'อนุทิน-เอกนิติ-บิ๊กแดง' แจงปมร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' ภาพเก่า ปัดคบหา

'อนุทิน' แจงภาพร่วมโต๊ะกินข้าว 'เบน สมิธ' ภาพเก่าปี 57 หลังรัฐประหาร รู้ว่าใคร แต่ไม่ได้คบหา 'เอกนิติ' เจอตอนเป็นอาจารย์หลักสูตร ตร. 'บิ๊กแดง' แจงเจอตอนดูงาน วปอ.
KEY
POINTS
- นายอนุทิน ชาญวีรกูล ชี้แจงว่าเป็นภาพเก่าตั้งแต่ปี 2557 ที่สิงคโปร์ ยืนยันว่าไม่ได้คบหา และในฐานะ รมว.มหาดไทย เป็นผู้สั่งไม่อนุมัติสัญชาติไทยให้เบน สมิธ
- นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ระบุว่าเจอเบน สมิธ ในงานเลี้ยงของหลักสูตรสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ตนเป็นอาจารย์ แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวและจำไม่ได้ว่าพูดคุยอะไรกัน
- พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ (บิ๊กแดง) แจงว่ารู้จักเบน สมิธ เพียงผิวเผิน โดยพบกัน 2 ครั้ง คือตอนไปดูงานที่สิงคโปร์ และในงานแต่งงานลูกสาวซึ่งมีแขกจำนวนมาก
จากกรณีช่วงค่ำคืนวันที่ 3 ธ.ค. 2568 ภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย แถลงข่าวสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์สินแก๊งสแกมเมอร์ ในเครือข่ายนายเบน สมิธ นายยิม เลียก และนายก๊ก อาน กว่าหมื่นล้านบาทนั้น
ต่อมา นายชนะ ผาสุกสกุล นักข่าวในเครือกลุ่มแมเนเจอร์ ได้โพสต์ภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทยได้แก่นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) นายอุปกิต ปาจรียางกู อดีต สว. พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2568 นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เปิดเผยในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวานมีโอกาสคุยกับ นายอนุทิน ถามว่าเกิดขึ้นได้ยังไง นายอนุทิน บอกว่าเป็นภาพเก่าเมื่อปี 2557 จำได้คร่าวๆ หมายความว่าหลังรัฐประหาร เมื่อปี 2557 มีการเดินทางไปสิงคโปร์ แล้วก็ไปเจอกับคณะของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง “ผู้บัญชาการกองพลที่ 1” และมีการเจอกับนายเบน สมิธ ก็จำได้ และจนมาเป็นข่าววันนี้ก็จำได้ว่าคนนี้คือนายเบน สมิธ แต่ยืนยันว่าไม่ได้คบหา
นายสรยุทธ อ้างอีกว่า นายอนุทินระบุว่าตั้งแต่มีการอภิปรายถึงนาย เบน สมิธ ตนก็รู้ และก็เป็นคนที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่ามีความพยายามขอสัญชาติไทย และตนในฐานะรมว.มหาดไทย ก็ไม่ได้อนุญาตให้สัญชาติกับนายเบน สมิธ แต่อย่างใด นี่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่จะยืนยันว่าไม่ได้มีการคบค้า และตนก็สงสัยด้วยซ้ำไปว่า หลังจากนั้นอาจจะเป็นส่วนที่ทำให้ถูกผลักออกจากกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ จากกรณีที่ไม่ได้ให้สัญชาติกับนายเบน สมิธ
นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า ปี 2557 ยังไม่มีประเด็นสแกมเมอร์เกิดขึ้นเลย และไล่เหตุการณ์ว่ามีการพบปะกัน นั่งรับประทานอาหารด้วยกัน แต่ไม่ได้มีการคบหา สิ่งที่จะพิสูจน์ก็คือในรัฐบาลตน ก็มีการยึดทรัพย์นายเบน สมิธ และนายยิม เลียก ตลอดจนสั่งให้ดำเนินการไปตามกฏหมาย
"เอกนิติ" เผยเจอตอนเป็นอาจารย์ แต่ไม่รู้ "เบน สมิธ" มาเรียนหรือแขกรับเชิญ
นอกจากนี้ นายสรยุทธ ได้โฟนอินสัมภาษณ์นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกฯ และรมว.คลัง ที่มีภาพปรากฎในงานเลี้ยงกับนายเบน สมิธ ว่า เป็นงานเลี้ยงหลักสูตรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น่าจะช่วยหลังจากโควิด ยังมีหน้ากากอนามัย ไปในฐานะที่ปรึกษา และอาจารย์ของหลักสูตรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รุ่นนึงมี ร้อยกว่าคน แต่ไม่รู้จักทุกคน เป็นอาจารย์ไปบรรยาย แล้วเวลามีงานเลี้ยงหรือกิจกรรมก็จะเชิญอาจารย์ไปด้วย แต่ไม่รู้ว่านายเบน สมิธ เป็นนักเรียนร่วมรุ่นหรือแขกที่เชิญมา
นายเอกนิติ กล่าวว่า ต้องชี้แจงว่าจำไม่ได้เลยว่าพูดคุยอะไรกัน เพราะเป็นปกติในงานเลี้ยงที่พบปะพูดคุย วันนี้ยังจำไม่ได้เลย แต่พอเห็นรุปก็ถึงนึกออก น่าจะเป็นช่วง 5-6 ปีที่แล้วเนื่องจากมีหน้ากากอนามัยแขวนอยู่ แต่ยืนยันไม่ได้คบหานายเบนสมิธ แน่นอน
เมื่อถามว่าตอนอภิปรายเรื่องเบนสมิธ พอนึกออกไหม นายเอกนิติ กล่าวว่า พอเขาดังขึ้นมาก็นึกออก แต่ตอนนั้นจำไม่ได้ ก็มีคนมาแลกนามบัตร ในงานเลี้ยง
“ผมตรงไปตรงมา ตอนนี้ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ตอนนี้ไปงานเลี้ยง ไปงานสัมมนา ก็มีคนมาขอถ่ายรูป ก็ต้องระวังมากขึ้น ผมเองก็ไม่มีภาพนี้ คือในทุกหลักสูตรก็มีคนมาขอถ่ายรูป”นายเอกนิติ กล่าว
"บิ๊กแดง" แจงรู้จักกันผิวเผิน เจอตอนเรียน วปอ.-งานแต่งลูกสาว
ล่าสุด นายสรยุทธ อ้างว่า พล.อ.อภิรัชต์ ติดต่อมาผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ชี้แจงว่า ได้เห็นภาพนี้แล้ว ขอชี้แจงตามนี้ โดยภาพแรก ภาพปี 2557 ขณะเรียนหลักสูตร วปอ. เดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ มีเพื่อนแนะนำให้รู้จักนายเบน สมิธ เป็นนักธุรกิจ และรับประทานอาหาร ซึ่งยังจำได้ว่านายอนุทิน บอกว่า อเมริกันแชร์ คือทุกคนจ่ายค่าอาหารทุกคน ไม่มีใครเลี้ยง อีกภาพงานแต่งงานลูกสาว และคนมาร่วมงานเยอะ โดยยืนยันไม่ได้สนิทคบหา เป็นการรู้จักผิวเผินกับนายเบน สมิธ







