'ณัฐชา' จี้ พม.รับช่วงต่อให้ดี ไปหาดใหญ่ตั้งศูนย์ประสานงานด่วน

'ณัฐชา' ชี้ พม. ต้องรับช่วงต่อให้ดี เร่งระดมนักสังคมสงเคราะห์–นักจิตวิทยา ลงพื้นที่หาดใหญ่ พร้อม ตั้ง 'ศูนย์ประสานงานครอบครัวผู้สูญเสีย' โดยด่วน
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2568 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) แสดงความกังวลต่อสถานการณ์หลังน้ำลด ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีการพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รับช่วงภารกิจต่อ จากหน่วยกู้ภัยและท้องถิ่นอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในด้านการดูแลผู้ประสบภัย การช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย และการจัดการศพตามหลักวิชาการและหลักมนุษยธรรม
นายณัฐชา ระบุว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่รัฐต้องเร่งเสริมกำลังบุคลากร สหวิชาชีพลงพื้นที่ได้แล้ว ตอนนี้้ช้าไปมาก “ระบบจัดการศพต้องพร้อม ทีมสังคมสงเคราะห์ต้องแข็งแรง นี่คือสิ่งที่รัฐต้องมี” พร้อมชี้ว่าในสถานการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทันที ทั้งนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา และทีมนักพัฒนาชุมชน เพื่อทำหน้าที่คัดกรอง ให้คำปรึกษา เยียวยาจิตใจ และประสานงานเอกสารสำคัญให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว
นอกจากนี้ กระทรวง พม. ควรทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข ตำรวจ แพทย์นิติเวช และองค์กรด้านป้องกันภัยพิบัติ จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานครอบครัวผู้สูญเสีย” เพื่อให้บริการตรวจสอบข้อมูลผู้เสียชีวิต การพิสูจน์อัตลักษณ์ และการจัดการศพอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน ลดความสับสน ลดความทุกข์จากการรอคอย และทำให้ครอบครัวสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างโปร่งใสและเป็นระบบ
นายณัฐชา ระบุด้วยว่า งานจัดการศพอาจเป็นหน้าที่ของตำรวจและแพทย์นิติเวช แต่ ‘งานดูแลใจคน’ เป็นภารกิจที่นักสังคมสงเคราะห์ ต้องเข้าไปเติมเต็ม เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ต่อผู้เสียชีวิต แต่คือบาดแผลทางใจของผู้ที่ยังอยู่ ครอบครัวผู้สูญเสียจำนวนมากอยู่ในภาวะช็อก ต้องเผชิญภาพที่ยากจะยอมรับได้ และยังต้องเดินผ่านขั้นตอนราชการที่ซับซ้อนท่ามกลางความเศร้าโศกอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมสงเคราะห์และด้านจิตเวชเข้าไปช่วยประคับประคองอย่างใกล้ชิด
”นักสังคมสงเคราะห์มีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอน เช่น การช่วยประคับประคองครอบครัวผู้สูญเสียในช่วงช็อก การอธิบายขั้นตอนนิติเวชและภาษาราชการให้เข้าใจง่าย การลดความสับสนและดูแลด้านอารมณ์ การประสานสิทธิ เยียวยา และขั้นตอนเอกสาร การส่งต่อบริการสุขภาพจิตเมื่อจำเป็น และการดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่สูญเสียผู้ดูแล เป็นต้น บทบาทเหล่านี้ไม่เพียงซัพพอร์ตด้านจิตใจ แต่ยังครอบคลุมการประเมินความเสี่ยง วางแผนช่วยเหลือเฉพาะราย และจัดหาทรัพยากรจำเป็น ให้เข้าถึงสิทธิ เพื่อให้ทุกครอบครัวได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม ไม่ถูกปล่อยทิ้งไว้ข้างหลังระหว่างวิกฤติ“ นายณัฐชา ระบุ
ภาพและข้อมูลจาก Nattacha Boonchaiinsawat - ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์







