ผ่าฐานทุน ‘ผู้พันปุ่น’ ล่าสุดตั้ง บ.จัดอบรม ร่วม ‘แชมป์โป๊กเกอร์’

น.ต.ศิธา ทิวารี หรือ ผู้พันปุ่น ได้ร่วมกับ 'ปุณณัตถ์ ปุณศรี' แชมป์โป๊กเกอร์ชาวไทย ก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ 'เฮาส์ออฟไพรม์สเทคส์' เพื่อทำธุรกิจจัดอบรมและสัมมนา
KEY
POINTS
- น.ต.ศิธา ทิวารี หรือ ผู้พันปุ่น ได้ร่วมกับ 'ปุณณัตถ์ ปุณศรี' แชมป์โป๊กเกอร์ชาวไทย ก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ 'เฮาส์ออฟไพรม์สเทคส์' เพื่อทำธุรกิจจัดอบรมและสัมมนา
- นอกจากธุรกิจใหม่ ผู้พันปุ่นยังถือหุ้นในธุรกิจอื่นอีกอย่างน้อย 2 แห่ง คือ บริษัท เรือเร็ว ลมพระยา จำกัด และ บริษัท จี. เอส. ซิแร็มมิคซ์ แอนด์ พาเลท จำกัด
- ศิธา ทิวารี ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการอิสระในบริษัทมหาชนด้านอสังหาริมทรัพย์ 'เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป' โดยไม่ได้ถือหุ้น
ชื่อของ “น.ต.ศิธา ทิวารี” หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ “ผู้พันปุ่น” กำลังกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง พลันที่มีกระแสข่าวว่า ตัวเขาถูก “พรรคประชาชน” (ปชน.) เชิญไปเป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้ “ผู้ว่าฯ กทม.” ในการเลือกตั้งปี 2569 ซึ่ง “ผู้พันปุ่น” ได้ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) มาตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และปัจจุบันขึ้นสถานะ “พักการเมือง” อยู่
อย่างไรก็ดียังไม่มีคำยืนยันจากตัว “ผู้พันปุ่น” เช่นเดียวกับแกนนำพรรค ปชน.ทั้ง “ศรายุทธิ์ ใจหลัก” เลขาธิการพรรค และ “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรค ไม่ยืนยัน แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่า มีการทาบทาม “ผู้พันปุ่น” มาเป็นแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคหรือไม่
ในทางการเมือง “ผู้พันปุ่น” มีชื่อมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย โดยมีความสนิทสนมกับ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ต่อมาในยุคพรรคเพื่อไทย เมื่อ “คุณหญิงหน่อย” พ้นตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และลาออกมาตั้งพรรคไทยสร้างไทย “ผู้พันปุ่น” ได้ร่วมลาออกมาร่วมก่อตั้งพรรคนี้ด้วย
ทั้งนี้เมื่อปี 2565 “ผู้พันปุ่น” ถูกส่งลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มาแล้วรอบหนึ่งในสีเสื้อไทยสร้างไทย ทว่าไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยได้คะแนนไป 73,720 เสียง อยู่ลำดับที่ 7 ของผู้สมัครทั้งหมด ท่ามกลางกระแส “ชัชชาติฟีเวอร์”
ชีวิตส่วนตัว ในช่วงหลัง “ผู้พันปุ่น” เคยโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียหลายครั้งว่า ได้เข้าร่วมเล่น “โป๊กเกอร์” ในฐานะ “กีฬา” หลายครั้ง โดยบินไปแข่งขันที่ต่างประเทศ และเคยได้อันดับสูง ๆ หลายครั้ง คว้าเงินรางวัลหลักล้านบาทก็มีมาแล้ว
ล่าสุด กรุงเทพธุรกิจ ตรวจสอบพบว่า “ผู้พันปุ่น” ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทจัดงานอมรม สันทนาการต่าง ๆ ร่วมกับ “นักโป๊กเกอร์” ระดับแชมป์เอเชีย ในชื่อ บริษัท เฮาส์ออฟไพรม์สเทคส์ จำกัด เมื่อราว 2-3 สัปดาห์ก่อน
บริษัทแห่งนี้ จดทะเบียนเมื่อ 31 ต.ค. 2568 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1055/577 อาคารState Tower ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร แจ้งประเภทธุรกิจตอนจดทะเบียน กิจกรรมเกี่ยวกับการจัดอบรม สัมมนา และกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ต่างๆ
ปรากฏชื่อกรรมการ 5 คน ได้แก่ นายศิธา ทิวารี นายปุณณัตถ์ ปุณศรี นายนพรุจ ปิยะทัสสกร นายมาตุภูมิ ปังศรีวินิจ และ น.ส.เมธาวี ทวีกิจวาที นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา นายศิธา ทิวารี นายปุณณัตถ์ ปุณศรี นายนพรุจ ปิยะทัสสกร นายมาตุภูมิ ปังศรีวินิจ และ น.ส.เมธาวี ทวีกิจวาที ร่วมกันถือหุ้นคนละ 20% ยังไม่มีข้อมูลงบการเงิน
สำหรับ “ปุณณัตถ์ ปุณศรี” คือนักเล่นกีฬาโป๊กเกอร์อันดับต้น ๆ ของไทย โดยเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เงินรางวัลจากการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ กว่า 20 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ รวมถึงยังเป็น Natural Ambassador ของแบรนด์ Natural8 Poker อีกด้วย
ด้านธุรกิจอื่น ๆ ของ “ผู้พันปุ่น” ในปัจจุบัน พบว่าเข้าไปถือหุ้นในอีกอย่างน้อย 2 บริษัท ได้แก่
1.บริษัท เรือเร็ว ลมพระยา จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2542 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 26/61 หมู่ที่ 4 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการขนส่งโดยเรือโดยสาร ขายสินค้า บริการทัวร์ มีกรรมการ 3 คนคือ นายมานพ ทิวารี (บิดาผู้พันปุ่น) น.ส.พจนารถ กันติวงศ์ และนายเมธี จันทรัมพร (นักธุรกิจดังด้านการท่องเที่ยว และเจ้าของโรงแรม)
โดยรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดมี 6 คน “เมธี” ถือหุ้นใหญ่สุด รองลงมาคือ “มานพ” (บิดาผู้พันปุ่น) และ “ศิธา” ร่วมถือหุ้นด้วย นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 มีสินทรัพย์รวม 1,180,218,064 บาท หนี้สินรวม 650,816,700 บาท รายได้รวม 1,236,930,799 บาท รายจ่ายรวม 1,075,711,252 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 20,860,633 บาท เสียภาษีเงินได้ 28,719,645 บาท กำไรสุทธิ 111,639,267 บาท
2.บริษัท จี. เอส. ซิแร็มมิคซ์ แอนด์ พาเลท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2513 ทุนปัจจุบัน 38 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 211 หมู่ที่ 4 ถนนสุขุมวิท(ก.ม.39) ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ วัตถุประสงค์ การผลิตผลิตภัณฑ์วัสดุทนไฟ กรรมการ 8 คน นายอรรถพงษ์ เกตุราทร นางสาวลัดดา วิศวผลบุญ นายชยนนท์ วิศวผลบุญ นายจีรวัฒน์ มานะกิจไพโรจน์ นายประจวบ พรหมศาสตร์ นายธีรพงษ์ เกตุราทร นางสาวจิตรลดา เกตุราทร และนายภาณุพงษ์ เกตุราทร
รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนจากญี่ปุ่น มีคนตระกูล “ทิวารี” เข้าไปร่วมถือหุ้นด้วย 3 คน ได้แก่ ชิน ทิวารี นพเก้า ทิวารี และศิธา ทิวารี นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 สินทรัพย์รวม 119,625,700 บาท หนี้สินรวม 8,739,059 บาท รายได้รวม 101,027,919 บาท รายจ่ายรวม 92,257,648 บาท เสียภาษีเงินได้ 2,169,860 บาท กำไรสุทธิ 6,600,410 บาท
ขณะเดียวกัน “ผู้พันปุ่น” ยังมีชื่อเป็นประธานกรรมการบริษัท และกรรมการอิสระ ในบริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยอีกหนึ่งแห่ง แต่ไม่ปรากฏว่าเข้าไปร่วมถือหุ้นแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ "ผู้พันปุ่น" เคยมีชื่อร่วมเป็นกรรมการในบริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด ของ "พานทองแท้ ชินวัตร" บุตรชาย "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัทแห่งนี้ได้เลิกกิจการ และเสร็จชำระบัญชีไปกว่า 13 ปีแล้ว
ภาพประกอบจาก น.ต.ศิธา ทิวารี - Sita Divari







