'เพื่อไทย' ตั้ง 'จาตุรนต์' นั่งปธ.ยุทธศาสตร์พรรค - กำหนดทิศทางเลือกตั้ง

'เพื่อไทย' ตั้ง 'จาตุรนต์' นั่งปธ.ยุทธศาสตร์พรรค - กำหนดทิศทางเลือกตั้ง

'เพื่อไทย' ตั้ง กก.ยุทธศาสตร์ กำหนดทิศทางการเมือง สู้ศึกเลือกตั้ง 'จาตุรนต์' นั่ง ปธ. มองเป็นการผสมผสานที่ลงตัวเพื่อตอบสนองประชาชน

ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นำโดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงแต่งตั้งประธานและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค โดยนายจุลพันธ์กล่าวว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงนามตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 63 ในการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย 

โดยเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ได้มีการประชุมเป็นครั้งแรก โดยมีนายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นประธานคณะกรรมการ ในส่วนที่ปรึกษาประกอบด้วยนายจุลพันธ์, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน

ด้านของรองประธานได้แก่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายชลน่าน ศรีแก้ว, นายสุทิน คลังแสง และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ กรรมการประกอบด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, นายเกรียง กัลป์ตินันท์, นายสรวงศ์ เทียนทอง, นางมนพร เจริญศรี, น.ส.จิราพร สินธุไพร รวมถึงนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ และมีกรรมการและผู้ช่วยเลขาธิการ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ และ น.ส.ลินธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมีทั้งรุ่นที่สร้างและรุ่นที่สานต่อ ประกอบไปด้วยคนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองอย่างยาวนานผ่านการต่อสู้ทางการเมืองมาทุกรูปแบบ และยืนหยัดในเวทีการเมืองด้วยจุดยืนที่มั่นคง รวมถึงคนรุ่นใหม่ในพรรคเพื่อขับเคลื่อนพรรคให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ทุกรุ่นทุกวัยทุกกลุ่มและทุกภูมิภาค

โดยคณะกรรมการจะมีบทบาทที่สำคัญในเรื่องของการกำหนดทิศทางการเมือง แนวทางการต่อสู้ทางการเมือง และจะมีช่องทางในการสื่อสารตรงมายังคณะกรรมการบริหาร
 

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ปกติยุทธศาสตร์พรรคการเมืองจะต้องเป็นเรื่องระยะยาว แต่เราตั้งขึ้นมาช่วงเวลาที่รู้กันอยู่ว่าใกล้ถึงวันเลือกตั้ง จึงต้องทำงานผสมผสานระหว่างการวางยุทธศาสตร์ของพรรคในระยะยาวและเน้นการวางยุทธศาสตร์เพื่อได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เราต้องทำงานแข่งกับเวลาและรวดเร็วโดยการประเมินทิศทางแนวทางการทำงานของพรรคในด้านต่างๆ 

รวมทั้งเรื่องของนโยบายเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง โดยมีโจทย์ว่าเราจะนำข้อดี จุดแข็งของพรรคเพื่อไทยกลับมาให้มีความชัดเจนขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องพรรคที่มีบทบาทในการสร้างประชาธิปไตย และเป็นพรรคที่มีบทบาทในการสร้างนโยบายที่นำมาสู่การปฏิบัติ

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กระบวนการเข้าสู่การเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้ว่าหลายคนบอกว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ในช่วงวิกฤตแต่สำหรับพวกเรา เราลงพื้นที่หาประชาชนจึงทราบว่าคะแนนนิยมของพรรคยังอยู่ในระดับที่สูงแน่นอนว่ามีปัญหาในเรื่องของความแน่ใจของประชาชนบางกลุ่มซึ่งเรายอมรับ เป็นหน้าที่ที่เราต้องปรับตัวเองให้ดูดีขึ้นมีความเหมาะสมและตอบโจทย์กับประชาชนมากขึ้น 

"เราต้องเรียนรู้ถึงปัญหาและเรียนรู้ว่าจุดกำเนิดของปัญหาคืออะไรเพื่อนำปัญหาเหล่านั้นมาตีโจทย์และตอบโจทย์ให้แตกในเรื่องของนโยบายที่ตรงใจกับประชาชนมากขึ้น เรื่องของบุคลากรที่เราต้องคัดสรรต้องเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่และทำงานใกล้ชิดกับประชาชน นี่คือจุดเริ่มต้นแต่การทำงานอย่างจริงจังและตั้งใจในการที่เป็นกระบอกเสียง ระยะเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์จากการทำงานอย่างต่อเนื่องและคงเส้นคงวา"