'เท้ง' นำทัพส้มลุยช่วย 'น้ำท่วมหาดใหญ่' แนะรัฐบูรณาการทุกหน่วย

'ณัฐพงษ์' นำทัพพรรคส้มตะลุยช่วย 'น้ำท่วมหาดใหญ่' แนะรัฐบาลบูรณาการทำงานกับทุกหน่วยในพื้นที่ เร่งประสานศูนย์พักพิงอิสระ สนับสนุนทรัพยากรจำเป็น กระจายความช่วยเหลือ
KEY
POINTS
- ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำทีม สส. ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ พร้อมสนับสนุนโดรนและประสานงานจัดหาเสบียงให้ศูนย์พักพิง
- เสนอแนะให้รัฐบาลบูรณาการการทำงาน โดยใช้ระบบสั่งการแบบรวมศูนย์ (Single Command) และมีฐานข้อมูลผู้ประสบภัยเพียงฐานเดียวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการช่วยเหลือ
- เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง เพื่อให้การตัดสินใจสั่งการในภาวะวิกฤตมีความเด็ดขาดและรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา ที่ อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อม สส. พรรคประชาชน ร่วมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้(น้ำท่วมหาดใหญ่) เผยว่าภารกิจวันนี้ได้เดินทางออกจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ตอนเช้า
จากนั้นจึงได้เดินทางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ที่ดูแลผู้อพยพราว 2,000 คนและมีอาสาสมัครที่เป็นหน่วยกู้ภัยจากนครศรีธรรมราช 30-40 คน มีโรงครัวอาสา มีทีมงานทั้งที่เป็นอาจารย์ อาสาสมัครและนักศึกษาบางส่วนช่วยดูแลอยู่
โดยศูนย์พักพิงชั่วคราว ม. ราชภัฏสงขลามีความพร้อม ในการผลิตอาหารวันละประมาณ 2,500 กล่อง โดยสามารถนำอาหารส่วนหนึ่งที่ผลิตได้แจกจ่ายไปยังผู้ประสบภัยนอกศูนย์พักพิงด้วย อย่างไรก็ดี ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ยังมีวัตถุดิบอาหารสดสำรองไม่มากนัก ต้องจัดหาเพิ่มเติมแบบวันต่อวันอยู่ ซึ่งยังค่อนข้างแตกต่างจากศูนย์พักพิงที่ มอ. ซึ่งมีทรัพยากรพร้อมกว่า และมีคลังวัตถุดิบอาหารสดสำรองสำหรับหลายวัน
เท้ง ณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลายังไม่ได้ดำเนินการ คือการมีทีมงานที่บริหารจัดการหน้างาน เช่น การจดบันทึกว่าผู้ประสบภัยเข้ามาที่ศูนย์แล้วกี่คน เป็นใครบ้าง มีกลุ่มเปราะบางมากน้อยเพียงใด และการบริหารจัดการสต็อคสิ่งของต่าง ๆ ที่มีความต้องการ ซึ่งควรเพิ่มเติมการบริหารจัดการในจุดนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายณัฐพงษ์ ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานมูลนิธิและภาคส่วนต่าง ๆ ระดมสรรพกำลังมาช่วยสนับสนุนที่ ศูนย์พักพิงชั่วคราว ม.ราชภัฎ เพิ่ม ด้วยการประสานไปยังค่ายเสนาณรงค์ว่าให้สนับสนุนวัตถุดิบอาหารไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ม.ราชภัฏสงขลาบ้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลค่ายเสนาณรงค์แจ้งว่า ทางค่ายเสนาณรงค์มีความพร้อมในการสนับสนุน ม.ราชภัฏ หากได้รับการร้องขอ
ประเด็นนี้ เป็นจุดนี้สำคัญที่ต้องเร่งประสานงานและบูรณาการการทำงานโดยเร็ว เพราะในขณะนี้ยังมีศูนย์พักพิงอื่น ๆ ทั้งที่ถูกประกาศโดยรัฐ และศูนย์พักพิงอิสระที่ประชาชนดูแลกันเองกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ม.ทักษิณ และที่อื่น ๆ ด้วย ณัฐพงษ์จึงอยากให้ทางส่วนราชการ โดยเฉพาะ มทบ. 42 ประสานงานไปยังทุกศูนย์พักพิงให้ครบถ้วน จะได้รู้ว่าศูนย์ไหนขาดอะไร จะได้สนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นกันได้อย่างทั่วถึง
พรรคประชาชน ได้เข้าร่วมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมและประชาชนในพื้นที่ เพื่อช่วยสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น ได้ประสานงานกับมูลนิธิกระจกเงา ให้พิจารณามาประจำจุดที่ศูนย์พักพิงที่มีความต้องการการสนับสนุนมากที่สุดก่อนเป็นลำดับแรก
ขณะเดียวกัน ก็ให้การสนับสนุนอุปกรณ์จำเป็น เช่น โดรนจับความร้อนเพิ่ม 2 ตัวและโดรนส่งของอีก 3 ตัว มาพร้อมกับ Operator หรือคนขับโดรน เพื่อทำให้หน่วยกู้ภัยจากนครศรีธรรมราชที่ได้ทำงานร่วมกับ สส. ภคมน หนุนอนันต์ และได้เดินทางมาร่วมสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในหาดใหญ่ในครั้งนี้ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ในส่วนของการบริหารจัดการภัยพิบัติ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องทำด้วยระบบรวมศูนย์บัญชาการ (single command) ที่มีผู้บัญชาการเหตุการณ์คนเดียว แต่สิ่งที่รัฐบาลทำตอนนี้นั้น คือการตั้งผู้บัญชาการมาถึง 3 คนในการออกคำสั่งให้กับฝ่ายปฏิบัติการ อีกทั้งปัจจุบันยังไม่มีฐานข้อมูลกลางผู้ประสบภัยเดียว ที่ใช้ร่วมกันทุกหน่วยงาน ซึ่งจะเกิดปัญหามีหลายแพลตฟอร์มเปิดรับแจ้งเหตุฉุกเฉินกระจัดกระจาย อาจเกิดปัญหาความซ้ำซ้อนของข้อมูลและล่าช้าในการสั่งการเพื่อช่วยอพยพ
จากจำนวนประชาชนที่ยังค้างอพยพจำนวนมากอยู่แล้ว จะทำให้การปฏิบัติงานหน้างานช้าขึ้นไปอีก ณ เวลาสถานการณ์ที่วิกฤตแบบนี้เพื่อจัดการข้อมูล ข้อเสนอของผมคือใช้ jitasa.care ในการเปิดรับความช่วยเหลือ โดยปัจจุบันมีเคสการแจ้งแล้วกว่า 28,800 เคส และผ่านการทดสอบในช่วงโควิดหลายครั้งที่ผ่านมา ว่าสามารถกระจายงานให้ทีมอาสาเข้าไปปิดเคสได้
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง สั่งการให้ชัดจากฐานข้อมูลที่แม่นยำ ใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีอย่างรวดเร็วและเท่าทัน เพื่อที่จะสามารถสั่งการเติมจุดที่ยังขาดทีมหรือเทคโนโลยี ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ การตัดสินใจหน้างานต้องเด็ดขาดและรวดเร็ว เพราะทุกวินาทีที่ลังเลไม่ตัดสินใจ คือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นกับประชาชนด้วย ผู้บัญชาการต้องเป็นคนเดียว ศูนย์บัญชาการต้องมีฐานข้อมูลเดียวที่รวบรวมครบถ้วนทุกจังหวัดในพื้นที่วิกฤตและคาดว่าจะวิกฤต การบัญชาการที่ชัดเจนจะช่วยลดความเสี่ยงภัยพิบัติได้สูงมาก
สำหรับสถานการณ์น้ำ หาดใหญ่เนื่องจากในช่วง 24 ชั่วโมง (จนถึง 17.00 น.) ในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลายังมีฝนตกหนัก โดยมีปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ 120-250 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาและคลองสาขา ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเมื่อเปรียบเทียบระดับน้ำ ณ เวลา 01.00 น. จนถึง 18.00 น. ของวันที่ 26 พ.ย. 2568 พบว่า ระดับน้ำในสถานีต่างๆ ดังนี้
สถานีบ้านม่วงก็อง อ.สะเดา ปริมาณน้ำลดลง 0.24 เมตร ยังเกินระดับตลิ่งอยู่ 0.30 เมตร
สถานีบ้านคลองหวะ ต.คอหงส์ อ. หาดใหญ่ ปริมาณน้ำลดลง 1.20 เมตร ยังเกินระดับตลิ่งอยู่ 1.20 เมตร
สถานีบ้านหาดใหญ่ใน อ. หาดใหญ่ ปริมาณน้ำลดลง 1.02 เมตร ยังเกินระดับตลิ่งอยู่ 0.82 เมตร
สถานีบางกล่ำ อ. บางกล่ำ ปริมาณน้ำลดลง 0.20 เมตร ยังเกินระดับตลิ่งอยู่ 1.20 เมตร
สถานีคูเต่า อ.หาดใหญ่ ปริมาณน้ำลดลง 0.10 เมตร ยังเกินระดับตลิ่งอยู่ 1.61 เมตร
จากข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ระดับน้ำในพื้นที่ตัวเมืองหาดใหญ่เริ่มลดลงแล้ว และหากในวันที่ 27 พ.ย. 2568 ไม่มีฝนตกหนักเติม ตามที่สถาบันสารสนเทศทรัพยากรคาดการณ์ไว้พื้นที่ในตัวเมืองจะเริ่มมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง ภายในวันพรุ่งนี้ แต่อาจยังมีน้ำท่วมขังคงค้างในพื้นที่ลุ่มต่ำต่าง ๆ ได้ในเมืองหาดใหญ่ได้ ส่วนพื้นที่ปลายน้ำของคลองอู่ตะเภา เช่น บางกล่ำ และคูเต่า ระดับน้ำยังคงสูงและลดลงช้ากว่า จึงอาจต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าที่ระดับน้ำจะต่ำกว่าระดับตลิ่ง







