'สุรเชชษฐ์' ให้ข้อมูล กมธ.มั่นคง แฉเส้นเงิน เอี่่ยว บิ๊ก ตร.-สส.

'สุรเชชษฐ์' ให้ข้อมูล กมธ.มั่นคง แฉเส้นเงิน เอี่่ยว บิ๊ก ตร.-สส.

"บิ๊กโจ๊ก" ให้ข้อมูลกมธ.มั่นคง พร้อมแจงรายละเอียด 3 ชม. เผยเส้นเงิน เอี่ยว บิ๊กตร. โอนให้คนใกล้ชิดร้อยครั้ง มีโยง สส.อักษรย่อ "ช."

ที่รัฐสภา พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการาตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าข้อมูล พร้อมรายละเอียดเป็นรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ต่อนายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า ตนเข้าให้ข้อมูลพร้อมเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องเส้นเงิน การรับผลประโยชน์จากเว็บพนันของตำรวจ เพิ่มเติม ประมาณ กว่า 30 คน จากที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่พิทักษ์และคุ้มครองระบบคุณธรรมของข้าราชการตำรวจ (กพค.ตร. )เคยชี้มูลไปแล้ว ต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร.รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ ไปแล้ว

"บิ๊กโจ๊ก" กล่าวต่อว่า เอกสารชิ้นนี้ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมาตนถูก พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมคมตำรวจ ตำหนิว่าเหตุใดมีข้อมูลเเล้วจึงไม่นำมาให้ ดังนั้นตนขอฝากไปยังพล.ต.อ.วินัยว่าข้อมูลเรื่องนี้ตนเคยมีหนังสือไปถึง พล.ต.อ.กิตติรัตน์ พันธ์เพชร ผบ.ตร. ตั้งเเต่วันที่ 20 ส.ค.  2567 แล้ว ซึ่งปัจจุบันผ่านมาเป็นปี แต่พล.ต.อ.กิตติรัตน์ ยังนิ่งเฉย แม้จะอ้างว่ามีการตั้งคณะกรรมการแล้วก็ตาม 

พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนยังได้นำเอกสารเส้นเงินเว็บพนัน ที่จ่ายไปยังชุด PTC เป็นชุดทำงานที่ถูกเเต่งตั้งมาเพื่อปราบปรามเว็บพนัน ซึ่งพล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ อยู่ในชุดทำงานนี้ด้วย ซึ่งจะไปเกี่ยวพันกับ "สส. อักษรย่อ ช.ช้าง" เพราะเป็นเส้นเงินที่เชื่อมโยงกัน ทั้งนี้วันนี้ ผมไม่ใช่ตำรวจ แต่เป็นประชาชนที่จ่ายภาษี จึงมีสิทธิ์ยื่นต่อ กมธ.ฯ ให้ตรวจสอบ หากผลเป็นจริงตามที่ตนร้อง นั่นหมายความว่า ท่านมีหน้าที่ปราบปราม แต่กลับรับเงินเสียเอง

“ขณะเดียวกันนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็ได้เปิดเผยข้อมูลนี้เช่นกัน แต่รายละเอียดในเรื่องเงินต่างๆ มีการโอนเงินไปยังข้าราชการตำรวจบางคน 100 กว่าครั้ง และในนั้นยังมีการโอนเงินไปให้ภรรยาบิ๊ก ต.เต่า พี่ชายบิ๊ก ต.เต่า. พี่สาวบิ๊ก ต.เต่า  นายเวรบิ๊ก ต.เต่า แสดงให้เห็นว่า"บิ๊ก ต.เต่า" เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายทุกเรื่อง” พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ตำหนิ พล.ต.อ.เอกสุรเชชษฐ์ กรณีคำพูดว่าตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มองว่าพูดดังกล่าวรุนเเรงเกินไป พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า ตอนนี้สังคมมองว่าตำรวจไม่ได้ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ เว็บพนัน ซึ่งการที่ตนพูดถึงว่าตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรม ไม่ได้เหมารวมถึงตำรวจทั้งเเผ่นดิน แต่พูดถึงตำรวจบางกลุ่ม โดยเฉพาะตำรวจไซเบอร์ ที่มีหน้าที่ปราบปรามเว็บพนัน แต่สุดท้าย ตำรวจบางรายรับเงิน มีผลประโยชน์จากเว็ปพนัน ซึ่งตำรวจเพียงหยิบมือเดียวทำให้ตำรวจกว่า 2 แสนคน ต้องเสียหายสิ่งที่ ผบ. ตร.ควรทำ คือรีบแก้ไขและจัดการปัญหาดังกล่าว ไม่ใช่มาพูดโต้แย้ง 

“ก่อนหน้านี้ในเรื่องของเส้นเงินจากเว็บพนันไม่มีมาแตะผมเเม้เเต่เส้นเดียว ผมถูกให้ออกจากราชการ แต่ตำรวจบิ๊ก ต.เต่า. มีเส้นเงินโอนเข้าคนใกล้ชิดร้อยกว่าครั้ง กลับไม่ถูกดำเนินการใดๆ ผมจึงมองว่า ผบ.ตร.เลือกปฏิบัติ” พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.กิตติรัตน์ ระบุถึงวลี คนบ้านปทุมวัน ไม่ควรทำร้ายบ้านตัวเอง คิดว่าหมายถึงใคร  พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ กล่าวยอมรับว่าหมายถึงตนเเน่นอน เพราะตนเป็นคนบ้านปทุมวัน

"ท่านจะเกลียดผมไม่เป็นไร หากรักองค์กรจริง ท่านจะต้องปกป้อง รักษาองค์กร ช่วยกันปราบปรามผู้ที่ทำให้องค์กรเสื่อมเสีย"  พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ กล่าว