บ้านใหญ่‘อัศวเหม’ ผนึกเพื่อไทย ดีลใหญ่หยุด ปชน. ยึดปากน้ำ

หลังรัฐประหาร 2557 การครองอำนาจของรัฐบาล คสช. ที่มี “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ตั้งแต่ปี 2557-2566 พื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่แข็งแกร่งของพรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ได้ถูกตัดกำลังลงอย่างราบคาบในช่วงการเลือกตั้งปี 2562 และปี 2566

พรรคเพื่อไทยประสบปัญหาหนัก ในการเลือกตั้งใหญ่ 2 ครั้งหลังสุด โดยพ่ายแพ้ราบคาบ สอบตกยกจังหวัด จากที่เคยกวาด สส.เกือบยกจังหวัด 6 เขต จากทั้งหมด 7 เขต เมื่อปี 2554 

เป็นที่รับรู้กันดี ในแวดวงการเมืองคนปากน้ำว่า การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2568 บ้านใหญ่ “อัศวเหม” คว้าชัยชนะได้ครั้งนั้นได้ เพราะอาศัยฐานเสียงของ "ค่ายสีแดง"หนุนหลัง แม้ว่าสถานะของคนบ้านใหญ่จะยังอยู่กับค่ายบ้านป่าฯ พลังประชารัฐ
 

โดย “สุนทร ปานแสงทอง” คนของ “วัฒนา อัศวเหม” บ้านใหญ่ “ม้าทองคำ” ได้รับเลือกตั้งด้วย 225,686 คะแนน รองลงมาเป็น นพดล สมยานนทนากุล จากพรรคประชาชน ได้ 202,659 คะแนน ประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย ได้ 59,117 คะแนน

การเลือกตั้งทั่วไป ปี 2562 พรรคเพื่อไทย พ่ายแพ้กระแส “รักสงบ จบที่ลุงตู่” ทำให้พรรคพลังประชารัฐ กวาด สส.เกือบยกจังหวัด 6 เขต แบ่งให้พรรคอนาคตใหม่แค่ 1 เขต

เลือกตั้งใหญ่ปี 2566 พรรคเพื่อไทย ยังบอบช้ำต่อเนื่อง แพ้ยกจังหวัดให้กับพรรคก้าวไกล 8 เขต ด้วยกระแสพรรคส้มถล่มโค้งสุดท้ายซัดค่ายแดง เตรียมพลิกขั้วตั้งรัฐบาลกับ 2 ลุง

เมื่อย้อนไปดูคะแนน สส. 8 เขต อันดับ 1 คือพรรคก้าวไกล กวาด 372,740 คะแนน รองมาเป็นพรรคพลังประชารัฐ 160,167 คะแนน และพรรคเพื่อไทย 148,914 คะแนน

ส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ครองความนิยมมากสุด 447,751คะแนน พรรคเพื่อไทย 166,481 คะแนน พรรครวมไทยสร้างชาติ 104,983 คะแนน พรรคพลังประชารับ 24,746 คะแนน

ตัดมาที่บ้านใหญ่ “ม้าทองคำ” เลือกตั้งครั้งล่าสุด ยังคงตอบแทน “ลุงป้อม” ด้วยการลงเลือกตั้งในสีเสื้อบ้านป่าฯ แต่ก็ต้านกระแส “มีลุง ไม่มีเรา” ไม่อยู่ แพ้ยกจังหวัด

 เมื่อถอดบทเรียนเลือกตั้งใหญ่ บ้านใหญ่ปากน้ำแก้เกมในระดับท้องถิ่น ส่ง “สุนทร”ชิงนายก อบจ. คราวนี้ประสบความ จัดการ “พรรคสีส้ม” อยู่หมัด

ว่ากันว่า ชัยชนะของบ้านใหญ่เหนือพรรคส้ม เพราะพรรคเพื่อไทยหลีกทางให้ ไม่ส่งผู้สมัครลงปากน้ำอย่างเป็นทางการ คะแนนจัดตั้งของพรรคเพื่อไทย จึงเทไปที่ “บ้านใหญ่ม้าทองคำ”

นี่อาจเป็นหนึ่งในสัญญาใจล่วงหน้า เพื่อดึงบ้านใหญ่ให้มาอยู่“พรรคเพื่อไทย” เพื่อร่วมฟื้นสรรพกำลังที่อ่อนแรงของค่ายสีแดง จำเป็นต้องใช้กำลังจัดตั้งของ“บ้านใหญ่”มาโค่นพรรคที่กระแสฟีเวอร์อย่าง“ประชาชน” ซึ่งครองความนิยมสุดขีด ในการเลือกตั้งปี 2566

เมื่อพรรคเพื่อไทย ดีเดย์ยกเครื่องล็อตใหญ่ ครั้งที่ 3 เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.หน้าใหม่ ผสมกับหน้าเก่าที่ยังมีสรรพกำลัง ให้จับตาดู "ดีลใหญ่" สะเทือนยุทธจักรการเมืองปากน้ำ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนวิภาวดีรังสิต

“บ้านใหญ่อัศวเหม” เตรียมร่วมงานกับ “พรรคเพื่อไทย” สอดรับกับคำยืนยันของ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่ย้ำว่า “อัศวเหม มาแน่นอน ส่วนจะมีใครบ้างยังเปิดเผยไม่ได้ ให้รอดูวันที่ 7 พ.ย. 2568”

“การเข้ามาของบ้านอัศวเหม ถือเป็นความเชื่อมั่น และเป็นการบอกถึงเรื่องกระแส และความนิยมของพรรคเพื่อไทย ว่ายังเป็นที่สนใจของประชาชน ไม่เช่นนั้นคงไม่มีนักการเมืองทยอยเดินเข้าพรรคเพื่อไทย” จุลพันธ์ ย้ำ

ขณะที่ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แม้จะออกมาดับกระแส ยังไม่มีการเปิดตัว “บ้านใหญ่ปากน้ำ” ในวันที่ 7 พ.ย. แต่หลายคนฟันธง และเชื่อไปแล้วว่า นับจากนี้ อีกไม่ช้าก่อนยุบสภาฯ คนอัศวเหมจะเข้ามาสวมสีเสื้อเพื่อไทยในเร็ววัน

สำหรับสถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทยเวลานี้ พื้นที่ จ.สมุทรปราการ เดิมทีเป็นฐานเสียงของ “สงคราม กิจเลิศไพโรจน์” ที่อาศัยพลังคนเสื้อแดงตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งมีฐานเสียงจัดตั้งที่หนาแน่น รวมทั้งยังได้อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ฝั่งพระประแดง พระสมุทรเจดีย์ ของ “ประชา ประสพดี” เป็นสรรพกำลัง

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ยืนยันชัดเจนว่า “อัศวเหม” มาสังกัดพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน เพียงแต่การจัดทัพตัวผู้สมัคร สส. 8 เขต นั้น เบื้องต้นพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทย ยังต้องการส่งผู้สมัครของเจ้าพื้นที่เดิมอยู่ 5 เขต ส่วนอีก 3 เขตจะหลีกทางให้ “บ้านใหญ่ม้าทองคำ” ในเขต 1 เขต 2 เขต 4

ขณะที่พรรคเพื่อไทย เดิมจะวางคนลงใน เขต 3 ต้องหาคนแทน “ประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย” ที่ย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรม

เขต 5 ของ “วรชัย เหมะ” จะส่งลูกชายลงแทน “ปิยะพงษ์ เหมะ” อาศัยความสด เป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง หน่วยก้านดี ดีเอ็นเอเสื้อแดงพันธุ์แท้ของพ่อ มีโอกาสจะปะทะกับแชมป์เก่าจากพรรคประชาชนได้สูสี ส่วนเขต 6-8 เป็นการวางเครือข่ายของผู้สมัครชุดเดิมจากตระกูลประสพดี

ที่สำคัญให้จับตาเขต 5 ของ “เงาะ วรชัย” ซึ่งมีฐานเสียงคนเสื้อแดงแน่นหนา เพื่อไทยจะต้องเลือกว่า จะเอาคนของพรรคคือ “วรชัย” หรือจะเลือกฝั่งบ้านใหญ่ม้าทองคำ “ตระกูลนกขมิ้น” หรือไม่ ยิ่งกระแสพรรคประชาชนไม่เหมือนเดิมในยุคพรรคก้าวไกลด้วยแล้ว โอกาสที่เพื่อไทยจะได้ สส.อยู่ก็มีไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะเป็นไปตามสูตรนี้ คือ “อัศวเหม” 3 เขต เพื่อไทย 5 เขต

ดีลใหญ่รอบนี้ เพื่อไทยหวังตั้งตาผนึกบ้านใหญ่ม้าทองคำ เพื่อต่อสู้และหยุดยั้งไม่ให้กระแสสีส้มผูกขาดยึดปากน้ำ ซ้ำรอยรอบ 2 ในการเลือกตั้งใหญ่ปี 2569

แต่หากดีลใหญ่ไม่ลงตัว ระหว่างคนสองก๊กค่ายแดง และบ้านใหญ่ในปากน้ำ ว่ากันว่า ให้จับตากลุ่มคนเสื้อแดงปากน้ำให้ดีว่า จะฮาราคีรีตัวเอง จนส่งผลให้พรรคเพื่อไทยเลือดไหลอีกหรือไม่