'รังสิมันต์' รับข้อมูล 'อัจฉริยะ' สอบเด็กกล้าธรรม โยงธุรกิจสีเทา

"อัจฉริยะ" ชงข้อมูล "กมธ.มั่นคง"สอบ "ชนนพัฒฐ์" ชี้รัฐบาลปราบสแกมเมอร์ไม่ได้ เหตุทุนเทาจ่ายให้ ตำรวจไซเบอร์ ด้าน "โรม" จี้ ตำรวจสางคดีภายใน พ.ย.
ที่รัฐสภา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม กับพวกที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ และเส้นเงินยาเสพติดและการรับสินบนของตำรวจและข้าราชการท้องถิ่นและการเมืองมูลค่า 2,500 ล้านบาท และการล้มคดีเว็บพนันออนไลน์
โดยนายรังสิมันต์ กล่าวว่า เท่าที่พิจารณาข้อมูลเบื้องต้นมี สส. และ นักการเมืองหลายคนถูกเชื่อมโยง ทั้งนี้กมธ.จะให้ความเป็นธรรม ให้โอกาสชี้แจง แต่ตนไม่ทราบว่านายชนนพัฒฐ์จะเดินตามรอยร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ หรือไม่ เพราะไม่เคยมาชี้แจงในชั้นกมธ. อย่างไรก็ดีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวยังคงเดินหน้า ส่วนจะเชิญบุคคลใดมาชี้แจงนั้นอยู่ระหว่างหารือ ซึ่งตนมองว่ากรณีที่ไม่มาชี้แจงอาจเป็นผลเสียมากกว่า
เมื่อถามว่าการตรวจสอบกรณีดังกล่าวจะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่เพราะพรรคกล้าธรรมกับพรรคประชาชนกำลังมีปัญหากันอยู่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน แต่พรรคประชาชนฐานะฝ่ายค้านต้องตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล อีกทั้ง เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องที่จะชี้หน้าว่าพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง หรือใครคนใดคนหนึ่ง แล้วมาบอกว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งนี้ ในกมธ.มี สส.ทุกพรรคการเมือง รวมถึงพรรคกล้าธรรมด้วย และการตรวจสอบต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานรายละเอียด
"ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานถ้าเอาผิดได้ ก็ว่าไปตามกระบวนการสิ่งที่เรียกร้องสูงสุดคือ ต้องการกระบวนการยุติธรรมที่เป็นปกติสำหรับทุกคน ไม่ได้ต้องการรังแกใคร ผมเป็นฝ่ายค้านยืนยันว่าไม่สามารถไปสั่งการอะไรใครได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามถึงการตรวจสอบเรื่องสแกมเมอร์ที่รัฐบาลระบุว่าไม่พบนักการเมืองเกี่ยวข้อง นายรังสิมันต์ กล่าวว่ารัฐบาลรีบสรุปเกินไป และการรีบสรุปนั้นต้องการอะไร ซึ่งจากข้อมูลแบบนี้แล้วออกมาพูดแบบนี้ต้องการอะไร และจากข้อมูลของนายอัจฉริยะที่ยื่นมาหากนับรวมกันอาจเกิน 7 คน และเชื่อว่าอาจมากกว่านั้น ทั้งนี้จริงแล้วมีสัญญาณว่านายอนุทินชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย มีท่าทีเอาจริง แต่สิ่งที่อยากเห็นคือความเป็นรูปธรรม และการเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่รัฐที่ยังบกพร่อง
นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่าตนคาดหวังให้หน่วยงานที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ต้องสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้โดยเร็ว ภายในเดือน พ.ย. นี้เพราะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ที่ สส. ไม่มีเอกสิทธิคุ้มครอง อีกทั้งตนกังวลว่าจะมีการล้มคดี และฟอกขาว ซึ่งถือว่าทำลายหลักนิติรัฐหลักการเชิงกฎหมายและทำลาย ความเชื่อมั่นของประชาชน
ขณะที่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่าข้อมูลที่มายื่นเป็นเรื่องของนายชนนพัฒฐ์ ซึ่งเกี่ยวข้องในส่วนของเส้นเงินยาเสพติดและการทำเว็บพนันออนไลน์ จากเด็กเดินโพย แล้วมาลงสมัคร สส. จนได้เป็นสส. โดยใช้เงินจากธุรกิจดังกล่าวมาเลือกตั้ง
นายอัจริยะ กล่าวต่อว่านายอนุทินแถลงข่าวปราบสแกมเมอร์ แต่ตำรวจบางคนกลับรับเงินจากสแกมเมอร์ ธุรกิจสีเทามา ธุรกิจผิดกฎหมาย ดังนั้นหากคนเหล่านั้นยังอยู่ จะปราบได้อย่างไร
"การแต่งตั้งก็เอาคนที่รับสินบน มีการล้มคดีเกิดขึ้น เวลาจะปล่อยอายัดบัญชี ก็ต้องมีเปอร์เซ็นต์ ให้คนในกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์" นายอัจริยะ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัจฉริยะ ได้แสดงแผนผัง เส้นเงินบัญชีม้า พร้อมกล่าวอธิบายว่า วันนี้ รมว.ยุติธรรม และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้สั่งการไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยตั้งเลขสืบสวนคดีของ นายชนนพัฒฐ์ให้มีการดำเนินการแล้ว ตนอยากเห็นมิติการตรวจสอบนี้ ไม่ใช่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาเหตุ นำตนไปดำเนินคดี ตนยังไม่เห็นความหวังที่นายกรัฐมนตรี จะทำความจริงให้ปรากฏ ท่านบอกว่ายึดทรัพย์ 3.5 หมื่นล้าน มีข้อมูลหมด ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ แต่ตนคิดว่าโลกได้วิวัฒนาการไปแล้ว เราเปิดชื่อได้หมด
“มันเป็นผู้กระทำความผิดทางกฎหมาย คดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา คุ้มครองมาตรา 329 ให้กับผู้บริสุทธิ์ ในการเปิดข้อมูลให้ประโยชน์ตกต่อสาธารณะ แต่หากจะฟ้องร้องผม ผมไม่ได้แคร์ ผมไม่ได้สนใจ เพราะเป็นคนกล้าท้าชน ต่อให้เป็นคุณธรรมนัส ฟ้องผม ผมก็พร้อม จะให้ไปพะเยาผมก็พร้อม“ นายอัจฉริยะ กล่าว






