'อนุสรณ์' ชี้กระแสจี้ 'นายกฯ' ลาออก สะท้อน ปชช.เสียความเชื่อมั่น

'อนุสรณ์' กระทุ้งกระแสจี้ 'นายกฯอนุทิน' ลาออก เซ่นวิกฤติ 'น้ำท่วมภาคใต้' สะท้อนภาวะสูญเสียความเชื่อมั่นรุนแรง ของ 'รัฐบาลเสียงข้างน้อย'
KEY
POINTS
- นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ชี้ว่ากระแสเรียกร้องให้นายกฯ อนุทินลาออก เป็นผลมาจากความล้มเหลวในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งสะท้อนว่าประชาชนได้สูญเสียความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล
- วิกฤตน้ำท่วมได้พัฒนาไปเป็นวิกฤตศรัทธา ทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยตกอยู่ในภาวะเปราะบาง และการแสดงความเสียใจของนายกฯ ไม่เพียงพอที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นได้
- ประชาชนได้แสดงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลผ่านช่องทางสาธารณะอย่างกว้างขวางไปแล้ว ก่อนที่ฝ่ายค้านจะดำเนินการอย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสสังคมที่เรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ภายหลังจากที่รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าล้มเหลวในการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วม ว่า วิกฤตน้ำท่วมได้พัฒนาไปเป็นวิกฤตศรัทธาของรัฐบาลอย่างสมบูรณ์แบบ ความเชื่อมั่นของประชาชนเสื่อมทรุดอย่างมีนัยสำคัญ ภาพลักษณ์ที่รัฐบาลพยายามสร้าง คะแนนความนิยมที่พยายามหา ถูกกระแสน้ำพัดพาไปอย่างรวดเร็ว
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีนักวิชาการออกมาประเมินสถานการณ์ตรงกันว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยกำลังตกที่นั่งลำบาก อยู่ในภาวะเปราะบางและถูกจับตามองจากสาธารณะในแทบทุกมิติ แม้นายอนุทินจะออกมาขอโทษหรือร้องไห้แสดงอารมณ์สะเทือนใจอีกกี่ครั้ง แต่การกระทำดังกล่าว ไม่เพียงพอ ที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นต่อศักยภาพของรัฐบาลในการคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วม
แม้ระดับน้ำในจังหวัดสงขลาจะเริ่มลดลง แต่หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้และภาคกลางยังคงมีประชาชนจำนวนมากที่จมน้ำและรอความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ประชาชนต้องการเห็นรัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วน ทั้งในด้าน การสำรวจและประเมินความเสียหายอย่างเป็นมาตรฐาน การฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ การบริหารจัดการภัยพิบัติตามหลักสากล การวางระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม
"ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเสียงข้างน้อยเมื่อไหร่ เป็นเรื่องที่สังคมกำลังจับตามอง แต่ความจริงที่เกิดขึ้นแล้วคือ ประชาชนได้ลุกขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไปก่อนหน้านี้อย่างกว้างขวาง ผ่านทุกช่องทางสาธารณะ และได้ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายอนุทิน ให้พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี ไปแล้ว ด้วยพลังของประชาชนเอง" นายอนุสรณ์ กล่าว







