‘อนุทิน’ ท้าเปิดชื่อ คนในรัฐบาล เอี่ยว ‘สแกมเมอร์’ อย่าไปผิดซอย ยื่น กมธ.

“อนุทิน” เผย “ปราบสแกมเมอร์” ทำทุกอย่างแล้ว ชี้ ว่าตามการข่าว แกะรอยนักการเมือง ท้าเปิดชื่อคนในรัฐบาลเอี่ยว อย่าไปผิดซอยยื่น กมธ. ข้องใจ เกี่ยวอะไร โรม จี้ปลด “ธรรมนัส”
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปราบสแกมเมอร์ ว่า ดำเนินการตลอดเวลาอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูง สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการได้ตลอดเวลา ดังนั้นหน่วยงานที่ไปปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเขาทำสำเร็จเขาไม่สามารถออกมาบอกว่าทำเมื่อไหร่ ทำกับใครที่ไหน เพราะเรื่องเหล่านี้เราต้องใช้งานด้านการข่าวในการปราบปรามการสำรวจเส้นทางการเงิน และการใช้เทคโนโลยีในการดักการกระทำผิดทั้งหลาย แต่เมื่อถึงเวลาก็จะสรุปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาให้ทราบว่าปฏิบัติอะไรไปบ้าง
ซึ่งวันนี้ตนได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าที่บอกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยมันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งมีการยึดทรัพย์สินก็เป็นหลักหลายหมื่นล้านบาท การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด กับคนต่างชาติ เช่น การเพิกถอนถิ่นพำนัก การเพิกถอนวีซ่า การเพิกถอนสัญชาติ เราก็ทำไปหมดทุกอย่างแล้ว วันนี้เพื่อทำให้ประชาชนมั่นใจเราก็มาทำเอ็มโอยูกันอีกครั้งให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยนำหน่วยงานที่สนับสนุนมาเป็นส่วนหนึ่งของ MOU
เมื่อถามว่ากรณีที่ฝ่ายค้านบอกว่ามีนักการเมือง 7 คนไปเกี่ยวกับสแกมเมอร์ และมีนักการเมือง ช. เป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราทำตามการข่าวทำตามพฤติกรรมหน้าที่ ที่เรามีอยู่ ทั้งการหาข่าวเอง มีคนมาแจ้งความ และสิ่งที่เราประสานงานกับนานาชาติ และไปทำการป้องกันปราบปราม เราไม่ได้ทำตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง เพราะเรามีหลักการทำงานของเราอยู่แล้ว อย่างที่เห็นได้ชัดจากการสรุปงานที่เราทำมา การปราบอาชญากรรมทางสแกมเมอร์ประสิทธิภาพของงานจะเทียบกับการดำเนินคดีมีการยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงการเนรเทศผู้กระทำผิดออกจากประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีกระทรวงการคลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ MOU แล้ว โดยผู้การธนาคารแห่งประเทศไทย ก็แจ้งเข้ามาชัดเจนว่าจำนวนบัญชีม้าที่ปิดไปในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาลดลงไป 25% ก็ชัดเจนว่างานที่เราทำอยู่ก่อให้เกิดประสิทธิผล
เมื่อถามว่า ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้มีการออกมาเปิดเผยว่ามีบิ๊กตำรวจหลายท่านรับเงินสแกมเมอร์ จะตรวจสอบอย่างไร นายอนุทิน ย้อนถามว่า “มีใครใหญ่กว่า บิ๊กต่าย ไหม ณ วันนี้ ถ้าไม่มีผมก็ไม่กังวลอะไรเพราะ ผมก็คุยกับ บิ๊กต่าย”
เมื่อถามย้ำว่า ระหว่างที่ ผบ.ตร. พูดบนเวที ว่าคนที่ออกมาแฉ ไม่ใช่คนที่อยู่ในองค์กรตำรวจ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปลงรายละเอียด พร้อมกับผายมือไปทางผู้ร่วมแถลงข่าวก่อนพูดว่า “ตรงนี้มี บิ๊กแพร บิ๊กบอย บิ๊กต่าย บิ๊กป็อบ ผมคิดว่าถ้าได้รับการสนับสนุนไฟเขียวแรงยุจาก สมอลหนู ให้ท่านทำงานเพื่อประชาชน วันนี้คนเป็นผบ.ตร.เป็นอธิบดี ดีเอสไอ เลขาฯ ปปง. รมว.ยุติธรรม รมว.ดีอี ปลัดมหาดไทย เป็นนายกฯ ถ้ายังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนว่าสแกมเมอร์ทำร้ายประเทศไทยทำร้ายประชาชนขนาดไหน เรามาไม่ถึงตรงนี้ ต้องมีอะไรมาบล็อกไม่ให้เราเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เพราะฉะนั้นถือเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ผมก็ได้แจ้งไปยังทุกหน่วยงานว่าอะไรที่เราต้องการจากรัฐบาลในการปราบปรามสแกมเมอร์ขอให้เอ่ยมาเท่านั้น ผมมีหน้าที่บันดาลทุกอย่างเพื่อให้หน่วยงานที่ท่านกำกับดูแลไปดำเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างเฉียบขาดเด็ดขาดไม่มีหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งสิ้น สัปดาห์ที่แล้วผมได้ถอนสัญชาติไปมีใครกล้าทำหรือไม่ ใหญ่มั้ย ทำไมถึงเคลียร์ผมไม่ได้แล้วมีใครไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่ก็ไม่มี มีคนวิพากษ์วิจารณ์แต่เรามีแนวทางที่จะทำอย่างไร
เมื่อถามว่า การที่มีคนออกมาแฉรายวันจะสร้างความเชื่อมั่นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เรามองโลกในแง่ดี คนเหล่านั้นที่ออกมาแฉรายงานก็เป็นช่องทางข่าวช่องหนึ่งก็ดีเหมือนกันทำให้เรากระตือรือร้นตลอดเวลาถือเป็นบุญคุณก็ต้องขอบคุณ
เมื่อถามอีกว่า ยังมีคนกล่าวหาว่าคนในรัฐบาลเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ต่อเนื่อง นายอนุทิน กล่าวว่า "ไหนละครับเอ่ยชื่อมาสิครับ"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า วันนี้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ก็นำข้อมูลของ ชื่อย่อ ช. ไปให้ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาฯ นายอนุทิน กล่าวว่า คนที่พูดออกมาขอให้เอ่ยชื่อเลย ไหนๆ จะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติแล้ว ผบ.ตร.รับรองความปลอดภัยให้ รวมถึงตนจะไปขอ ผบ.ทบ.ให้ด้วย พอพูดชื่อย่อออกมามันไม่พอ ขอชื่อจริง นามสกุลจริง มาบอกตนหรือบอกใครก็ได้ที่เกี่ยวข้อง เรามีหน้าที่รักษาความลับ และรักษาความปลอดภัยให้ท่านอยู่แล้ว เราต้องดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้อง และปกป้องคนที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่หน่วยงานราชการ ใครที่มีหลักฐานขอให้เอ่ยชื่อดังๆ แล้วเราจะไปดำเนินการ ผิดว่าไปตามผิดไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่คนเดียว
เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่าทำไมผู้ที่ให้ข้อมูลถึงนำข้อมูลไปให้คณะกรรมาธิการ ไม่เอามาให้ที่รัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า เอามามอบให้ผบ.ตร. มามอบให้ ปปง. ดีเอสไอ รมว.ยุติธรรม อย่าไปผิดซอย
เมื่อถามย้ำว่าแล้วทำไมเขาถึงเอาข้อมูลไปให้กรรมาธิการ นายอนุทิน กล่าวว่า สื่อก็ไปถามคนที่ให้ข้อมูลซิ อย่ามาถามตน ถามอย่างนี้เพื่อประโยชน์อะไร ที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็รับเรื่องให้ตนได้ อย่าไปยื่นประธาน กมธ.เพราะต้องไปสอบสวนไต่สวนเสียเวลา
เมื่อถามว่า นายรังสิมันต์ ออกมาบอกว่าก่อนการปราบสแกมเมอร์ ต้องสร้างความเชื่อมั่นด้วยการปราบรัฐมนตรีสีเทาทั้งหลาย นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ทำเป็นเอกสารแล้วมายื่นที่ตน หรือแจ้งความได้เลยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น แจ้งความแล้วเอ่ยชื่อ พฤติกรรม หลักฐาน จริงๆ ไม่ต้องแจ้งความถึง ผบ.ตร. แต่ไปโรงพักไหนก็ได้
เมื่อถามย้ำว่า นายรังสิมันต์ โรม คาดหวังให้นายกฯ ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ออกจากตําแหน่ง นายกฯ กล่าวว่า แล้วมันเกี่ยวอะไร เพราะนี่คือ เรื่องการปราบปรามการฟอกเงิน มันคนละเรื่องกัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







