'วิโรจน์' ยัน ปชน.ไร้นโยบายฮุบเงินผู้ช่วย สส. เป็นความผิดส่วนตัว

่'วิโรจน์' เผยปมผู้ช่วย สส.แฉ ถูกฮุบเงินเดือน ส่งไปจ่ายค่าสมัครสมาชิกพรรค เป็นความผิดส่วนบุคคล ยัน ปชน.ไม่มีนโยบายแบบนี้ ชี้ถ้าจำเป็นลงโทษตามสัดส่วน
KEY
POINTS
- วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ยืนยันว่าพรรคประชาชน (ปชน.) ไม่มีนโยบายให้นำเงินของผู้ช่วย สส. มาใช้ในการสมัครสมาชิกพรรค
- ชี้แจงว่ากรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นความบกพร่องหรือความผิดพลาดส่วนบุคคล ไม่ใช่นโยบายของพรรค
- พรรคพร้อมรับเรื่องมาแก้ไขและจะดำเนินการพิจารณาเป็นรายกรณีไป หากมีความจำเป็นต้องลงโทษก็จะดำเนินการ
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีการสมัครสมาชิกพรรคที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า นำเงินผู้ช่วย สส. มาสมัครสมาชิกพรรคว่า เรื่องนี้ เลขาธิการพรรคประชาชนได้ชี้แจงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการสมัครสมาชิกแบบในกรณีดังกล่าว พรรคไม่มีนโยบายเช่นนั้น นอกจากนี้ยังมี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ยืนยันเช่นเดียวกัน คิดว่า หากมีปัญหาก็ว่า เป็นรายกรณีไป
เมื่อถามว่า มีการนำจดหมายของผู้ช่วย สส. มาเปิดเผยจะทำให้พรรคเสียหายหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ความเสียหายก็คงจะมี แต่คิดว่า เป็นความเสียหายที่สามารถชี้แจงได้ ไม่ใช่เป็นความบกพร่องเชิงนโยบาย
“ผมก็เรียนตรง ๆ ทุกครั้ง แบบซื่อ ๆ ว่า สมาชิกเราก็เยอะ บุคคลที่เข้ามาร่วมกับเรามาก ยืนยันว่า นโยบายเราไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถ้าเป็นความบกพร่องส่วนบุคคล ไม่ได้หมายความว่า พรรคจะปฏิเสธ พรรคก็ต้องรับไว้แก้ไข ถ้ามีความจำเป็นต้องลงโทษตามสัดส่วน ผมว่าก็ต้องดำเนินการกันไป“ นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า แต่ในจดหมายผู้ช่วย สส. เขียนระบายถึงพรรค และกล่าวถึงเรื่องเงินด้วย นายวิโรจน์ กล่าวว่า เข้าใจว่า การทำงานในทีมจังหวัดก็มีข้อตกลงกัน อย่างใครจะบริจาคให้ใคร ใครเสียสละเงินทอง ทำงานร่วมกันอย่างไร คิดว่า ก็เป็นข้อตกลงภายในจังหวัด และในเวลาต่อมาอาจจะมีความไม่พอใจ หรือปัญหาเกิดขึ้นได้ ยืนยันว่า ไม่ได้ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีความพึงพอใจเกิดขึ้นเลย แต่เมื่อเกิดขึ้นก็ต้องบริหารอย่างตรงไปตรงมา ตามนโยบายพรรคไม่เคยมีการสั่งการที่ไม่สุจริตว่า ให้ไปเกณฑ์คนมาสมัครเป็นสมาชิก หรือไปหลอกเขามาสมัครสมาชิก คิดว่า ไม่มีจริง
เมื่อถามว่า มีหนอนบ่อนไส้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตามความตระหนักของแต่ละคน ก็รู้อยู่แล้วว่า การพูดคุยในพื้นที่ของพรรค มีการพูดคุยด้วยความสุจริตอยู่แล้ว และต้องระมัดระวัง ตนและเพื่อนอีกหลายคนไม่ได้มีความกังวลอะไร







