สว.สำรองจี้ กกต. 4 ข้อ เอาผิดพยานกลับคำให้การคดีฮั้ว สว.

สว.สำรองจี้ กกต. 4 ข้อ เอาผิดพยานกลับคำให้การคดีฮั้ว สว.

สว.สำรองจี้ กกต. 4 ข้อ เอาผิดพยานกลับคำให้การ 'คดีฮั้ว สว.' ปูดอักษรย่อ 'อ' กังขา 2 ว่าที่ กกต.ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ ร่วมโหวตเลือกประธานฯคนใหม่

KEY

POINTS

  • กลุ่ม สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ยื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีอาญากับพยานที่กลับคำให้การในคดีฮั้วเลือก สว.
  • เสนอ 4 ข้อเรียกร้องหลัก ได้แก่ ตรวจสอบคำให้การใหม่เทียบกับของเดิม, เพิกถอนการกันตัวเป็นพยาน, ดำเนินคดีข้อหาให้การเท็จ และสอบสวนผู้ที่ถูกอ้างว่าข่มขู่พยาน
  • เชื่อว่ามีขบวนการทางการเมืองอยู่เบื้องหลังการกลับคำให้การของพยาน เพื่อลดทอนน้ำหนักของคดี โดยเฉพาะพยานปากสำคัญอักษรย่อ "อ" ที่อ้างว่าถูกข่มขู่

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่ม สว.สำรอง นำโดยพล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เข้ายื่นหนังสือถึงประธาน กกต. ขอให้ดำเนินคดีอาญากับพยานที่กลับคำให้การใน คดีฮั้วเลือก สว. ทุกราย พร้อมดำเนินดดีกับผู้ที่พยานอ้างว่ามีการข่มขู่เพื่อให้การเท็จ

โดย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า การกลับคำให้การขอพยานในคดีนี้ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าหลังเปลี่ยนรัฐบาลจะมีขบวนการเข้าหาพยาน เพื่อให้กลับคำให้การ ลดทอนน้ำหนักของการสอบสวนที่คณะอนุกรรมการสอบสวนชุดที่ 26 สอบไว้อย่างแน่นหนา ยอมรับว่า พยานที่กลับคำให้การนี้ซึ่งมีชื่ออักษรย่อ “ อ” จาก จ.ขอนแก่น  เป็นพยานที่มีน้ำหนักเพราะเป็นพยานที่ยอมรับว่าเป็นผู้จัดหาผู้มาลงสมัคร แต่มากลับคำภายหลังโดยอ้างว่าถูกข่มขู่ จึงขอเรียกร้องต่อ กกต.ให้ดำเนินการ

1.ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับคำให้การของผู้กลับคำให้การทุกราย   และชั่งน้ำหนักกับคำให้การเดิมที่มีรายละเอียดที่ชัดเจน สอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่นที่มีมากและมีความน่าเชื่อถือกว่า 

2. ขอให้เพิกถอนสิทธิในการถูกกันตัวเป็นพยาน ของบุคคลที่กลับคำให้การ และเอาผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 

3.ดำเนินคดีกับผู้กลับคำให้การทุกรายข้อหากระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่า ผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.ป ว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา2561มาตรา 78 

4.ให้สอบสวนถึงรายละเอียดของผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้ข่มขู่หรือบังคับหลอกลวงในการให้การก่อนหน้านี้ตามที่ผู้กลับคำให้การกล่าวอ้างในทุกราย เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลนั้นอย่างถึงที่สุดในข้อหาข่มขืนใจหรือกระทำการใดให้ผู้อื่นกระทำการหรือไม่กระทำการอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวถึงการเลือกประธาน กกต.คนใหม่ว่า มีข้อสังเกตจากนักวิชาการจำนวนมาก เนื่องจากการประชุมเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมามี ว่าที่ กกต. 2 คนที่ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เข้าร่วมประชุมเพื่อเลือกประธาน กกต.คนใหม่ จะถือว่ามีความเหมาะสมหรือมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่ หรือ กกต.มีระเบียบอะไรพิเศษที่รองรับตรงนี้ก็ขอให้ชี้แจง มองว่ามีความสำคัญเพราะว่าที่ กกต. 2 คนหากไม่มีอำนาจก็อาจจะทำให้ผลการเลือกประธาน กกต.ออกมาเป็นอย่างอื่นก็ได้