'สว.'เปิดศูนย์ช่วยน้ำท่วมใต้ แนะ 'รัฐบาล' เร่งเยียวยา-ฟื้นฟู

'สว.'เปิดศูนย์ช่วยน้ำท่วมใต้ แนะ 'รัฐบาล' เร่งเยียวยา-ฟื้นฟู

"วุฒิสภา" เปิดศูนย์ช่วยน้ำท่วมใต้ "เกรียงไกร" มอง "อนุทิน" ลุยงานไม่ล่าช้า แนะให้เร่งเยียวยา และฟื้นฟูบ้านเรือน-สภาพจิตใจ

ที่รัฐสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 พร้อมด้ว สว. ร่วมเปิด ศูนย์ประสานงานของ วุฒิสภาช่วยน้ำท่วม หลังงจากเกิดสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นในหลายจังหวัดภาคไต้(น้ำท่วมภาคใต้) โดยเฉพาะ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

โดย พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า มหาอุทกภัยครั้งนี้ทำให้เกิดผลกระกระทบและสร้างความเสียหายในวงกว้างต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก ทางวุฒิสภามีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว  โดยนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานของวุฒิสภา ขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และมอบหมายให้ตนซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนอยู่แล้วเป็นผู้ดู ที่สำคัญเคยมีประสบการณ์เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 และสว.บางคนได้ประสานงานติดต่อตามเครือข่ายของแต่ละคนได้ดำเนินการตรวจสอบอุปกรณ์ที่จำเป็น ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำ โดยส่งไปในพื้นที่ก่อนหน้านี้แล้ว

พล.อ.เกรียงไกร กล่าวต่อว่า ตนได้เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน เพื่อหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้มีการเปิดรับบริจาคเงิน จากสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งคาดว่าได้ไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท ซึ่งตอนนี้ได้ 2-3 แสนบาทแล้ว เพื่อนำเงินที่ได้รับส่งต่อให้แก่ สว.ในพื้นที่ นำไปบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนที่ประสบภัยให้ได้มากที่สุด

"ขณะนี้ได้รับน้ำใจจากสมาชิกหลายคนที่กำลังระดมเงินบริจาคกันพอสมควร วุฒิสภาขอส่งกำลังใจขอให้ประชาชนที่ประสบภัยทุกคน แม้ว่าในบางส่วนอาจจะไม่ได้ลงไปในพื้นที่ และขอให้กำลังใจ ให้กับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นทางภาครัฐและภาคเอกชนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่" พล.อ.เกรียงไกร กล่าว

เมื่อถามถึงมุมมองต่อการทำงานของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ถูกวิจารณ์ว่า พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่าไม่ล่าช้า  เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณวันที่ 21 พ.ย.เห็นว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงไปในพื้นที่ทันที และดำเนินการในขั้นต้น ซึ่งสถานการณ์ในหาดใหญ่ น้ำไม่ท่วมมาเกือบ 20 ปี ดังนั้นความไม่คาดคิดทำให้การบริหารสถานการณ์ในขั้นต้นอาจจะฉุกเฉิน อย่างไรก็ดีเมื่อทุกภาคส่วนภาคเอกชนและมูลนิธิต่างๆ ได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้ให้การช่วยเหลือ 

“จากสถานการณ์ที่เห็นบางพื้นที่เข้าไม่ได้จริงๆเพราะน้ำเชี่ยว อีกทั้งมีอุปสรรคในการเดินเรือ แต่หลังจากมีการสั่งการของนายกรัฐมนตรี แบ่งหน้าที่การทำงานน่าจะดีขึ้น จากประสบการณ์ของผม เมื่อครั้งเป็นแม่ทัพภาค 4 เรามีการแบ่งโซน ในการดูแลของแต่ละหน่วยทหารเพื่อเป็นหน้าที่กระทำ ก็จะทำให้การบริหารงานแก้ไขปัญหาต่อเนื่องได้ แต่เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาเหนือความคาดหมายก็เลยเกิดการติดต่อสื่อสารที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามทันท่วงที เพราะรถทหารบางคันที่ว่าสูงแล้วก็ยังเข้าไม่ได้"พล.อ.เกรียงไกรกล่าว 

เมื่อถามถึงมุมมองต่อการทำงานของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ถูกวิจารณ์ว่า พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่าไม่ล่าช้า  เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณวันที่ 21 พ.ย.เห็นว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงไปในพื้นที่ทันที และดำเนินการในขั้นต้น ซึ่งสถานการณ์ในหาดใหญ่ น้ำไม่ท่วมมาเกือบ 20 ปี ดังนั้นความไม่คาดคิดทำให้การบริหารสถานการณ์ในขั้นต้นอาจจะฉุกเฉิน อย่างไรก็ดีเมื่อทุกภาคส่วนภาคเอกชนและมูลนิธิต่างๆ ได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้ให้การช่วยเหลือ  

พล.อ.เกรียงไกร กล่าวโดยเชื่อว่า นายกฯ รีบเร่งดำเนินการเรื่องการเยียวยาและฟื้นฟูอาคาร สถานที่ บ้านเรือน เพราะการฟื้นฟูเป็นเรื่องที่สำคัญนอกจากนั้นคือต้องฟื้นฟูจิตใจผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย