งัด 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' คุมเบ็ดเสร็จ ผ่าโครงสร้าง จัดการน้ำฉบับ'อนุทิน'

การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครอบคลุม 3 เดือน ครอบคลุมฟื้นฟู เยียวยา และแนวทางแก้ปัญหาในอนาคต จับตาการบริหารจัดการน้ำของ "นายกฯอนุทิน"จะตอบโจทย์คนพื้นที่หรือไม่
KEY
POINTS
- "นายกฯอนุทิน" ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมยกระดับการจัดการสาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง (ระดับ 4) จังหวัดสงขลา
- ประชาชนสับสนรัฐบาลจะใช้โครงสร้างใดในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่
จุดเปลี่ยนในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ จ.สงขลา เกิดขึ้นภายหลัง "อนุทิน ชาญวีระกุล" นายกฯ และ รมว.มหาดไทย เรียกประชุมติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดภาคใต้ ช่วงเช้า 25 พ.ย. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
โดยมี พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ เข้าร่วมประชุมพร้อมนำอัญเชิญพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวความว่า
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้นำเรียนนายกรัฐมนตรีและส่วนเกี่ยวข้อง ต่อความห่วงใยของพระองค์ท่านที่มีต่อประชาชน ที่กำลังประสบภัยเหตุการณ์น้ำท่วมอยู่ขณะนี้
และทรงมีรับสั่งพระราชทานความช่วยเหลือให้กับประชาชนที่เดือดร้อน และให้ระดมสรรพกำลัง ทั้งหมดทั้งฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ และหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของเรือช่วยราษฎรในพื้นที่ประสบภัย โดยให้รับออกมาจากพื้นที่อันตราย มาส่งในพื้นที่ที่เตรียมการความปลอดภัยไว้ เพื่อความปลอดภัย
อีกทั้งปัจจัยด้านอาหารและน้ำ ก็จะพระราชทานความช่วยเหลือ ซึ่งต้องอาศัยการระดมสรรพกำลังของ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกระทรวงมหาดไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการดูแลประชาชนให้ได้รับความปลอดภัย ซึ่งต้องนำเนินการให้เร็วที่สุด"
ซึ่งในที่ประชุมมีรองนายกฯและ รัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพร้อมเพรียง อาทิ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ นายโสภณ ซารัมย์ นางศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข พล.อ.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม และผบ.ทหารสูงสุด และ ผู้นำเหล่าทัพ
ในช่วงบ่ายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) "นายกฯอนุทิน" ลงนามประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมยกระดับการจัดการสาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง (ระดับ 4) ในพื้นที่จังหวัดสงขลา
สั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย หรือ ศป.กฉ. ให้ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทำหน้าที่ควบคุม ศป.กฉ. ส่วนหน้า ที่กองบิน 56 อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
ท่ามกลางความสับสนของประชาชน รัฐบาลจะใช้โครงสร้างใดในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ เพราะในช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ตั้ง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม (ศบภ.กห.ส่วนหน้า) ที่กองบิน 56 จ.สงขลา เช่นเดียวกัน
โดยมอบหมาย พลเอกศราวุธ จันทร์พุ่ม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกลาโหม ส่วนหน้า พล.ท. นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้บัญชาการในพื้นที่
อีกทั้งก่อนหน้านี้เพียง1วัน "นายกฯอนุทิน"เพิ่งลงนามแต่งตั้ง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ บริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศนภ.)
ทว่าหลัง นายกฯอนุทิน ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ส่วนหน้า ของ พล.อ.ณัฐพล ต้องถอยฉากออกมา เปิดทางให้ ศป.กฉ. ส่วนหน้า ที่มี ผบ.ทหารสูงสุด มีอำนาจเต็มในพื้นที่ แม้แต่ ร.อ.ธรรมนัส ต้องอยู่ภายใต้กลไกดังกล่าว
พล.ท. วันชนะ สวัสดี โฆษกศป.กฉ. เปิดเผยว่า ได้แบ่งพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ เป็น 4 เขต ประกอบด้วย เขตที่ 1 กรม.พัฒนาที่ 4 และกองพันพัฒนาที่ 4, เขตที่ 2 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 5 (ร.5 พัน.1), เขตที่ 3 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 (ป.5 พัน.5), เขตที่ 4 กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 42 (พัน.ร.มทบ.42)
ส่วนพื้นที่รอบอำเภอหาดใหญ่ จะมีกองพันประจำอำเภอของกองทัพบก ในการดูแล และมีกองร้อยบรรเทาสาธารณภัยร่วมด้วย
และจะมีการบริหารจัดการ 4 ลักษณะ1.การบริหารจัดการคน 2.การบริหารจัดการสิ่งของ และการส่งความช่วยเหลือ 3.การบริหารจัดการน้ำ 4.การบริหารจัดการเรื่องข้อมูลข่าวสาร
"อำนาจหน้าที่ของ ผบ.ทสส. คือควบคุมกำกับดูแลศป.กฉ. ส่วนหน้า บูรณาการให้งานทุกอย่างมีความกระชับ ทำงานได้ดีขึ้น และ ผบ.ทสส.จะรายงานตรงไปที่นายกฯ ซึ่งหากวิกฤตเร่งด่วน ผบ.ทสส. สามารถตัดสินใจในหน้างานได้เลย" โฆษก ศป.กฉ. ระบุ
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแม่สาย จ.เชียงราย ยุครัฐบาลก่อน นายกฯ ประกาศตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นผู้อำนวยการ
พร้อมมอบหมาย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย เป็น ประธาน ศปช.ส่วนหน้า พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ศปช. ส่วนหน้า ลงไปอยู่ในพื้นที่ 1 เดือน โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดคุมพื้นที่
โดยเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลขณะนั้นไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เนื่องจากได้รับการยืนยันว่ากลไกที่มีอยู่สามารถควบคุมและบริหารจัดการพื้นที่ได้ให้แล้วเสร็จภายใน1เดือน และสามารถทำได้จริง มีการส่งมอบพื้นที่ ท่ามกลางเสียงชื่นชมรัฐบาลที่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแม่สาย
ตัดกลับมาที่น้ำท่วมหาดใหญ่ จ.สงขลา การจะใช้โครงสร้างใดขึ้นมาบริหารจัดการขึ้นอยู่กับ "นายกฯ" เป็นผู้พิจารณาเลือกใช้ จะเป็นกลไกลกระทรวงกลาโหม กลไกกระทรวงมหาดไทย หรือกลไกอื่นของรัฐบาล
และได้เห็นร่องรอยการบริหารจัดการระดับรัฐบาล กระทรวง ที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีการพูดคุย หารือกัน จนเป็นที่มาใช้โครงสร้างตั้งศูนย์แก้ปัญหา ซ้อนทับโครงสร้างหนึ่ง ที่มีอยู่ก่อน
ในขณะพื้นที่ไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งระดับส่วนจังหวัด อำเภอ หน่วยงานท้องถิ่น หรือแม้แต่ประชาชน เมื่อน้ำมาก็ตั้งรับไม่ทัน การแก้ไขปัญหา ก็เกิดความสับสนอลหม่าน ส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย จากเดิมประเมินว่า เอาอยู่ ก็กลับเอาไม่อยู่
สำหรับข้อดีของการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือ ผบ.ทหารสูงสุด มีอํานาจเบ็ดเสร็จบริหารจัดการในพื้นที่ สามารถสั่งการได้ทุกหน่วยงาน และ ความรับผิดชอบต่อความเสียหายจะน้อยกว่ากฎหมายปกติ เนื่องจากกฎหมายปกติจะมีเงื่อนไขต่างๆ เป็นกรอบ ทําให้การบริหารจัดการเป็นไปได้ยาก
เช่น ทุบบ้านหลังหนึ่งที่ขวางทางน้ำออก เพื่อเปิดทาง ให้น้ําไหลลงสู่ทะเล ก็สามารถทําได้ทันที แล้วค่อยมาชดเชยเยียวยาภายหลัง ซึ่งจะเป็นดุลพินิจของผู้บัญชาการสูงสุดที่จะเสนอ มายังนายกรัฐมนตรี
หรือ การเจาะถนนเพื่อเปิดทางระบายน้ํา ก็สามารถใช้อํานาจของพ.ร.ก. ฉุกเฉิน ดําเนินการได้ทันทีเช่นกัน ตลอดจนถึงการเบิกจ่ายงบประมาณที่รวดเร็ว
สำหรับการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครอบคลุม 3 เดือน มีผล 25 พ.ย.68-25 ก.พ.69 ครอบคลุมการฟื้นฟู เยียวยา และแนวทางแก้ปัญหาในอนาคตป้องกันและบรรเทาท่วมซ้ำซาก ต้องจับตา การบริหารจัดการน้ำของ "นายกฯอนุทิน" จะตอบโจทย์คนพื้นที่หรือไม่







