'จุลพันธ์' รับ 'ณัฐพงษ์' ขอให้แก้รธน.วาระ 3 ผ่านก่อนยื่นซักฟอก

'จุลพันธ์' รับ 'ณัฐพงษ์' ขอให้รธน.วาระ 3 ผ่านก่อนยื่นซักฟอก จี้ 'อนุทิน' เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ส่งคำถามที่ 1 ทำประชามติให้ กกต. ก่อนยุบสภา
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่และหัวหน้าพรรค แถลงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พท.ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พท.เกี่ยวโยงกับการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 151 ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ ส.ส.ในการตรวจสอบ ทั้งนี้ พรรค พท.ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน เราได้ติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่ออกมาจากรัฐบาลและฟากฝั่งการเมืองค่อนข้างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าภายในวันที่ 12 ธ.ค.นี้น่าจะมีสัญญาณของการอาจจะยุบสภา ซึ่งเป็นการตัดสินใจของนายกฯ รวมถึงมีสัญญาณว่าวันที่ 9 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีสัญญาณว่าจะนำเรื่องที่มีความเร่งด่วนเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ซึ่งสองจุดนี้เป็นสัญญาณที่ส่งมาอย่างชัดเจนจากรัฐบาลโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า หากมีการยุบสภาหรือไม่ อย่างไรนั้นก็เป็นอำนาจของนายกฯ ท่านสามารถตัดสินใจได้ แต่กระบวนการในการพิจารณาของชั้น ครม.ควรจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ และรับฟังความเห็นอย่างรอบด้านจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรที่จะมีความเร่งรัดเพื่อเอาโครงการ เอางานของราชการเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.เป็นการเร่งด่วน เพราะอาจจะมองได้ว่าเป็นการทิ้งทวน ย้ำว่าพวกตนติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีแนวโน้มที่อาจจะมีโครงการที่สุ่มเสี่ยงต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น เราติดตามอย่างจริงจัง
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นอำนาจของ ส.ส. ซึ่งเราไม่เห็นด้วยอยู่แล้วกับการที่นายกฯคิดจะยุบสภาเพื่อหนีการอภิปราย เพราะการตรวจสอบเป็นสิ่งที่นักการเมือง ซึ่งมาตามระบอบประชาธิปไตยอย่างพวกเรา ควรตอบรับและตอบคำถามที่เป็นคลางแคลงใจ หากสุดท้ายท่านตัดสินใจที่จะยุบสภา สิ่งที่พรรค พท.อยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลและนายอนุทิน คือหลักประกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
"หากท่านตัดสินใจที่จะยุบสภา โดยไม่สนใจสิ่งที่มีการตกลงกับพรรคประชาชนในเอ็มโอเอว่าจะเดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็อยากให้ ครม.มีมติส่งคำถามที่ 1 ไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าสามารถเดินหน้าคำถามที่ 1 และคำถามที่ 2 ได้"
ทั้งนี้แต่เมื่อคำถามที่ 2 ยังไม่พร้อม อย่างน้อยคำถามที่ 1 ที่จะถามประชาชนในวันเลือกตั้งว่าเห็นควรที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ซึ่งถือเป็นคำถามที่สำคัญ หากประชาชนเห็นด้วยที่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะเป็นข้อผูกมัดและผูกพันกับรัฐบาลใดๆ ไม่ว่าใครก็ตามที่จะมาเป็นรัฐบาล
“การที่จะต้องขับเคลื่อนตามเสียงของประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นสิ่งที่เราอยากเรียกร้องไปกับรัฐบาลให้ท่านเร่งทำ เพื่อแสดงความจริงใจ อย่าให้เป็นดังคำปรามาส ขอให้แสดงความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าท่านมีความตั้งใจจริงๆ อย่างน้อยต้องมีคำถามที่ 1 เข้าไป“ นายจุลพันธ์กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการหนึ่ง ระบุว่ายอมรับว่าคุยกับนายจุลพันธ์เพื่อให้ชะลอการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลออกไปก่อน โดยขอให้เสร็จสิ้นการลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจุลพันธ์กล่าวว่า มีการร้องขอมาจริง
โดยนายณัฐพงษ์เป็นคนขอว่าไม่ให้พูดและเป็นคนขอว่ายังไม่ใช่ประเด็นที่จะสื่อสาร ซึ่งพรรคเพื่อไทยยืนยันในเรื่องของจุดยืนว่าเราจะเดินหน้าตรวจสอบรัฐบาล แต่นายณัฐพงษ์และพรรคประชาชนได้ร้องขอให้ชะลอ เพื่อให้รอการลงมติวาระ 3 ซึ่งยังไม่มีข้อตัดสินใจหรือข้อสรุป ดังนั้นหลังจากนี้ไม่เกินก่อนเปิดสมัยประชุม คงจะได้ติดต่อประสานงานและพูดคุยกันกับนายณัฐพงษ์และทีมเพื่อสรุปในเรื่องของทิศทาง
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะยื่นซักฟอกภายหลังเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 สำเร็จได้ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เป็นไปได้ทุกอย่าง เพราะเราต้องคำนึงถึงทุกองค์ประกอบ ต้องมีการหารือกัน ซึ่งได้มีการพูดคุยกันแล้วหนึ่งครั้งถึงทิศทางการทำงานของทั้งสองพรรค ดังนั้นก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการใดๆ
โดยมารยาทตนจะประสานงานกลับไป แต่การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดนี้ จะเป็นการตัดสินใจภายในว่าจะตรวจสอบรัฐบาลอย่างไร เมื่อไหร่ หากทางพรรคประชาชนตัดสินใจอย่างไร จะร่วมในกระบวนการตรวจสอบ หรือจะรอ หรือจะเว้นวรรคอย่างไรเป็นอำนาจ และเป็นการตัดสินใจของแต่ละพรรคการเมืองที่สามารถดำเนินการได้
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาชนเปิดแคนดิเดตนายกฯพรรคทั้งสามคนแล้ว นายจุลพันธ์กล่าวว่า ไม่ได้เหนือความคาดหมาย แคนดิเดตทั้งสามคนคุ้นหน้าคุ้นตาดี มีความสนิทสนม รู้มือกันในการทำงาน ไม่ได้ประหลาดใจ ใช้บุคคลภายในก็ขอให้สามารถเดินหน้าได้ตามที่คาดหวัง ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเรามีกำหนดไว้เหมือนกันว่าเราจะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม คาดว่าเป็นเดือน ธ.ค. มาดูกันว่าเป็นที่ประทับใจของพี่น้องประชาชนมากน้อยเพียงใด
เมื่อถามว่าเมื่อพรรคเพื่อไทยเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯแล้วจะดึงกระแสกลับมาได้หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เราเชื่อมั่น เพราะแคนดิเดตนายกฯของเรามีองค์ประกอบที่หลากหลาย มีภูมิหลังพื้นเพที่มีความแตกต่างกันเพื่อที่จะตอบโจทย์ประชาชนในแต่ละกลุ่มได้ เป็นจุดเด่นของแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย คงจะได้รู้กัน







