'แม่ทัพกุ้ง' เห็นด้วย ระงับปฏิญญา ชี้ ยิงหนองหญ้าแก้ว เบนความสนใจทุ่นระเบิด

“แม่ทัพกุ้ง” เห็นด้วย ”นายกฯ“ ระงับปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ปล่อยตัว 18 เชลยศึก ตั้งข้อสังเกตเหตุยิงหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว เบี่ยงความสนใจ ปมทุ่นระเบิด - ปราสาทตาควาย
เมื่อเวลา 13.05 น. วันที่ 14 พ.ย.68 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร(วปอ.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งล่าสุดดูเหมือนจะกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด บาดเจ็บและขาขาด 1 นาย ว่า ตนพูดในนามส่วนตัวซึ่งเกษียณแล้ว และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาผบ.ทบ. มองว่าเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์และชี้แจงไปแล้ว
ส่วนบุคคลที่เราควบคุมตัวไว้ 18 นาย และยังไม่ได้ปล่อยตัว ก็เป็นการตอบโต้ในขั้นต้นโดยชัดเจนอยู่แล้วจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านก็ได้กำชับให้ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องไปแล้ว โดยฝ่ายความมั่นคงและเหล่าทัพ ก็คงเตรียมการในส่วนนี้ตามสมควร
เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับการระงับปฏิญญา 4 ข้อ ที่เซ็นร่วมกันที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย หรือไม่ 'แม่ทัพกุ้ง' กล่าวว่า น่าจะเหมาะสม เพราะเราสูญเสียกำลังพล ต้องแสดงออกถึงความไม่พอใจในส่วนที่เราโดนกระทำ ต้องมีการตอบโต้อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่แล้ว นอกจากการประท้วงด้วยเอกสาร
เมื่อถามว่าหากมีทหารขาขาดเพิ่มเป็นรายที่ 8 ในทางปฏิบัติสามารถเราสามารถยิงไปที่ฐานที่รับผิดชอบได้เลยหรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ตนเองคิดว่าเรื่องการตอบโต้ แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้แนวทางไปแล้ว เพราะต้องดูว่าเหยียบทุ่นระเบิดที่ไหน เป็นของเก่าหรือของใหม่ และอยู่ในเขตอธิปไตยมีฐานทหารกัมพูชาอยู่ที่นั่นหรือไม่ วางนานแค่ไหน และสมควรแก่เหตุหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นการตัดสินใจของแม่ทัพ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกน่าจะมอบแนวทางไปแล้ว
เมื่อถามว่าได้ประเมินสถานการณ์ขณะนี้ไว้อย่างไรบ้าง พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ดูจากนโยบายของนายกรัฐมนตรี น่าจะไม่พอใจในการที่กัมพูชาวางทุ่นระเบิดตรงนั้น น่าจะมีความตึงเครียดพอสมควร ต้องรอว่าจะคลี่คลายหรือไม่อย่างไร ที่ชายแดน จังหวัดสระแก้วยังมีการอ้างว่าทหารไทยเป็นฝ่ายยิงพลเรือน ซึ่งอาจจะเป็นเกมอย่างหนึ่ง อาจสร้างสถานการณ์เพื่อระงับตรงนี้ก็ได้
เมื่อถามว่าส่วนตัวท่านเองคิดว่าหลังจากนี้จะมีการยั่วยุอีกหรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า มีนัยพอสมควร จะมีการยั่วยุอีกหรือไม่ต้องรอดู ต้องดูเจตนารมย์ของผู้นำกัมพูชา ว่าวัตถุประสงค์ที่เขาต้องการคืออะไร เช่น เหตุการณ์ที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว น่าจะมีนัยพอสมควร
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่จังหวัดสระแก้ว จะลุกลามไปถึงเขตพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เลยหรือไม่นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เป็นนโยบายของประเทศเดียวกัน ในความคิดของตนน่าจะมีส่วนที่จะเชื่อมโยงสถานการณ์ซึ่งกันและกัน หลายคนอาจจะมองพื้นที่ปราสาทตาควาย ซึ่งอาจจะมีส่วนหนึ่งที่อาจจะดึงความสนใจ สังเกตดี ๆ มีนัยหมด เพราะฉะนั้นการที่รัฐบาลออกมาตอบโต้ ทั้งเรื่องการงดปล่อยตัวเชลยศึก และการประณามต่าง ๆ ตนคิดว่าถูกต้องแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พยายามรื้อฟื้นขอให้มีการเจรจา มองว่าไทยควรจะมีท่าทีอย่างไรนั้น พล.ท.บุญสิน ระบุว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบันรัฐบาลเราก็ต้องเข้มแข็งด้วย ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลไทยมีความเข้มแข็ง เราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า บางสิ่งบางอย่างก็นำมาซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติด้วยเหมือนกัน
เมื่อถามว่าการที่เรายังไม่ปล่อยตัวเชลยศึกจะเป็นประเด็น ที่ทำให้เราได้เปรียบหรือเสียเปรียบหรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เป็นการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจของรัฐบาลเรา ว่าการกระทำแบบนี้พี่น้องเราเสียขา ซึ่งก็สมเหตุสมผล มันอาจกระทบการเจรจาในลำดับต่อไป แต่ก็มีหนทางที่จะคลี่คลายกัน ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ และความต้องการของผู้นำ กับทางกัมพูชาด้วย เราพร้อมอยู่แล้ว ที่จะเจรจาเพื่อสันติ ต้องดูสถานการณ์ตามช่วงเวลาอีกครั้ง
หลังจากให้สัมภาษณ์จบ พล.ท.บุญสิน ได้ขึ้นเวทีเป็นวิทยากร บรรยายในงานปฐมนิเทศ นายทหารชั้นนายพลของกองทัพไทย รุ่น 50 ซึ่งมีนายทหารเข้าฟัง จำนวน 391 นาย โดยบรรยายในหัวข้อ “การบัญชาการการบริหารจัดการในภาวะวิกฤติ กรณีศึกษา จากประสบการณ์ป้องกันชายแดนของกองทัพภาคที่ 2”







