'ไอซ์' แจงปมบริจาค ปชน. ขุดคดีเก่าสวน 'ไผ่' ไฉนแจ้ง ป.ป.ช.ไร้หนี้

'รักชนก' แจงละเอียดปมบริจาค ปชน. 2 แสน มัดรวมสวนคืน 'ไผ่' ขุดคดียุค 'วันพอยท์' โยง 'บอย ยูนิตี้' ศาลฎีกาพิพากษาชดใช้หนี้ 5.5 แสน แต่ไม่มีในบัญชีทรัพย์สิน
KEY
POINTS
- ไอซ์ รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ชี้แจงประเด็นการบริจาคเงินให้พรรคประชาชน
- ก่อนจะตอบโต้ ไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม โดยขุดคดีเก่าที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ชำระหนี้สินจำนวน 550,000 บาท
- ตั้งข้อสังเกตว่า ไผ่ ลิกค์ ไม่ได้แจ้งหนี้สินก้อนดังกล่าวตามคำพิพากษาของศาลไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
- เตรียมยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบกรณีที่อาจเข้าข่ายการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ และจะส่งข้อมูลให้ตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบความเชื่อมโยงกับคดีรถหรูในอดีต
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2568 น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงคดีความกล่าวหานายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ในอดีต โดยระบุว่า นายไผ่ ลิกค์ คดีรถหรู บัญชีทรัพย์สิน และร่วมกันหาคำตอบว่าทำไมเลขาธิการพรรคเบอร์ต้นๆ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแบบเพื่อนสักที งานนี้ ยาวมาก หาอะไรร้อนๆ จิบระหว่างอ่าน พร้อมใช้สมาธิด้วยนะคะ
น.ส.รักชนก เริ่มต้มด้วยการชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาในเรื่องบริจาคเงินเข้าพรรค จำนวน 200,000 บาท และกรณีถูกร้อง ป.ป.ช. ปม จักรยานคู่บุญ โดยยืนยันว่า ดิฉันบริจาคให้พรรคประชาชน เหตุผลไม่มีอะไรมากไปกว่ารู้ดีว่าพรรคมีข้อจำกัดด้านการเงิน เราไม่มีทุนพลังงาน ทุนค้าปลีก ทุนผู้รับเหมาชั้นพิเศษ หรือทุนเทาสแกมเมอร์ชาติชั่ว มาคอยให้เงินสนับสนุน ดังนั้นก็ต้องอาศัยคนที่มีใจอยากจะช่วย ดิฉันไม่ได้ร่ำรวยก็บริจาคตามกำลัง ซึ่งถ้าคำนวณโดยใช้หลักคณิตศาสตร์จะรู้โดยสามัญสำนึกว่าอยู่ในวิสัยที่เงินเดือน สส. จะทำ แต่หากจะยื่นตรวจสอบก็ทำได้
จักรยานทำไมไม่แจงทรัพย์สิน? เพราะรวมกันทุกคันที่มีแล้วมันไม่เกิน 200,000 บาท ทำไมหนังสือเล่มละร้อยถึงแจง? เพราะรวมทั้งหมดทุกเล่มที่มีมันแตะหลักแสน และในอนาคตดิฉันก็จะซื้อเพิ่ม มีโอกาสเกิน 200,000 บาท แน่ๆ ดังนั้นคิดว่าควรจะต้องแจง ทรัพย์สินดิฉันสแกนกันกี่รอบมันก็มีแค่นั้นห้าล้านกว่าบาทนั่นแหละ แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าจักรยานคู่ใจของดิฉัน คือ บัญชีทรัพย์สินของคนเปิดประเด็น คือ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร สส. ที่คนทั้งประเทศนึกไม่ออกว่าทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง นอกจากเป็นองครักษ์พิทักษ์แป้ง!
เมื่อก่อน นายไผ่ ลิกค์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ไผ่ วันพอยท์” ถ้าลองเอาชื่อไปเสิร์ชในกูเกิ้ล ท่านก็จะพบเจอแต่ข่าวดีๆ เกี่ยวกับชื่อนี้ ลองเข้ากูเกิ้ลแล้วดูโลด อย่าลืมช่วยกันพูดถึงเยอะๆ เพราะบางคนพยายามจะลืมอดีตและฝันอยากเป็นรัฐมนตรีในอนาคต ซึ่งนอกจากทั้งสองข่าวดังกล่าวแล้ว ชื่อที่เกี่ยวข้องอยู่ในข่าวเดียวกันก็จะมี "บอย ยูนิตี้" หรือ นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ
ย้อนความจำ คดีนำเข้ารถหรูสำแดงราคาเท็จของ บริษัท ออสติน อxxxxx จำกัด, บริษัท เดอะ แกลxxxxx จํากัด โดย “บอย ยูนิตี้” หรือ อินทระศักดิ์ เตชธีรศิริ นักธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรู เจ้าของเต็นท์รถย่านสุขุมวิทและย่านรัชดาฯ และพวกได้ คดีดังกล่าวจบลงที่นายบอย ยูนิตี้ถูกพิพากษาจำคุกรวม 30 ปี และมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรโดนโทษจำคุกด้วย
หากอ้างอิงตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 5865/2567 ที่นายไผ่ ลิกค์ (จำเลยที่ 1) ให้การว่า โจทก์ (คนฟ้อง) ร่วมลงทุนทำธุรกิจนำเข้าและรับจำนำรถยนต์ราคาแพงกับ “บอย ยูนิตี้” หรือ อินทระศักดิ์ เตชธีรศิริ โดยให้นายไผ่ ลิกค์ เป็นตัวแทน นายไผ่ ลิกค์ ให้โจทก์โอนเงินลงทุนเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 2 (อดีตแฟนนายไผ่) ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องในการทำธุรกิจกับโจทก์ ต่อมาบอย ยูนิตี้ ถูกดำเนินคดีฐานนำเข้ารถยนต์โดยผิดกฎหมาย ต้องใช้เงินประกันตัว 2 ล้านบาท บอยยูนิตี้ มอบหมายให้นายไผ่ ลิกค์ ติดต่อขอเบิกเงินจำนวนดังกล่าวจากโจทก์ หลังจากนั้น ไผ่ ลิกค์ ก็โอนเงินคืนบางส่วน แต่ท้ายสุดหนี้เงินที่ยืม ยังเหลืออีก 550,000 บาท ที่ไผ่ยังไม่คืน
ซึ่งผลสุดท้ายศาลชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา ก็พิพากษาให้ จำเลยที่1 นายไผ่ ลิกค์ ชำระเงิน 550,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งคำพิพากษาคดีนี้ ไปถึงชั้นศาลฎีกาซึ่งแปลว่าคดีความสิ้นสุดแล้ว
ศาลจังหวัดอุดรธานี ได้อ่านคำพิพากษาศาลจังหวัดอุดรธานีคดีหมายเลขแดงที่ พ796/2565 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 และได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ในคดีหมายเลขแดงที่ 2698/2565 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566
เมื่อดิฉันตรวจสอบดูบัญชีทรัพย์สิน นายไผ่ ลิกค์ พบว่า ตามที่แจ้งไว้เมื่อพ้นตำแหน่ง สส. สมัยที่แล้ว 20 มีนาคม 2566 หนี้บัตรเครดิต 3 ที่ : กรุงไทย 430k / ธนชาติ 180k / กรุงศรี 190k หนี้อื่น 4 ที่ : SCB 3,197,028 บาท / SCB 12,983,164 บาท / กรุงไทย 11,594,699 บาท / กรุงไทย 2,343,106 บาท
เข้ารับตำแหน่ง สส. ในสมัยนี้ 4 กรกฎาคม2566 หนี้บัตรเครดิต : กรุงไทย 484k / ธนชาติ 160k /กรุงศรี 160k หนี้อื่น : SCB 1,065,676 บาท / SCB 4,327,721 บาท / กรุงไทยเคหะทรัพย์ทวี 5,797,347 บาท / กรุงไทยเพิ่มสุข 1,171,553 บาท
โดยไม่พบว่าระบุหนี้ก้อนนี้ไว้ในบัญชีทรัพย์สิน ในส่วนของหนี้สิน
กรณีคดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จต่อ ป.ป.ช. มันก็มีให้ได้เห็นกันมาในอดีตแล้ว ว่าผู้มีอำนาจบารมี ก็คงสามารถจะเป่ากระหม่อมใครแล้วทำให้คดีหายไปได้ เช่น แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน เพราะถ้าอยู่ฝั่งอำนาจ มันจะมีเกราะคนดีย์คุ้มกะลาหัวเสมอ มันก็ไม่ยากหรอกที่จะจัดการอะไรเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ แต่เรื่องนี้มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ
การที่นายไผ่ ลิกค์ทำการกู้ยืมเงิน ย่อมถือว่านายไผ่มีหนี้สิน ยิ่งไปกว่านั้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาว่า นายไผ่ต้องชำระหนี้ ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริง กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นตำแหน่งแล้วไม่แจงนั้นผิดกฏหมายหรือไม่ ?
ป.วิ.แพ่ง มาตรา 145 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการอุทธรณ์ฎีกา และการพิจารณาใหม่ คำพิพากษาหรือคำสั่งใด ๆ ให้ถือว่าผูกพันคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลที่พิพากษาหรือมีคำสั่ง นับตั้งแต่วันที่ได้พิพากษาหรือมีคำสั่ง จนถึงวันที่คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับหรืองดเสีย ถ้าหากมี”
ส่วน พ.ร.บ. ป.ป.ช. กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องยื่นบัญชี ทรัพย์สินและหนี้สินของตน ทรัพย์สินและหนี้สินคู่สมรส ทรัพย์สินและหนี้สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ถ้า ป.ป.ช.ฟัน + ศาลรับฟ้อง จะถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที หากผิด โทษคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สส. สว. สถาท้องถิ่น ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดไป
ในคำพิพากษาคดีดังกล่าว นายไผ่ ลิกค์ ให้การด้วยตนเอง ว่าตนเองเป็นตัวแทนในการทำธุรกรรมแทนโจทย์ในการลงทุนทำธุรกิจรถยนต์กับ นายบอย ยูนิตี้ ซึ่งปัจจุบันถูกจำคุกอยู่ ในข้อหา มีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้ารถซูเปอร์คาร์และรถหรู ด้วยวิธีการหลบเลี่ยงการชำระภาษี และสำแดงราคารถยนต์ให้ต่ำกว่าราคาตามท้องตลาด, รวมถึงลักลอบนำเข้ารถจดประกอบ ก่อนนำไปขายให้กับผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง และนักการเมือง ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐ
บอยยูนิตี้ถูกพิพากษาจำคุกรวม 30 ปี เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็โดนด้วย แต่ นายไผ่ ลิกค์ที่เป็นตัวแทนการลงทุนทำธุรกิจรถยนต์ มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร? ในคดีความเหล่านี้ ได้ถูกตรวจสอบโดยกองบังคับการปราบปราบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แล้วหรือไม่? อย่างไร?
นายไผ่ ลิกค์ กรณีพ้นตำแหน่ง สส.เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 นายไผ่ ลิกค์ ได้ยื่นบัญชีหนี้สิน ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ได้พิพากษาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 คดีหมายเลขแดงที่ พ796/2565 ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน (กรณีพ้นตำแหน่ง) ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่ ?
ณ ขณะที่ นายไผ่ ลิกค์ เป็น สส. ปี 2566 และมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ได้ยื่นบัญชีหนี้สิน ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ได้พิพากษาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 คดีหมายเลขแดงที่ 796/2565 ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน (กรณีเข้ารับตำแหน่ง) ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่ ?
นายไผ่ ลิกค์ มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีหนี้สิน ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ได้พิพากษาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 คดีหมายเลขแดงที่ พ796/2565 ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน (กรณีพ้นตำแหน่งตามข้อ 1. และกรณีเข้ารับตำแหน่งตามข้อ 2.) ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่
ซึ่งดิฉันจะได้ยื่นร้อง ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ ในลำดับถัดไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ป.ป.ช. จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ ดิฉันจะทำหนังสือไปยังกองบังคับการปราบปราบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เกี่ยวกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการแสวงหาข้อเท็จจริงในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ต่อไป
"สุดท้ายนี้คุณไผ่อาจจะชี้แจงว่า ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเล๊ยยยย บริสุทธิ์ขาวสะอาดดังแป้ง ก็ฟังได้ แต่น่าแปลกใจว่า คุณไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม รัฐมนตรีถึง 2 รัฐบาล แต่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี มันเป็นเพราะอะไรกันหนอ ออกมาตัดพ้อตั่งต่างหลายครั้งก็ยังไม่ได้รับความเห็นใจ มันเพราะอะไรกัน มีใครไปตรวจเช็คแล้วเจออะไรหรือไม่ อย่างไร ดิฉันก็ไม่ได้กล่าวหา เพียงแต่ตั้งข้อสงสัย ระดับเลขาพรรคมีชื่อติดโผทุกรอบ แต่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีกับเค้าซักกะที" น.ส.รักชนก ระบุ
ข้อมูลจาก รักชนก ศรีนอก - Rukchanok Srinork







