จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’ ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’  ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

ข่าวตำรวจบุกจับ “นิสิต สินธุไพร” อดีตแกนนำ นปช. บิดา 2 สส. “จิราพร-ชญาภา” ถูกจับตาเป็นการตัดกำลังบ้านใหญ่ “สินธุไพร” ก่อนนับถอยเลือกตั้งใหญ่ ปี2569

KEY

POINTS

  • "นิสิต สินธุไพร" บิดาของ 2 สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย "จิราพร-ชญาภา" ถูกจับกุมตามหมายจับค้างเก่าในคดีล้มประชุมอาเซียนเมื่อปี 2552
  • การจับกุม "นิสิต" ถูกมองว่าเป็นการตัดกำลังทางการเมืองของตระกูลบ้านใหญ่ "สินธุไพร" เนื่องจาก "นิสิต" เป็นคีย์แมนคนสำคัญในการวางยุทธศาสตร์การเลือกตั้งให้ลูกสาว
  • สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนว่าสนามเลือกตั้ง จ.ร้อยเอ็ด ในครั้งหน้าจะรุนแรงหนักหน่วงขึ้น พรรคเพื่อไทย จะถูกพรรคคู่แข่งทั้ง "กล้าธรรม-ภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ" รุมชิงพื้นที่ สส.

ในจังหวะที่พรรคเพื่อไทย กำลังจัดทัพเตรียมเปิดตัวผู้สมัคร สส.ทั่วประเทศ 400 เขต ในทุกสัปดาห์ทุกวันศุกร์ จู่ๆ ก็มีข่าวตำรวจกองปราบจู่โจมจับกุมตัว “นิสิต สินธุไพร” บิดาของ 2 สส.ร้อยเอ็ด “จิราพร สินธุไพร” อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ “ชญาภา สินธุไพร” 

ตามรายงานข่าว การจับกุมตัว อดีต สส.ร้อยเอ็ด “นิสิต” ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 618/2562 ลงวันที่ 1 พ.ย. 2562 ข้อหา “ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ทำให้เสียทรัพย์ และบุกรุก" โดยหลบหนีหมายจับศาลพัทยาตั้งแต่ปี 2562 ด้วยเหตุเจ้าตัวไม่ไปฟังคำพิพากษา จำคุก 4 ปี คดีก่อม็อบบุกโรงแรมรอยัลคลิฟ ล้มประชุมอาเซียนเมื่อปี 2552 ล่าสุดตำรวจคุมตัวส่งศาลดำเนินคดีตามขั้นตอน

ว่ากันว่า “พ่อใหญ่นิสิต” เดินทางไปมาระหว่าง จ.ร้อยเอ็ด และประเทศเพื่อนบ้าน บ้านพี่เมืองน้องกับไทยมาอยู่เสมอ แต่เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนขั้วเป็น “พรรคภูมิใจไทย” ขึ้นสู่อำนาจขัดตาทัพ ระหว่างรอจังหวะกุมความได้เปรียบเพื่อยุบสภานั้น “นิสิต” ไม่ทันระวังตัว แม้จะถูกเตือนให้ระวังว่า คนในอำนาจรัฐ เตรียมชิงจู่โจมจับตัว

ข่าวการบุกจับ“นิสิต” จึงกลายเรื่องร้อนสะท้านค่ายแดง สะเทือนอ.พนมไพร บ้านเกิดสินธุไพร เป็นอย่างยิ่ง

เพราะคอการเมือง จ.ร้อยเอ็ด รับรู้ว่า “นิสิต” อดีตแกนนำเสื้อแดงร้อยเอ็ด คือ คีย์แมนหลักให้กับ สส.น้ำ และ สส.เบียร์ ลูกสาวทั้งสองเป็นมันสมอง เป็นนักยุทธศาสตร์จัดทัพ วางหัวคะแนน เพื่อให้ลูกสาวได้กลับเข้าสู่สภาฯ อีกครั้ง

ภาพบุกจับตัว “นิสิต” สะท้อนสถานการณ์การเมืองอันร้อนระอุได้อย่างดี การเมืองระดับใหญ่ใน จ.ร้อยเอ็ด สำหรับพรรคเพื่อไทยจะไม่ง่ายเหมือนการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 

จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’  ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’  ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’  ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

ด้วยกระแสเพื่อไทยที่ไม่เหมือนเดิม นโยบายเรือธงหลายเรื่องไม่สามารถผลักดันให้สำเร็จได้ ชาวบ้านยังทวงถามเงินหมื่น และนโยบายเอสเอ็มแอลที่ผิดหวังว่าจะได้เงินมาต่อยอดเพื่อลืมตาอ้าปากได้ นั่นจึงทำให้การเปิดตัว สส.ร้อยเอ็ด ของค่ายแดง ทั้ง 8 เขต จึงยังรอจังหวะอยู่

หากดูผลเลือกตั้ง สส.ร้อยเอ็ด ปี 2566 ทั้งหมด 8 เขต พรรคเพื่อไทยครองแชมป์อันดับ 1 ได้ 300,126 คะแนน ได้ สส. 5 เขต พรรคก้าวไกล 128,031 คะแนน ไม่ได้ สส.แม้แต่คนเดียว รองมา พรรคพลังประชารัฐ ได้ 102,210 ได้ สส. 1 เขต คือ รัชนี พลซื่อ พรรคไทยสร้างไทย 77,599 คะแนน ได้ 1 สส.คือ คือ ชัชวาล แพทยาไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา 41,736 คือ อนุรักษ์ จุรีมาศ

ขณะที่ผลเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ จ.ร้อยเอ็ด กระแสเมื่อปี 2566 ยังเป็นของพรรคเพื่อไทย ได้ 366,956 คะแนน พรรคก้าวไกล 215,728 คะแนน พรรครวมไทยสร้างชาติ 24,011 คะแนน พรรคชาติไทยพัฒนา 41,736 คะแนน ขณะที่พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถเบียดกำแพงสีแดงเข้าป้ายคว้า สส.ได้แม้แต่เขตเดียว

อย่างไรก็ตาม สมรภูมิการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2569 เซียนการเมือง "คนร้อยเอ็ดดินแดนหอโหวด 101" จึงวิเคราะห์ พร้อมฟันธงดังฉับ ว่า จะได้เห็นภาพการช่วงชิง สส.อย่างหนักหน่วง ระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคกล้าธรรม พรรคภูมิใจไทย และมีพรรคพลังประชารัฐ สอดแทรก

เริ่มที่ เขต 1 อ.เมืองร้อยเอ็ด พรรคชาติไทยพัฒนา แชมป์เก่า "อนุรักษ์ จุรีมาศ" คาดว่าจะต้องป้องกันแชมป์ โดยต้องสู้กับคู่แข่งคนเดิม คือ "สถาพร ว่องสัธนพงษ์" ซึ่งปี 2566 ลงสมัคร สส.ในสังกัดเพื่อไทย ได้ที่ 2 ตุนแต้มไว้ 32,318 คะแนน

เขตเมืองน่าจะสู้กันหนักอีกครั้ง ระหว่าง อนุรักษ์ และ ท็อป สถาพร เพราะในระหว่างการเปิดตัวแคมเปญ ยกเครื่องเพื่อไทย เมื่อ 7 ต.ค.2568 ไร้ชื่อ “ท็อป สถาพร” ว่ากันว่า สถาพร กำลังชั่งน้ำหนักว่า จะลงในนามพรรคเพื่อไทยต่อหรือไม่ 

ด้วยบริบทเขต 1 แม้เป็นเขตเมือง แต่คนยังเป็นชนบท ศึกเขตนี้จึงเดิมพันด้วยพลังกระสุนล้วนๆ ไม่ใช่พลังกระแส ทำให้เกรงว่า กระแสไม่สู้ดีของค่ายแดง อาจทำให้สถาพร พลาดสอบตกอีกครั้ง

ขณะที่พรรคกล้าธรรม ที่มี"บ้านใหญ่พลซื่อ"กำลังเดินเกมทาบทามด้วยอาวุธ เพื่อดึงตัว “สถาพร” ลงสู้ศึกในนามพรรคผู้กอง เขต 1 เพื่อไทยจึงยากที่คว้าชัยเขตนี้ได้

เขต 2 อ.จังหาร อ.เชียงขวัญ อ.โพธิ์ชัย อ.โพนทอง (เฉพาะ ต.คำนาดี ต.นาอุดม และ ต.อุ่มเม่า) และ อ.ธวัชบุรี ( ต. ธวัชบุรี ต.หนองพอก และ ต.มะอึ) พรรคเพื่อไทย แชมป์เก่า คือ “ฉลาด ขามช่วง” รองประธานสภาฯ เขตนี้ก็หนักไม่น้อยสำหรับค่ายแดง ซึ่งต้องสู้กับกระแสพรรคสีส้ม และยังต้องสู้กับลูกชายบ้านใหญ่พลซื่อ “เอกรัฐ พลซื่อ” ที่ครั้งก่อนทำให้ “ฉลาด” ชนะไม่เด็ดขาด โดย “เอกรัฐ” จะลงสู้ในนามพรรคกล้าธรรม

เขต 3 อ.หนองพอก อ.เมยวดี และ อ.โพนทอง (ยกเว้นต.คำนาดี ต.นาอุดม ต.อุ่มเม่า ต.โคกสูง และต.โพธิ์ศรีสว่าง) เขตนี้แข็งมาก สำหรับ พรรคกล้าธรรม” เมื่อปี 2566 สังกัดพลังประชารัฐ รอบนี้ “รัชนี พลซื่อ” จะต้องสู้กับ ตัวแทน “นิรมิต สุจารี” คือ "แทนรัฐ สุจารี"

เขต 4 เดิมทีเป็นของพรรคเพื่อไทย “นรากร นาเมืองรักษ์” โดยทิ้งพรรคเพื่อไทย ไปสวามิภักดิ์กับพรรคภูมิใจไทย ทำให้พรรคเพื่อไทยไปดึงตัว “ศุภศิษย์ กอเจริญยศ” อดีตผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี เพื่อนของ เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายก อบจ.ร้อยเอ็ด จึงต้องจับตาอดีตผู้ว่าฯ จะสามารถเดินสายยกมือไหว้ชาวบ้าน จนเข้าตาได้หรือไม่

เขต 5 อ.พนมไพร อ.อาจสามารถ (ยกเว้นต.โหรา ต.หนองบัว ต.บ้านดู่ ต.ขี้เหล็ก) อ.ทุ่งเขาหลวง (เฉพาะ ต.เทอดไทย ต.เหล่า) อ.ธวัชบุรี (ต.อุ่มเม้า ต.นิเวศน์ ต.หนองไผ่) อ.หนองฮี (ต.หนองฮี) เขตนี้ “จิราพร สินธุไพร" ชนะรอบก่อน ด้วยเสียงถล่มทลาย 61,288 คะแนนจากกระแสดิจิทัลเงินหมื่น คนร้อยเอ็ดอยากได้นายกฯ ชินวัตร คาดว่า “น้ำ จิราพร” จะนอนมาอีกครั้ง เพราะเขตนี้ไม่มีผู้สมัครสายแข็งลงต่อกร แต่ก็กระทบต่อ “สส.น้ำ”ไม่น้อย 

ว่ากันว่า ข่าวการจับกุม “นิสิต” เป็นผลจากการอภิปรายของ สส.น้ำกลางสภาฯ โดยถล่มตรงไปที่ “เขากระโดง” กล่องดวงใจค่ายครูใหญ่ เมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’  ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’  ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

เขต 6 อ.สุวรรณภูมิ อ.โพนทราย อ.หนองฮี (ยกเว้น ต.หนองฮี) เดิมทีเป็นของ"กิตติ สมทรัพย์" ที่โบกมือทิ้งพรรคเพื่อไทย ไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย รอบนี้จะลงสู้กับ “ทองลี มีหินกอง”อดีตกำนัน ต.ทุ่งศรีเมือง คาดว่าจะสู้กันที่ตัวบุคคล และกระแสของพรรคเพื่อไทย

เขต 7 อ.ปทุมรัตต์ อ.เกษตรวิสัย อ.เมืองสรวง (ยกเว้น ต.หนองผือ ต.เมืองสรวง) แชมป์เก่า "ชัชวาล แพทยาไทย" จากพรรคไทยสร้างไทย เอาชนะ สส.หลายสมัย “ศักดา คงเพชร” ซึ่งก่อนหน้าเปิดตัวกับค่ายลุงบ้านป่าฯ พรรคพลังประชารัฐ  ล่าสุด "ศักดา" โผล่เปิดตัวลงพรรคภูมิใจไทย

เขตนี้คงสู้กันระหว่าง “ชัชวาล-ศักดา” และมีตัวสอดแทรกหน้าใหม่เพื่อไทย คือ "นวรัตน์ พาโคกทม" มีประสบการณ์เป็น สจ.ปทุมรัตน์

เขต 7 คงสู้กันหนักระหว่าง คน 3 ค่าย โดย “ชัชวาล” อาจต้องเลือกว่าจะสู้ต่อให้กับพรรคของคุณหญิงหน่อยหรือไม่

จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’  ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

เขต 8 อ.ศรีสมเด็จ อ.จตุรพักตรพิมาน อ.เมืองสรวง (เฉพาะ ต.หนองผือ ต.เมืองสรวง) อ.อาจสามารถ (เฉพาะ ต.โหรา ต.หนองบัว ต.บ้านดู่ และต.ขี้เหล็ก) และ อ.ธวัชบุรี (ต.เมืองน้อย ต.เขวาทุ่ง และต.ราชธานี) เขตนี้รอบที่แล้ว “ชญาภา สินธุไพร”เอาชนะได้ด้วยพลังเพื่อไทยฟีเวอร์ แต่ศึกเลือกตั้ง 2569 คงไม่ใช่งานง่ายอีกแล้ว

เขตของ สส.เบียร์ รอบนี้เจอศึกหนัก ผลสะเทือนไม่น้อยจากการตัดกำลังตระกูล “สินธุไพร” ด้วยการที่ “พ่อนิสิต” เคยเป็นอดีต สส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน หลบหนีคำพิพากษาของศาล จนกระทั่งถูกจับกุมตัว จึงทำให้ขาดคีย์แมนตัวจริง ไม่สามารถบัญชาการเกมเลือกตั้งได้โดยง่าย พลังเขต 8ค่ายแดงไม่ง่ายเหมือนปี66  อาจทำให้พรรคขั้วตรงข้าม ทั้งน้ำเงิน และผู้กอง มองโอกาสนี้ได้

จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’  ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

จับ‘นิสิต’ ตัดกำลัง‘สินธุไพร’  ศึกรุมกินโต๊ะ ‘แดงร้อยเอ็ด’

ศึกเลือกตั้ง จ.ร้อยเอ็ด เมืองที่เรียกว่าประชาธิปไตย จังหวัดที่เป็นของพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย มาถึง พ.ศ.นี้ การเลือกตั้งใหญ่ปี 2569 คงจะเจอด่านหินกว่าทุกครั้ง 

แน่นอนว่า “ค่ายแดง” จะถูกรุมกินโต๊ะอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยมี"ภูมิใจไทย-กล้าธรรม-พลังประชารัฐ" ขอส่วนแบ่งแต้ม สส.