'2สส.สงขลา' เบี้ยว แจง กมธ.มั่นคง ปม จ่ายส่วยพนันออนไลน์ ให้ ตร.

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธานกมธ. ซึ่งมีวาระพิจารณาส่วยเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเกี่ยวโยงกับกรณีที่ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) มีมติชี้มูลความผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ 200 นาย  โดยเชิญ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม และ นายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เข้าชี้แจง

ทั้งนี้เมื่อถึงเวลาประชุมไม่พบว่านายชนนพัฒน์ และนายสมยศ มาชี้แจง โดยนายชนนพัฒฐ์ ได้แจ้งว่าติดภารกิจในพื้นที่ ส่วนนายสมยศทำหนังสือแจ้งว่าติดภารกิจไปต่างประเทศ ทำให้ที่ประชุมได้พิจารณาข้อมูลที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบต.ตร. และ  นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และ น.ส.พิมพ์วิไล ป้องอ่อน ซึ่งนายอัจฉริยะระบุว่าเป็นพยานที่มีข้อมูลการโอนเงินในเส้นทางส่วยเว็บพนันออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานในการประชุมนั้น โดย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้สอบถาม น.ส.พิมพ์วิไล  ถึงงรายละเอียดการโอนเงิน ซึ่ง น.ส.พิมพ์วิไล ชี้แจงว่า  หลังจากที่ตนโดนจับได้ไปสอบถามคนที่ว่าจ้างให้โอนเงินถึงสาเหตุ ซึ่งคนที่จ้างวานตอบกลับว่า เงินที่โอนให้ตำรวจหรือโอนให้ไปในที่ต่างๆ เป็นเงินผิดกฎหมายหรือจากการพนัน และเป็นเงินที่เป็นส่วยจากการพนันออนไลน์ที่ส่งให้กับตำรวจ

“ได้โอนเงินผ่านจริง โดยคนว่าจ้างให้โอนให้ติดต่อกับคนคนหนึ่งที่เขาจะมาเรียกเก็บทุกวันที่ 5 และ 10 ของเดือน โดยเขาแจ้งมาว่าตำรวจชุดนี้คือชุดพีซีที 4  โดยจะโอนไปให้รองกาโม่ เรื่องนี้ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ ทั้งนี้หลังจากที่ถูกจับ รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่ทราบเรื่องมาก่อน” น.ส.พิมพ์วิไล กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จึงถามถึงนักการเมืองท้องถิ่น โดยมีชื่อของนายวิชัย ชูกำเนิด สมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยพบว่ามีการโอนเงินไปให้ 1 ครั้ง จำนวน 1 แสนบาท และมีการโอนเงินไปให้กับนายคชาชาญ ซึ่งเป็นบัญชีม้าของดาบยาว รวมถึงโอนเงินไปให้บัญชีม้าคนอื่นๆของดาบยาว โดยพบว่าเส้นเงินวิ่งต่อไปยังนางนิภาพรรณ สุขวิมล ภรรยาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จำนวน 38 ครั้ง มูลค่า 3 ล้าน รวมทั้งพี่ชายและพี่สาวของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และเส้นเงินนี้ก็วิ่งไปยัง พ.ต.ท.วีรวัฒน์ เจริญศิลป์ นายเวรของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ทุกเส้นเป็นการโอนออก แต่มีเส้นเงินของนายชนนพัฒฐ์ โอนกลับมาที่ น.ส.พิมพ์วิไลเพราะอะไร

ซึ่งน.ส.พิมพ์วิไล กล่าวว่า "ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร"

ทั้งนี้พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้ฝากกมธ.มั่นคงแจ้งไปยังผู้บัญชาการคณะกรรมการข้าราชการตรวจ (ก.ตร.) และส่งเรื่องที่ชี้มูลไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะได้นำเรื่องไปประกอบสำนวนการสอบสวน รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ยึดอายัดทรัพย์นายตำรวจทั้งหมดที่รับเงินจากเว็บพนัน  และส่งเรื่องไปยังกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบการเสียภาษีย้อนหลังทั้งหมดของตำรวจที่รับเงินจากเว็บพนัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ นายอัจฉริยะ ได้ให้ข้อมูลว่า ตนได้ติดตามคดีชบาเกี่ยวกับบัญชีม้าที่เกี่ยวกับยาเสพติดและเว็บพนันออนไลน์ในภาคใต้และเหนือตั้งแต่ปี 2563  พบว่าปัจจุบันเว็บพนันของนายชนนพัฒฐ์มีทั้งหมด 12 เว็บ มีเงินหมุนเวียน 5,000 ล้านบาท  ทั้งนี้ในสมัยที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็น รมว.ดีอีได้จับเว็บพนันคดีหวยแนน ยึดทรัพย์ 500 ล้านบาท  ซึ่งนายประเสริฐเคยออกมาตอบโต้ว่าไม่เคยตั้งตำรวจไปเก็บเงิน  แต่มีเอกสารคำสั่งออกมา โดยพบชื่อของ พ.ต.ท.ภูเบศ เกตุแก้ว และ ด.ต.ชวลิต

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่าซึ่ง พ.ต.ท.ภูเบศ ได้ทำเอกสารปลอม ส่งข้อความไปยังธนาคาร และให้ธนาคารส่งไปถึงผู้ที่ถูกอายัดบัญชี ซึ่งเป็นบัญชีเว็บพนัน เรียกตบทรัพย์ 50% ในการปลดอายัดบัญชี ส่วน ด.ต.ชวลิต พบว่าเก็บค่าปลดอายัดบัญชี บัญชีละ 1 แสนบาท จำนวน 500 กว่าบัญชี โดยใช้วิธีการส่งไปธนาคาร ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นข้อครหามากว่าทำไมปลดอายัดบัญชีต้องจ่ายเงิน

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่าสำหรับกรณีของนายชนนพัฒฐ์พบหลักฐานการรับเงินจากบอสตาล ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน จำนวน 2 ล้านบาท จึงตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเงินค่าอะไร  ทั้งนี้ตนได้ร่วมงานกับนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี และพล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม ทำเรื่องปราบปรามสแกมเมอร์และเว็บพนันออนไลน์ ตนไม่ได้กล่าวร้ายใคร แต่ขอให้ติดตามตรวจสอบ