'ประกันสังคมก้าวหน้า' ผุดไอเดียใหม่ ชงนโยบายกรณีเกิดภัยพิบัติ

'ทีมประกันสังคมก้าวหน้า' ผุดไอเดียใหม่ เตรียมผลักดันนโยบายประกันสังคม กรณีเกิดภัยพิบัติในปัจจุบัน ชดเชยการขาดรายได้
KEY
POINTS
- กลุ่มประกันสังคมก้าวหน้าเสนอนโยบายเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตนและสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ เช่น อุทกภัย
- เสนอให้ปรับเพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้สำหรับผู้ประกันตนในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย จากเดิม 50% เป็น 80% ของค่าจ้างรายวัน
- เสนอโครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูอาชีพและรักษาการจ้างงาน สำหรับนายจ้างในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติโดยเฉพาะ วงเงิน 3,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2568 ทีมประกันสังคมก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีนโยบายประกันสังคมกรณีเกิดภัยพิบัติในปัจจุบันและข้อเสนอเพิ่มเติม โดยระบุว่า จากเหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่ทั้งทางภาคใต้และอีกหลายจังหวัดในภาคกลางทำให้ผู้ประกันตนจำนวนมากไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ และทำให้สถานประกอบการบางแห่งไม่สามารถดำเนินกิจการได้ส่งผลต่อทั้งเศรษฐกิจในพื้นที่และระดับประเทศ จึงขอเสนอนโยบายเพื่อชดเชยการขาดรายได้และนโยบายช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้เศรษฐกิจประเทศกลับมาเป็นปกติ
สำหรับนโยบายที่เป็นสวัสดิการรองรับสำหรับผู้ประกันตนและสถานประกอบการที่บอร์ดประกันสังคมอนุมัติไปแล้วและมีผลใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แก่
เงินทดแทนขาดรายได้ในอัตรา 50% ของค่าจ้างรายวัน ครอบคลุมระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 180 วัน ในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยในกรณีนี้คืออุทกภัย โดยผู้ประกันตนจะต้องยื่น แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน หนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยจากนายจ้าง
โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ม หนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย และแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ได้จากเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคมก่อนนำส่งเอกสารไปยังสำนักงานประกันสังคมพื้นที่
โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2568–2569) เป็นมาตรการช่วยเหลือสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและต้องการรักษาการจ้างงานเดิม พร้อมเปิดให้สถานประกอบการยื่นขอหนังสือรับรองความเป็นสถานประกอบการและยื่นกู้กับธนาคารได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป มาตรการสินเชื่อนี้กำหนดให้สถานประกอบการที่จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือนติดต่อกัน สามารถเข้าร่วมโครงการได้ และรักษาการจ้างงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ใน 3 ปีแรกของสัญญา โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อสูงสุดแตกต่างกันตามขนาดของธุรกิจ ตั้งแต่ 15-50 ล้านบาท
ทีมประกันสังคมก้าวหน้าเสนอผลักดันนโยบายเพิ่มเติม 2 นโยบาย ได้แก่
โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูอาชีพและรักษาการจ้างงาน เจาะจงในพื้นเศรษฐกิจที่ประสบอุทกภัย ซึ่งมาตรการสินเชื่อนี้สำหรับนายจ้างที่จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือนติดต่อกันเป็นนายจ้างที่มีลูกจ้างไม่ต่ำกว่า 10 คนขึ้นไป สามารถเข้าร่วมโครงการได้ และอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจประสบอุทกภัยเช่นพื้นที่หาดใหญ่ และอื่น ๆ โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อสูงสุดแตกต่างกันตามขนาดของธุรกิจ ตั้งแต่ 1 ล้านบาท สูงสุดถึง 10 ล้านบาท วงเงิน 3,000 ล้านบาท
ปรับเพิ่มเงินทดแทนขาดรายได้เป็นอัตรา 80% ของค่าจ้างรายวัน (เดิม 50%) ครอบคลุมระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 180 วัน ในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย







