่งถูกมือดีปล่อยภาพดิสเครดิตอนุทินไปหมาดๆ หลัง ปปง. อายัดทรัพย์กว่าหมื่นล้านของ 3 เครือข่ายสแกมเมอร์ ทั้งเบน สมิธ ยิม เลียก เฉิน จื้อ และก๊ก อาน

เกมสกัดดาวรุ่งอนุทิน บ้างก็ว่ามาจากคนในรัฐบาลกันเอง บ้างก็ว่ามาจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่เจ้าหนึ่ง ที่เสียประโยชน์จากรัฐบาลนี้

ภาพอนุทิน ร่วมเฟรมเบน สมิธ แม้จะเก่า แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่า ยังมีทีเด็ดจัดการอนุทิน และบิ๊กสีน้ำเงิน ซึ่งก็ทยอยปล่อยภาพเพิ่มว่าอนุทินใกล้ชิดบิ๊กในกัมพูชาไม่น้อยไปกว่าใคร และในมือฮุน เซน อาจมีมากกว่านี้

ด้วยความที่รัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่แข็งแรงพอจะยืนท้าชนใคร เจอขู่ซักฟอก ก็แบะท่ายุบสภาทันที ต้องมีพรรคประชาชนค้ำ แลกเงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านวาระ 3

สิ่งที่ทำให้อนุทินหัวเสียที่สุด คงจะไม่พ้นวาทกรรมจากเพื่อไทย โจมตีว่าทำงานไม่เป็น ท่ามกลางกระแสข่าว ดีลลับอาหลาน เพื่อคนข้างใน จนเป็นเหตุให้ค่ายแดงดึงเกมซักฟอกหรือไม่ ว่ากันว่า มีการส่งซิกถึงลูกพรรคให้เพลาๆ กับอนุทิน แต่ก็ดูจะก็คุมไม่ค่อยอยู่

รัฐบาล 4 เดือน ที่อายุขัยสิ้นสุดยุบสภาภายใน 31 ม.ค.2569 เจอแต่ปัญหารุมเร้า ตั้งแต่เสถียรภาพ การจัดการน้ำท่วมหาดใหญ่ล้มเหลว ปัญหาแก๊งสีเทาที่เกาะเกี่ยวกับเครือข่ายคนในรัฐบาล และปัญหาชายแดน

โชคดีที่บุรีรัมย์ได้สัญญาจัดการแข่งขัน MotoGP ต่อไปอีก 5 ปี มูลค่า 4 พันล้านจาก ครม.อนุทิน ไปแล้ว ถ้าดันอนุมัติหลังน้ำท่วมหาดใหญ่ หรือศึกกัมพูชา มีหวังเละเป็นโจ๊ก

สถานการณ์ที่เข้าทางอนุทิน ให้โหนเรื่องชาตินิยม สยบกัมพูชา เป็นความท้าทายที่ถอยไม่ได้ เกมนี้ก็ไม่รู้จะไปสุดตรงไหน รู้อย่างเดียวทุกอย่างมีราคาต้องจ่าย

อันตรายของอนุทิน หนีไม่พ้นพิษสงของเครือข่ายฮุน เซน ที่อาจแว้งกัดด้วยประเด็นที่คิดไม่ถึงได้ทุกเมื่อ