'ชูศักดิ์' ข้องใจโมเดล 'คณะยกร่าง' ไม่มีสูตรกันล็อกสเปกได้

"พริษฐ์" แจงจุดยืน กมธ.ส้ม ไม่เอา "สสร." แก้รธน. หวั่นผูกขาด ลั่นพร้อมปกป้องเนื้อหาให้มากที่สุด ด้าน "ชูศักดิ์" หวั่นกลไกคณะยกร่าง ไม่มีสูตรกันล็อกสเปกได้
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา โดยมีนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธานกมธ. ได้นัดหารือต่อประเด็นการกำหนดรายละเอียดของที่มาของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน หลังจากที่วานนี้ (12 พ.ย.) มติเสียงข้างมากให้ใช้เป็นกลไกทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะกมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า กมธ.ในซีกของพรรคประชาชน 8 เสียง ซึ่งไม่นับนายณัฐวุฒิ ที่ทำหน้าที่ประธานกมธ. ได้ลงมติยืนยันตามเนื้อหาที่พรรคประชาชนเสนอทุกประการ ได้แก่ ไม่ควรมีการเพิ่ม สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพราะเป็นการเพิ่มระยะห่างจากประชาชน ทั้งนี้ สสร.จะมีประโยชน์หรือไม่ ไม่อยู่ที่ชื่อ แต่อยู่ที่ที่มาของสสร. และลงมติยืนยันสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพราะกมธ.เสียงข้างมากมีข้อกังวลต่อการขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
“ผลการโหวตที่ไม่ให้เพิ่ม สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และให้ สสร.เลือก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ อาจมีปัญหา คือ ทำให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญมีระยะห่างจากประชาชน และทำให้กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญมีความเสี่ยงต่อการผูกขาดโดยสีใดสีหนึ่ง แม้ สส.และสว. เลือก สสร.มีหลายสี แต่หาก สสร. มีสีหนึ่งที่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง เข้ามา อาจทำให้ สสร.นั้นเลือกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นสีเดียวกัน ซึ่งมีตัวอย่างจากกมธ.สอบประวัติองค์กรอิสระ ที่แม้สว.มีหลายสี แต่เมื่อมีเสียงข้างมากที่เป็นสีเดียวกัน ทำให้กมธ.สอบประวัติทุกคณะเป็นสีเดียวกัน 100% ดังนั้นสิ่งที่กังวล หากเพิ่มสสร.ขึ้นมาอีกชั้น อาจทำให้กมธ.ยกร่าง ถูกผูกขาดโดยสีใดสีหนึ่ง ดังนั้นในการโหวตของกลไกยกร่าง พรรคประชาชนจึงเห็นว่าไม่ควรเพิ่มสสร. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมติ 21 เสียงที่เห็นด้วยกับการมีกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ต่อ 9 เสียงที่เสนอให้มี สสร. ดังนั้นที่พาดหัวว่า ตัด สสร.ออกไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในขณะนั้น” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ กมธ. จะพิจารณาและลงมติต่อเกณ์ฑคัดเลือกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเสนอให้ใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก ทำให้กังวลว่าอาจนำไปสู่การผูกขาด เพราะหากฝ่ายใดมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาสามารถผูกขาดการเลือก กมธ.ยกร่างได้ 100% ทั้งนี้สิ่งที่พรรคประชาชนเสนอคือ สูตรให้สมาชิกรัฐสภารวมกลุ่มกัน กลุ่มละ 20 คน เพื่อเลือก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 1 คน จะเป็นหลักประกันว่ากมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ถูกผูกขาดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งในการอภิปรายมีแนวโน้มว่ากมธ.จะเห็นด้วยกับข้อเสนอ และมีข้อสรุป
เมื่อถามว่าโมเดลที่ออกมาไม่ผิดกับข้อตกลงทางการเมืองใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่าได้ทำเต็มที่เพื่อปกป้องเนื้อหาของพรรคประชาชนที่เสนอให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันคือการหาฉันทามติ
"ผมทำเต็มที่เพื่อโน้มน้าวให้กมธ.คล้อยตามสิ่งที่พรรคประชาชนเสนอ แต่ไม่ว่าสุดท้ายร่างจะเป็นอย่างไร กมธ.ตระหนักว่าต้องมี 2 โจทย์ คือ ได้ฉันทามติจาก และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนหากได้ได้รับฉันทามติจากรัฐสภา แต่ประชาชนไม่เห็นด้วย สิ่งที่แก้ไขจะไม่ถูกนำไปจัดทำฉบับใหม่ได้” นายพริษฐ์ กล่าว
ขณะที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ในการลงมติของกมธ. เมื่อวาน (12 พ.ย.) คือเลือกระหว่าง การมีเฉพาะ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือมีสสร. และกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ใช้วิธีไม่มี สสร. มีแต่ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นพรรคภุมิใจไทย เสนอให้มี สสร. เหมือนกับ พรรคเพื่อไทย แต่เมื่อมีการโหวตออกมา ดูแล้วแนวโน้มพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนได้ตกลงกันแล้วว่า จะใช้รูปแบบกมธ.ยกร่าง
“พรรคภูมิใจไทยเคยเสนอให้มี สสร. แต่กลับสละไม่เอา ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นว่าควร สสร. เพราะจากการพูดคุยมาหลายครั้ง มองว่าเป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยให้มีอีกสภามาดูว่าร่างรัฐธรรมนูญที่มีขึ้นควรเป็นอย่างไร และมีการกลั่นกรองเสนอรัฐสภา และสสร.นั้นทำมาหลายครั้งประชาชนคุ้นชิน เมื่อความเห็นแตกต่างกันจึงโหวตตัดสิน และเสียงข้างมากให้ใช้รูปแบบกมธ.ยกร่าง คือ ไม่เอา สสร. แต่การไม่เอา สสร. ไม่ได้หมายความว่าเป็นเพราะไม่ได้มาจากประชาชน เนื่องจากการพิจารณานั้นยังไปไม่ถึง แต่เมื่อเขาเลือกรูปแบบนี้ คำถามคือ ประชาชนอยู่ตรงไหน” นายชูศักดิ์ กล่าว
นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ตนสังเกตได้ว่า หากใช้รูปแบบกมธ.อย่างเดียว จะมีที่มาอย่างไร เพราะในร่างของพรรคประชาชนกำหนดให้มาจากการเลือกตั้ง แต่หากตัดการเลือกตั้งออก ยังไม่ทราบว่าจะเสนอรูปแบบอย่างไร แต่เท่าที่ฟัง คือจะให้สมัครแล้วส่งรายชื่อให้รัฐสภาเลือก
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวเสี่ยงจะเกิดการล็อกสเปกได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า กมธ.ยังคุยกันอยู่ว่าจะป้องกันได้อย่างไร ส่วนข้อเสนอให้ใช้สูตร 20 จับ 1 นั้น ยังไม่รู้ว่าป้องกันได้จริงหรือไม่







