ฟื้น‘ทีมยุทธศาสตร์’ค่ายแดง ผนึกแกนนำ-วาง3ภารกิจเร่งด่วน

พรรคเพื่อไทย (พท.) กลับมาใช้โมเดล “ทีมยุทธศาสตร์” เพื่อขับเคลื่อนงานการเมืองอีกครั้ง หลังต้องลดบทบาทลงไปในช่วงที่ แพทองธาร ชินวัตร เข้ามานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

โดย “หัวหน้าหนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แถลงแต่งตั้ง จาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค มีที่ปรึกษาประกอบด้วย จุลพันธ์, ภูมิธรรม เวชยชัย, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ สมศักดิ์ เทพสุทิน

รองประธาน ประกอบด้วย ชูศักดิ์ ศิรินิล, ชลน่าน ศรีแก้ว, สุทิน คลังแสง และ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ กรรมการ ประกอบด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, เกรียง กัลป์ตินันท์, สรวงศ์ เทียนทอง, มนพร เจริญศรี, น.ส.จิราพร สินธุไพร

นอกจากนี้ยังมี ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการกรรมการยุทธศาสตร์ ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ กรรมการ และ น.ส.ลินธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ

ต้องยอมรับว่าในช่วงการเลือก “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” มีแรงเชียร์จาก สส. ให้ “จาตุรนต์” เป็นคนมากุมบังเหียนพรรค่ายแดง เนื่องจากมีภาพลักษณ์นักประชาธิปไตย สามารถดึงคะแนนจาก “คนเสื้อแดง” ให้กลับมาเลือก “เพื่อไทย” ได้

ทว่าชื่อของ “จาตุรนต์” ไม่ตอบโจทย์ “ชินวัตร” บทสรุปเคาะจบลงที่ชื่อของ “จุลพันธ์” ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ “ชินวัตร” ทุกเจน - ทุกบ้าน ทำให้ “จาตุรนต์” ต้องพลาดเก้าอี้ผู้นำพรรค จนมีแรงต้านภายในเกิดขึ้น

เช่นเดียวกับ “สุริยะ - สมศักดิ์” มีกระแสข่าวไม่แฮปปี้กับการวางตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. ในบางพื้นที่ รวมถึง “สุทิน” ที่ระยะหลังมีกระแสข่าว “ตั้งพรรคใหม่”

เมื่อ “ชินวัตร” วางบทบาทให้ “จาตุรนต์ - สุริยะ - สมศักดิ์” เข้ามากำหนดทิศทางพรรค ทางหนึ่งดับกระแสความขัดแย้งของ “แกนนำพรรค” ทางหนึ่งผนึกให้ “แกนนำพรรค” ทุกคนอยู่กับ “ค่ายสีแดง” ต่อไป แถมยังตรึงลูกทีมไม่ให้คิดปันใจหนีร่วมงานพรรคคู่แข่ง หรือคิดจะตั้งพรรคขึ้นมาใหม่

“จุลพันธ์” ยอมรับว่า ทีมยุทธศาสตร์ประกอบไปด้วยคนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองอย่างยาวนานผ่านการต่อสู้ทางการเมืองมาทุกรูปแบบ และยืนหยัดในเวทีการเมืองด้วยจุดยืนที่มั่นคง รวมถึงคนรุ่นใหม่ในพรรคเพื่อขับเคลื่อนพรรคให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ทุกรุ่นทุกวัยทุกกลุ่มและทุกภูมิภาค

สำหรับภารกิจของ “จาตุรนต์-ทีมยุทธศาสตร์” วางเป้าหมายระยะสั้นใน 3 ภารกิจ เพื่อประคับประคองสถานการณ์พรรค ไม่ให้ตกเป็นรอง คู่แข่ง - คู่แค้น

ภารกิจแรก วางเกม “ศึกซักฟอก” โดย “ทีมยุทธศาสตร์” รับข้อมูลที่ “จุลพันธ์” หารือกับ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน มาแล้ว ซึ่งมีการพูดคุยแนวโน้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการร่วมลงชื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจการทำงานของ “รัฐบาลอนุทิน”

โดย “เพื่อไทย” วางไทม์ไลน์ยื่นซักฟอกเอาไว้ 2 ช่วงเวลา ไทม์ไลน์แรกยื่นญัตติทันทีหลังเปิดสมัยประชุมสภา ไทม์ไลน์สองยื่นญัตติช่วงกลางเดือน ม.ค. 2569 เพื่อชำแหละแผลก่อนที่ “อนุทิน” จะยุบสภา

ภารกิจสอง วางเกม “แก้ไขรัฐธรรมนูญ” ทาง “เพื่อไทย” ยังไม่เห็นด้วยกับที่มาของ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในสูตร 20 : 1 โดยมองว่าจะทำให้ “ขั้วน้ำเงิน” ได้เปรียบทันที เนื่องจากมีสัดส่วนของ สว.สีน้ำเงิน กว่า 160 เสียงอยู่ในมือ เมื่อมาหาร 20 ทำให้ “ขั้วน้ำเงิน” มีสัดส่วน กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว 8 คน

อีกทั้งเมื่อนับรวมกับ สส.พรรคน้ำเงิน และพรรคเครือข่าย อาจจะทำให้สัดส่วน “ขั้วน้ำเงิน” พุ่งเตะ 20 คน ซึ่งจะมีโอกาสทำให้ “ขั้วน้ำเงิน” คุมเกมร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ภารกิจสาม วางเกม “ศึกเลือกตั้ง 69” ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของ “ทีมยุทธศาสตร์ค่ายแดง” เพราะความนิยมตกต่ำมากที่สุดตั้งแต่ก่อกำเนิด “พรรคเครือชินวัตร” จากพรรคกระแส ไม่อิงกระสุน แต่เวลานี้ “เพื่อไทย” ต้องใช้ทั้งกระแส - กระสุน เพื่อกอบโกย สส. เข้าสภาให้ได้มากที่สุด

หลังจากนี้ให้จับตาบทบาทของ “ทีมยุทธศาสตร์เพื่อไทย” ที่เริ่มวางเกม - วางคน เพื่อเป้าหมายใน 3 ภารกิจ พา “ชินวัตร” กลับมาครองความยิ่งใหญ่???