'สส.เซีย' ชง 2 ข้อจี้ 'ไดกิ้นฯ' เคลียร์ปมปิดงาน 'แรงงาน' โดยเร็ว

'สส.เซีย' ชง 2 ข้อจี้ 'ไดกิ้นฯ' เคลียร์ปมปิดงาน 'แรงงาน' โดยเร็ว

'สส.เซีย' จี้นายจ้าง 'บ.ไดกิ้นฯ' ปิดงาน กระทรวงแรงงาน ชง 2 ประเด็น ต้องประสานไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ปม 'โบนัส' ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว

KEY

POINTS

  • สส.เซีย จำปาทอง เรียกร้องให้บริษัทไดกิ้นฯ และสหภาพแรงงานเร่งแก้ไขข้อพิพาทเรื่องสวัสดิการและโบนัส หลังบริษัทประกาศปิดงาน
  • เสนอให้กระทรวงแรงงานเข้ามาเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายหาข้อยุติร่วมกันได้โดยเร็วที่สุด
  • เรียกร้องให้ทั้งบริษัทและสหภาพแรงงานกลับมาเจรจากันอีกครั้งบนพื้นฐานของเหตุผลและความเป็นธรรม
  • ข้อพิพาทเกิดจากการที่บริษัทปรับลดสวัสดิการพนักงานอายุงานครบ 10 ปี และลดโบนัส แม้ผลกำไรของบริษัทจะเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2568 หลังจากที่วานนี้ (4 ธ.ค.) บริษัทไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) ประกาศ “แจ้งปิดงานงดจ้าง” นั้น ล่าสุด นายเซีย จำปาทอง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) สัดส่วนเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน แสดงความเห็นถึงกรณีนี้ว่า ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยืดเยื้อหลายเดือนระหว่างบริษัทไดกิ้นอินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับสหภาพแรงงานไดกิ้นอมตะรักษ์เสรี ในประเด็นการเจรจาสวัสดิการและโบนัส ซึ่งสืบเนื่องมาจากการที่สหภาพฯ ยื่นข้อเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง ขณะที่บริษัทยื่นข้อเรียกร้อง(สวนกลับ) เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างต่อสหภาพแรงงานเช่นเดียวกัน

นายเซีย กล่าวว่า โดยที่ผ่านมามีข้อเรียกร้องที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้คือ จำนวนเงินโบนัส เงินบวกเพิ่ม และทองคำ โดยสหภาพแรงงานขอให้บริษัทกลับมาใช้สวัสดิการเดิม คือ “ทอง 3 บาท+เงิน 1 หมื่น”สำหรับพนักงานอายุงานครบ 10 ปี หลังจากที่ปีนี้ (2568) บริษัทตัดสวัสดิการทองออกและปรับเหลือเพียง “เงินสด 4 หมื่นบาท” และลดโบนัสลง ทั้งที่ผลกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบ “6 พันล้านบาท”

นายเซีย กล่าวอีกว่า วานนี้ (4 ธ.ค. 2568) ถือเป็นการเจรจาครั้งที่ 11 ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ โดยครั้งนี้ทางบริษัทประกาศใช้สิทธิ “ปิดงาน” ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2568 เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ขณะที่สหภาพฯ เตรียมประชุมสมาชิกและแถลงความคืบหน้าในวันอาทิตย์นี้

นายเซีย กล่าวด้วยว่า ตนได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง ตนเห็นว่าจำเป็นต้องเร่งหาทางออกร่วมกัน เพื่อไม่ให้สถานการณ์ยืดเยื้อบานปลายและกระทบต่อคนงานหนักไปกว่านี้ จึงขอเสนอ 2 ประเด็นสำคัญดังนี้

1. กระทรวงแรงงาน ต้องเป็นตัวกลาง ประสานงานเพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯ ให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาหาข้อยุติร่วมกันได้โดยเร็ว

2. ขอให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจากันบนพื้นฐานของ “เหตุและผล” อีกครั้ง เพื่อเปิดใจรับฟังและหาข้อยุติร่วมกันอย่างเป็นธรรม

"ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องแรงงานไดกิ้นทุกคนที่ยืนหยัดปกป้องสิทธิของตัวเอง และขอยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างแรงงานทุกคนในทุกสถานการณ์ ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องเร่งหาทางออกร่วมกัน!” นายเซีย กล่าว