คิกออฟ ‘พรรคโอกาสใหม่’ ดีล ‘บิ๊กเนม’ - ปั้นพรรคทางเลือก

จับตาพรรคการเมืองใหม่ “โอกาสใหม่” ปั้นพรรครองรับทุกเจเนอเรชัน โดยตั้งเป้าชิงแต้มกลุ่มคนยังไม่ตัดสินใจในทางการเมือง
KEY
POINTS
- พรรคโอกาสใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมี "จตุพร บุรุษพัฒน์" เป็นหัวหน้าพรรค ชูจุดยืนเป็นพรรคทางเลือกใหม่ที่รวมคนทุกรุ่น
- พรรคกำลังดีลนักการเมืองชื่อดัง เช่น กลุ่มของเดชอิศม์ ขาวทอง จากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสร้างฐานเสียงและเสริมความแข็งแกร่ง
- "โอกาสใหม่" ยังหวังชิงคะแนนจากกลุ่มผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด เพื่อแย่งแต้ม สส.จากพรรคการเมืองอื่น
บรรดานักเลือกตั้งของพรรคการเมืองค่ายใหญ่ ต่างวิเคราะห์และฟันธงกันว่า สัญญาณเลือกตั้งใหญ่ อาจเกิดขึ้นโดยเร็ววัน กลิ่นยุบสภาฯ น่าจะมาก่อนสิ้นศักราช 2568
จับสัญญาณเลือกตั้งไว จะเกิดขึ้นต่อเมื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี เห็นท่าว่ากำลังเสียเปรียบหรือได้เปรียบในคราวเดียวกัน ทั้งจากการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการกุมทีเด็ดทีขาดเพื่อไม่ให้คู่แข่งตั้งตัวได้ทัน
ชื่อของ พรรคโอกาสใหม่ แม้จะเป็นชื่อพรรคการเมืองน้องใหม่ แต่ก็มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า จะมี สส.ในปีกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยเฉพาะนักเลือกตั้งเกรดเอ ย้ายเข้าสังกัด
แต่เมื่อตรวจสอบบรรดาซุ้มคนการเมืองในพรรคที่เคยมีดีเอ็นเอ “ลุงตู่" หลายก๊วนหลายซุ้มเลือกไปต่อกับพรรคการเมืองอื่น มีเพียง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ยืนยันขอปักหลักต่อกับก๊วนสส.ของตัวเองมีไม่ถึง 10 เสียงจะเดินหน้าทำพรรค รทสช.ต่อไป
ล่าสุด “ปลัดตุ๋ม” จตุพร บุรุษพัฒน์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในวัย 61 ปีหมาดๆ ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ ซึ่งไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาลอนุทิน
คอการเมืองจึงจับจ้องไปที่ พรรคน้องใหม่ อย่าง “โอกาสใหม่” จะสร้างโอกาสอันใหม่ให้กับการเมืองไทยได้หรือไม่
กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของโอกาสใหม่ ได้ฤกษ์วันที่ 12 เดือน 11 ประกาศทีมกรรมการบริหารพรรค จำนวน 27 คน ที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนใหญ่ เป็นอดีตข้าราชการและนักธุรกิจนักเทคโนแครต มี“จตุพร บุรุษพัฒน์” ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ มี ธงชัย ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นเลขาธิการพรรค ยึดมอตโต้ “โอกาสสำหรับคนไทยทุกคน”
โฉมหน้ากรรมการบริหารพรรคใหม่ มีทั้งสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตผวจ.ลพบุรี วีระชัย นาคมาศ อดีตผวจ.มุกดาหาร และจ.พระนครศรีอยุธยา อนุสรี ทับสุวรรณ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ ประยูร อินสกุล
“พรรคจะเป็นทางเลือกใหม่ที่เน้นการรวมตัวของคนทุกเจเนอเรชัน เพื่อผลักดันประเทศไทยให้กลับมามีศักยภาพบนเวทีโลกอีกครั้ง โดยยืนยันว่าการตั้งพรรคครั้งนี้เกิดจากความตั้งใจที่จะสร้าง พื้นที่แห่งโอกาส ให้คนไทยทุกกลุ่ม โดยใช้ประสบการณ์จากการทำงานภาครัฐที่เข้าใจระบบราชการอย่างลึกซึ้ง ผสานกับความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ที่มองโลกในมุมใหม่ เพื่อออกแบบนโยบายที่ทำได้จริง และเห็นผลจริง” หัวหน้าตุ๋ม ประกาศยุทธศาสตร์เบื้องต้นของพรรค
อย่างไรก็ตาม พรรคโอกาสใหม่ ยังจำเป็นที่จะต้องพึ่งพานักการเมืองเกรดเอ เพื่อให้ครบองค์ประกอบในการสร้างฐานเสียงการเมืองในเขตเลือกตั้ง
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่ากันว่า “เดชอิศม์ ขาวทอง” สส.สงขลา อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์และอดีต รมช.สาธาณสุข อาจยกก๊วน สส.ในสังกัดจากพรรคประชาธิปัตย์ เข้าทำพรรคการเมืองร่วมกับ “โอกาสใหม่” โดยมีเก้าอี้ใหญ่อย่าง “เลขาธิการพรรค” ให้ นายกชาย เพื่อมีส่วนร่วมในการกำหนดโอกาสการรอเป็นรัฐบาล
จับตา สส.ในสังกัดทีม “นายกชาย” มี สส.ในทีม 4 เสียงในปัจจุบัน ประกอบด้วย สุภาพร กำเนิดผล สส.สงขลา ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา ยูนัยดี วาบา สส.ปัตตานี หากการเข้ามาของกลุ่มเดชอิศม์ เป็นไปตามกระแสข่าวดังกล่าว ก็จะถือว่าเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองอีกขาหนึ่งของพรรคโอกาสใหม่
นอกจากนี้ยังมี กลุ่มของ “พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะมาเติมเต็มยุทธศาสตร์การทำพรรคโอกาสใหม่
ขณะที่ ผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของ “นิด้าโพล” เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมาเกี่ยวกับท่าทีของคนภาคเหนือ ร้อยละ 36.6 ยังมองไม่เห็นบุคคลที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รองลงมาเป็น ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตามลำดับ
ผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองครั้งที่ 3/2568 ในไตรมาส 3 ของนิด้าโพล เมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา บุคคลที่สนับสนุนให้เป็นนายกฯ อันดับ 1 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ร้อยละ 27.28 รองมาเป็น ณัฐพงษ์ อนุทิน สุดารัตน์ เป็นต้น
ขณะที่ พรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 33.08 พรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 21.64 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 13.96 พรรคเพื่อไทย อันดับ 4 ร้อยละ 13.24 พรรคภูมิใจไทย
ยอดกลุ่มคนที่ยังไม่ตัดสินใจจะเลือกใครเป็นนายกฯ และพรรคการเมืองในดวงใจนั้น ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่มีสูง ฉะนั้น จึงเป็นโอกาสใหม่ของ “พรรคโอกาสใหม่” ซึ่งจำเป็นต้องช่วงชิงคะแนนจากกลุ่มก้อนนี้มาเป็นของตัวเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “แคนดิเดตนายกฯ” ที่สามารถประกาศชื่อได้ไม่เกิน 3 รายชื่อ ชื่อของตัวแคนดิเดตนายกฯ จึงต้องเรียกคะแนนกระแสให้กับพรรคด้วย
ในช่วงใกล้เลือกตั้งใหญ่คงได้เห็นการขยับหมากทางการเมืองมากขึ้นของ “โอกาสใหม่” จะเติมเต็มต่อยอดและปั้นแบรนด์พรรคให้เป็นทางเลือกใหม่ที่ผสมทุกเจเนอเรชันโดยยึดโยงกับเทรนด์ใหม่ของโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
หรือจะวางไซส์ให้เป็นพรรคการเมืองขั้วที่สี่ เพื่อสร้างพลังต่อรองทางการเมืองหรือเป็นแกนนำหัวหอกตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ในสมรภูมิเลือกตั้งอันใกล้นี้







