คดี ม.112 - รีดภาษี 1.76 หมื่นล้าน สกัด ‘ทักษิณ’ บั่นทอน เพื่อไทย

คดี ม.112 - รีดภาษี 1.76 หมื่นล้าน สกัด ‘ทักษิณ’ บั่นทอน เพื่อไทย

เรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.76 หมื่นล้าน - อุทธรณ์คดี ม.112 กลายเป็นฉากสกัด “ทักษิณ” ผู้นำจิตวิญญาณแห่ง “พรรคเพื่อไทย” ในห้วงก่อนเลือกตั้งต้นปี 2569

KEY

POINTS

  • "ทักษิณ ชินวัตร" เผชิญวิบากกรรมอีกครั้งหลังถูก อสส.อุทธรณ์คดี ม.112 และศาลฎีกามีคำพิพากษากลับให้ชำระภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.76 หมื่นล้านบาท
  • คดีความทั้งสองถูกมองว่าเป็นเครื่องมือทางการเมืองของ "รัฐพันลึก" เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ "ทักษิณ" ได้รับการพักโทษออกจากเรือนจำ และจำกัดบทบาททางการเมืองก่อนเลือกตั้งใหญ่
  • โทษคุมขัง "ทักษิณ"  1 ปีมีเป้าหมาย เพื่อบั่นทอนความแข็งแกร่งของพรรคเพื่อไทยไม่ให้มีโอกาสเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล

ข่าวกรณีอัยการสูงสุด (อสส.) หลัง “อิทธิพร แก้วทิพย์” เข้ามารับตำแหน่ง อสส.คนใหม่ โดยมีรายงานข่าวว่าพิจารณาสั่งอุทธรณ์สำนวนคดีมาตรา 112 คดีที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

โดยศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2568 ทว่าเวลาต่อมา “ทักษิณ” ได้ถูกสั่งบังคับโทษเข้าสู่เรือนจำ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2568

ถือเป็นห้วงจังหวะเวลาเดียวกันกับที่ “พรรคเพื่อไทย” เพลี่ยงพล้ำร่วงจากอำนาจฝ่ายบริหาร เปลี่ยนมือมาเป็น “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีคนใหม่จากขั้วสีน้ำเงิน ขั้วตรงข้ามพรรคเพื่อไทย

เดิมทีคณะกรรมการพิจารณาคดี ม.112 ของ อสส.เคยมีมติ 8 ต่อ 2 เสียงเห็นควรไม่อุทธรณ์คดีนี้ กระทั่งล่าสุดมีรายงานข่าวว่า อำนาจในการพิจารณายื่นอุทธรณ์นั้นเป็นของ อสส.เพียงผู้เดียว จึงไม่ใช่การกลับมติดังกล่าวแต่อย่างใด

เรื่องร้อนก่อนที่จะเดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งใหญ่ในต้นปี 2569 เมื่อมีข่าวทำนองว่า “นายใหญ่” แห่งค่ายแดง มีโอกาสที่จะได้รับการพักโทษตามระเบียบราชทัณฑ์

ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ได้มีความเห็นให้ยกฎีกากรณี “ทักษิณ” นักโทษเด็ดขาดชาย 1 ปี ซึ่งขอยื่นพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 หลังถูกบังคับโทษจำคุก 1 ปี โดย "ทักษิณ" ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษจากโทษจำคุก 8 ปี เหลือเพียง 1 ปี

กรณีการขอพระราชทานอภัยโทษอีกครั้งนั้น “สุโรจน์ จันทรพิทักษ์” อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ปัจจุบันได้ลาออกจากผู้พิพากษา และมีตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ด้านกฎหมาย และการปฏิรูปกระบวนยุติธรรม พรรคไทยภักดี เคยระบุว่า ทักษิณ มีสิทธิขอพระราชทานอภัยโทษได้ ซึ่งเป็นสิทธิของนักโทษอยู่แล้ว ส่วนประเด็นที่ควรพิจารณาสมควรหรือไม่นั้น เรื่องนี้สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงมีพระเมตตาแล้วเมื่อปี 2566

คดี ม.112 - รีดภาษี 1.76 หมื่นล้าน สกัด ‘ทักษิณ’ บั่นทอน เพื่อไทย

ทำให้มีการมองว่า “ทักษิณ” อาจได้รับช่องทางการพักโทษออกมาจากเรือนจำก่อนครบ 1 ปี เพราะเข้าเงื่อนไข เป็นผู้ต้องขังที่มีอายุ 70 ปี ขึ้นไป หากได้รับโทษจำคุกระยะสั้นมาแล้ว 1 ใน 5 ของโทษส่วนใหญ่จะได้รับประโยชน์คือได้ พ.ร.ฎ.อภัยโทษให้ปล่อยตัวนักโทษรายนั้นไป

ดังนั้น เกณฑ์การพักโทษอย่างเร็วที่สุดคือ หากนับจากวันที่ 9 ก.ย.2568 ก็จะครบเกณฑ์ 1 ใน 5 คือวันที่ 20 พ.ย.2568

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกเงื่อนเวลาที่จะได้รับการปล่อยตัวล่าช้ากว่า 1 ใน 5 คือ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปัจจุบันนักโทษจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดวันต้องขังหรืออภัยโทษได้ตามวโรกาส โดยจะต้องจำคุกมาแล้ว 1ใน 3 ของโทษตามหมายจำคุกนั้น

ฉะนั้น หากนับเงื่อนเวลานี้กรณีทักษิณ ตั้งแต่บังคับโทษคุมขัง 9 ก.ย. 2568 เกณฑ์ 1 ใน 3 ก็จะครบในวันที่ 8 ม.ค. 2569 ซึ่งจะเข้าเกณฑ์มาตรฐานตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ และตามกฎหมายลูก และ พ.ร.ฎ.อภัยโทษ

แผนรอการพักโทษดูสถานการณ์จากการยื่นอุทธรณ์คดี มาตรา 112 แล้วเป็นไปได้ว่าจะปิดโอกาส “ทักษิณ” ในการออกจากเรือนจำมาบัญชาการเกมทางการเมืองนอกคุก

เพราะในช่วงต้นปี 2569 แน่นอนว่าจะมีสมรภูมิเลือกตั้งใหญ่ ที่พรรคเพื่อไทย จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องกวาด สส.ให้ได้มากที่สุดคือตั้งเป้าไว้ 200 เสียง แต่ในความเป็นจริงการรักษา สส.ไม่ให้ต่ำร้อย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า

ขณะที่ ครอบครัวชินวัตร ทั้ง พานทองแท้ ชินวัตร พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรชาย และบุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ยืนยันว่าครอบครัวจะเดินหน้าสู้คดีต่อไปเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม

ด้าน พานทองแท้ ยอมรับว่าคำสั่งอุทธรณ์นี้เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจของครอบครัวพอสมควร เนื่องจากบิดาได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว แต่ยังคงถูกคำสั่งอุทธรณ์กลับมา

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “รัฐพันลึก” ยังคงรุกคืบ “ทักษิณ” และ “เพื่อไทย” อย่างต่อเนื่อง หลังจากเดินเครื่องสอย “นายกฯ ชินวัตร” ถึง 2 คนติดต่อกันระหว่างปี 2567-2568

พร้อมทั้งเด็ดปีก “ผู้นำจิตวิญญาณค่ายแดง” เท่ากับเป็นการตัดกำลังศูนย์กลางอำนาจของ “เพื่อไทย” ไม่ให้ขยับเคลื่อนไหวทางการเมืองได้โดยง่ายเหมือนปี 2567-2568

โอกาสการพ้นโทษจองจำในเรือนจำ คงต้องรอการพ้นโทษจำคุก 1 ปี ในปี 2569 ซึ่งกว่าที่ “ทักษิณ” จะได้รับอิสรภาพคงต้องรอรัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งไปแล้ว

คดี ม.112 - รีดภาษี 1.76 หมื่นล้าน สกัด ‘ทักษิณ’ บั่นทอน เพื่อไทย

กระบวนการดีลจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ อาจจะเป็นไปตามแผน “รัฐพันลึก” ที่กำลังวางหมากต้องการให้ “ภูมิใจไทย” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมี “กล้าธรรม” เป็นพรรคเบอร์ 2 ในการเกี่ยวแขนจัดตั้งรัฐบาลต่อไป อยู่ที่ “แดง” หรือ “ส้ม” จะมาเติมเต็มสมการรัฐบาลปี 2569

คดี ม.112 - รีดภาษี 1.76 หมื่นล้าน สกัด ‘ทักษิณ’ บั่นทอน เพื่อไทย

ถัดมาสถานการณ์ล่าสุด “ทักษิณ” ยังต้องเผชิญหมากที่ “รัฐพันลึก” ยังกุมทิศทางการเมืองไทยอยู่เช่นเดิม กระหน่ำซ้ำ หลังศาลฎีกาพิพากษากลับคดีในคดีภาษีของ “ทักษิณ” ในฐานะโจทก์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 1.76 หมื่นล้านบาท

โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องมีการบังคับคดี ซึ่งอาจจะต้องมีการขอให้ออกหมายบังคับคดีเสียก่อน โดยอาจจะใช้เวลาราว 1-2 เดือน ถึงจะออกหมายบังคับคดีได้

เดิมทีคดีดังกล่าว “ทักษิณ” เคยชนะคดีในศาลอุทธรณ์ เพราะศาลเห็นว่าให้เพิกถอนการประเมินภาษีของกรมสรรพากร โดยให้เหตุผลว่าการดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่ง ทักษิณได้ชนะคดีนี้ในชั้นต้น และชั้นอุทธรณ์

องคาพยพ “รัฐพันลึก” กำลังรุกคืบตัดโอกาส “ทักษิณ” และ “เพื่อไทย” ไม่ให้ขยับทางการเมืองได้ง่ายกว่าเดิม แม้จะมีกระแสแต้มสงสารไหลเข้ามาที่ค่ายแดง หลังเจอวิบากกรรมคลิปเสียงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาระหว่าง "นายกฯ อิ๊งค์-ฮุน เซน" จนกระทั่ง “นายน้อย” แพทองธาร ชินวัตร ร่วงพ้นตำแหน่งนายกฯ

คดี ม.112 - รีดภาษี 1.76 หมื่นล้าน สกัด ‘ทักษิณ’ บั่นทอน เพื่อไทย

“ทักษิณ” เจอเกมยาวถูกคุมขังในเรือนจำตามการบังคับโทษ 1 ปี เคราะห์ซ้ำ เจอเกมโหดเรียกเก็บภาษี 1.76 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดทั้งมวลจึงถูกอ่าน และฟันธงทางการเมืองจากคนค่ายแดง และนอกค่ายแดงว่า 

นี่อาจจะเป็น “แผนสกัด” ไม่ให้ “ทักษิณ” กลับมาผงาดได้โดยง่าย

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์