'โรม' เชื่อยุค 'อนุทิน' แก้ 'ตร.เทา' ไม่ได้ - ซัด ผบ.ตร.ไม่มาแจง กมธ.

'โรม' ซัด ผบ.ตร.หนีปัญหา ไม่มาแจง กมธ.มั่นคง ชี้ระบบภายในมีปัญหา เอื้อ 'ตำรวจเทา' ขึ้นสู่อำนาจ เชื่อแก้ไขไม่ได้ในยุค 'อนุทิน' ปลุกเลือกตั้งรอบหน้าลุย 'ปฏิรูปตำรวจ'
KEY
POINTS
- รังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาน ไม่เชื่อว่าการปฏิรูปตำรวจและแก้ปัญหาตำรวจสีเทาจะเกิดขึ้นได้ในยุครัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล
- เขาวิจารณ์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ไม่เดินทางมาชี้แจงข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมาธิการฯ โดยมองว่าเป็นการหนีปัญหาและทำลายองค์กรตำรวจ
- รังสิมันต์ ชี้ว่า ระบบตำรวจปัจจุบันมีปัญหาที่เอื้อให้ตำรวจที่ไม่ดีขึ้นสู่อำนาจ และมีนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาอาจพัวพันกับกลุ่มทุนสีเทาและเรื่องผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ที่มายื่นหนังสือต่อ กมธ.ฯ ว่า วันนี้มีการประชุม 2 วาระ วาระในช่วงเช้า กรณีการกลั่นแกล้ง โดย ผบ.ตร. ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งในองค์กรตำรวจยังถูกข้อกล่าวหา จึงต้องมีการสอบข้อเท็จจริง ส่วนวาระในช่วงบ่ายมีเรื่องการแต่งตั้งตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริต และมีคดีอยู่ในชั้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งมีคดีเกี่ยวกับกลุ่มทุนสีเทา และอาจโยงไปถึงนายกรัฐมนตรี
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้จะเป็นเรื่องการปฏิรูปตำรวจเป็นหลัก จะเห็นข้อเท็จจริงหลายมิติ ทั้งเรื่องทุนสีเทา เรื่องความไม่เป็นธรรมในระบบองค์กรตำรวจ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่ได้เดินทางมาแต่ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. มาชี้แจงแทน แต่ พล.ต.อ.กรไชย ก็ไม่ว่างมาชี้แจงอีก โดยหากตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้มาชี้แจงในเรื่องนี้ จะให้มองในเรื่องนี้อย่างไร แล้วจะให้ประชาชนตั้งคำถามกับองค์กรตำรวจอย่างไร
“ถ้าไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า ชี้แจงกับข้อกล่าวหาแล้วชี้แจง ให้สงสัย คิดว่าองค์กรตำรวจจะยิ่งเสียหายมากขึ้น พี่น้องตำรวจทั่วประเทศมี 200,000 คน อยากให้ตั้งคำถามถึงผู้บังคับบัญชาว่า วันนี้คนที่ทำให้องค์กรตำรวจเสียหายคือใคร ไม่ใช่ฝ่ายการเมือง เราไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เพราะเราใช้กลไกตามสภาและดึงทุกฝ่าย ผู้ที่ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหามาชี้แจง หากไม่ใช่โอกาสที่สร้างความกระจ่าง ก็เท่ากับว่าหนีปัญหา หนีความจริง ที่ตั้งคำถามว่า องค์กรตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไม่ถูกต้องผิดกฏหมาย และสุดท้ายการที่ใครจะเป็นยังไง จึงตั้งคำถามว่าบิ๊กต่ายหนีปัญหาใช่หรือไม่กับเรื่องนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าองค์กรตำรวจ เป็นแก๊งอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นความเห็นของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ว่า บิ๊กโจ๊กเป็นตำรวจเก่า และรู้ว่าตำรวจเป็นอย่างไรมากกว่าตน แต่ก็ไม่ได้เชื่อใจได้ 100% ซึ่งต้องฟังทุกฝ่ายและนำข้อมูลมาตรวจสอบ แต่ด้านหนึ่งก็เชื่อว่ามีตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาหลายคน ที่อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไม่ถูกต้องเรื่องผิดกฎหมาย แต่ก็เชื่อว่าตำรวจดีๆ ยังมีอยู่ ตำรวจน้ำดีหลายคน ยกตัวอย่างคนที่สามารถพูดได้เต็มปาก พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ นี่คือตำรวจน้ำดี
"แต่ผมว่าขณะนี้ระบบมีปัญหาที่เอื้อให้กับตำรวจไม่ดีขึ้น สู่อำนาจและต้องแก้ไข ในการปฏิรูประบบตำรวจ ซึ่งได้นำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว แต่ก็ไม่เชื่อว่าจะเกิดการแก้ไข ในรัฐบาลยุคของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หวังว่าการเลือกตั้งรอบหน้า วาระที่จะทำให้องค์กรตำรวจดีขึ้นเป็นวาระที่สำคัญ ทำให้องค์กรตำรวจเป็นองค์กรที่ทำงาน ทำแล้วทำดีก็ได้ดี คือสิ่งที่ต้องการเห็น" นายรังสิมันต์ กล่าว







