‘สมศักดิ์’ ถาม พรรคฝ่ายค้ำ รับผิดชอบอย่างไร ปล่อยรัฐบาลใช้งบมือเติบ

‘สมศักดิ์’ ถาม พรรคฝ่ายค้ำ รับผิดชอบอย่างไร ปล่อยรัฐบาลใช้งบมือเติบ

“สมศักดิ์” ลงพื้นที่นนทบุรีต่อเนื่อง อ้อนขอเสียงสนับสนุน “จิรพงษ์” เข้าสภาฯ ชูเป็นคนดีมีความสามารถ เผย “เพื่อไทย” เล็งทำมอเตอร์เวย์ผันน้ำลงทะเลแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ด้าน “จิรพงษ์” ขอโอกาสทำงานเพื่อประชาชน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และแกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร สส. นนทบุรี เขต 2 ร่วมกันลงพื้นที่ วัดสลักใต้และวัดพุฒิปรางปราโมท เขตเทศบาลบางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อพบปะพูดคุยประชาชน

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้นำนายจิรพงษ์ มานำเสนอให้คนนนทบุรี เพราะเป็นคนที่มีความสามารถ เคยเป็น สจ.มา 16 ปี ดูแลคนนนท์ฯ ตลอดมา และช่วงที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุขก็ได้นายจิรพงษ์ไปช่วยงาน โดยเฉพาะการรณรงค์ NCDs กินเป็นไม่ป่วย เพื่อป้อกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรค NCDs เพื่อจะช่วยประหยัดงบประมาณ เนื่องจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณ 30 บาทรักษาทุกที่ อาจจะทำให้ระบบล่มสลายนั้น มองว่าถ้าปล่อยปละละเลยไม่มีการรณรงค์การกินเป็นไม่ป่วย อาจจะทำให้คำวิจารณ์นั้นเกิดขึ้นจริง ตนจึงรณรงค์ให้ความรู้เรื่องนี้กับประชาชนและอสม.อย่างจริงจังตั้งแต่สมัยเป็นรัฐมนตรีเพราะเชื่อว่าจะทำให้การเจ็บป่วยลดลงและลดความแออัดในโรงพยาบาล 

นายสมศักดิ์ ได้กล่าวถึงประเด็นทางการเมืองว่า วันนี้เรามีพรรคการเมืองที่เป็นพรรคฝ่ายค้ำคือพรรคที่เลือกพรรคสีน้ำเงินเข้าไปเป็นรัฐบาล แต่ไม่ร่วมรัฐบาลเพียงแต่ยกมือให้ ในขณะที่พรรครัฐบาลทำงานยังไม่ถึง 2 เดือน แต่กลับมีการอนุมัติงานที่ใช้งบประมาณมากมาย อย่างเรื่องของรถแข่ง โมโตจีพีใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท แต่น้ำท่วมภาคเหนือ ภาคกลาง ใช้เงินเยียวยาหลักร้อยล้านบาท แต่รถแข่งใช้เงิน 4,000 ล้านบาท รวดเร็วในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน อันไหนมีความสมเหตุสมผลมากกว่ากัน ซึ่งมีการติดตามทวงถามการใช้งบประมาณและหากมีความเสียหายเกิดขึ้นพรรคฝ่ายค้ำ จะรับผิดชอบอย่างไร ส่วนการเจรภาษีสหรัฐอเมริกา 38 %39% ที่ลดลงมาเหลือ 19% ถูกยับยั้งไว้ โดยในสมัยของพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า แต่วันนี้อาจจะเหมือนตรงข้ามก็ลองพิจารณาดูว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างไรจากการใช้วิจารณญาณของผู้บริหารประเทศ

นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตเรื่องการซื้อกระแสไฟฟ้าจากภาคเอกชนราคา 2.16 บาท  เป็นราคาเดิมเหมือน 5 ปีที่ผ่านมา ในสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าแพงทั้งที่ควรจะถูกลงกว่าเดิม เพราะต้นทุนค่าก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์น่าจะถูกลงจากเดิมมาก และรัฐบาลนี้ดำเนินการอย่างรวดเร็วในเวลา 2 เดือน ทำให้ประชาชนใช้ค่าไฟแพง แต่ช่วงที่น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร เป็นรัฐบาล พยายามช่วยเรื่องค่าไฟให้ถูกลงอย่างเต็มที่ ส่วนปัญหาเรื่องน้ำท่วม พรรคเพื่อไทย กำลังคิดเรื่องทำมอเตอร์เวย์น้ำ ทางตะวันออก ทางตะวันตกลงกรุงเทพฯ เพื่อผันลงทะเลให้เร็วยิ่งขึ้น เป็นแนวทางพรรคเพื่อไทยที่จะแก้ไข กำลังทำการศึกษา อีกทั้งจะทำแนวนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจน ราคาพืชผลเกษตร 

ขณะที่นายจิรพงษ์ กล่าวว่า  แม้ว่าการเลือกตั้งปี 66 จะไม่สมหวังได้เข้าสภาฯ แต่การเป็น สจ.มา 16 ปี ทำให้ตนยังมีความหวัง มีความฝันที่จะเข้าไปทำประโยชน์ให้ประชาชน ได้รับโอกาสจากนายสมศักดิ์ให้เข้าไปช่วยงานตั้งแต่เป็นรองนายกฯ ตนก็ได้อยู่ในคณะทำงานเรื่องน้ำของ สทนช. และสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข ก็ยังได้รับโอกาสอีกเช่นเดิม ขณะเดียวพรรคเพื่อไทย ที่มีนโยบายเพื่อช่วยประชาชน ทั้ง 30 รักษาทุกที่ เรื่องการศึกษา 1 อำเภอ 1 ทุน ที่ริเริ่มในสมัยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นการให้โอกาสคนได้เข้าถึงการศึกษา ตนมีเพื่อนได้ที่รับโอกาสทางศึกษา ได้ทุนเรียนต่างประเทศ กลับมารับราชการ กลับมาพัฒนาบ้านเมือง ซึ่งตนเองมีบิดา มารดามีทุนทรัพย์ส่งไปเรียนต่างประเทศเช่นกัน จึงมองว่านโยบายนี้ก็เหมือนกับพ่อแม่ที่ให้โอกาสทางการศึกษาแก่ลูก นอกจากนี้ยังมีอีกหลายนโยบายที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆ ทั้ง รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งขณะนี้ พ.ร.บ.ถึงมือสว.แล้ว ก็ต้องจับตากันต่อไป ดังนั้น ขอโอกาสคนนนทบุรีเขต 2 ให้ได้เข้าไปทำงานอีกครั้ง