ย้ำแค้นเมืองตรัง ‘โกหนอ VS นายหัว’ ศึกศักดิ์ศรี ‘ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์’

“เกมย้ำแค้น” ระหว่าง“บ้านโล่ห์สถาพรพิพิธ” พรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรมในฐานะพรรคพันธมิตร กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี “ชวน” และ “สาทิตย์” เป็นคีย์แมนคนสำคัญ
KEY
POINTS
- ศึกการเมืองที่ดุเดือดในจังหวัดตรัง ซึ่งเป็น "การย้ำแค้น" และ "ศึกแห่งศักดิ์ศรี" ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์
- ความขัดแย้งนี้เป็นการต่อสู้กันระหว่างสองขั้วอำนาจหลัก คือ ฝั่ง ‘โกหนอ’ สมชาย โล่สถาพรพิพิธ และตระกูล "บ้านโล่ห์ฯ" ซึ่งย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย กับฝั่ง ‘นายหัว’ ชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่
- พรรคภูมิใจไทยได้เปิดตัว 4 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง อย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึง สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ลูกสาวของ ‘โกหนอ’ ที่ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการประกาศศึกกับบ้านใหญ่เดิมอย่างชัดเจน
- ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ฝั่ง ‘บ้านโล่ห์ฯ’ ของโกหนอสนับสนุนผู้สมัครจากหลายพรรคให้ชนะยกจังหวัดทั้ง 4 เขต ซึ่งเป็นการเอาชนะผู้สมัครในสายของ ‘นายหัว’ ชวน และแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองในตรัง
- การแข่งขันครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการเดิมพันด้วยศักดิ์ศรีของทั้งสองตระกูลการเมืองและสองพรรคใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นจนถึงวันเลือกตั้ง
หากยึดไทม์ไลน์เลือกตั้งตามที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ย้ำหลายครั้งหลายครา ว่าจะยุบสภาไม่เกิน 31 ม.ค.2569 มีการคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมี.ค.2569
เช่นนี้จึงไม่แปลก ที่ทุกจังหวะก้าวย่างทางการเมืองเวลานี้ จะเต็มไปด้วยสารพัดกลเม็ด ที่ต่างฝ่ายต่างเปิดฉากใส่กัน ชนิดไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะสนามเมืองตรัง ที่เวลานี้กำลังเปิดฉาก “ย้ำแค้น” กันอย่างดุเดือด
การลงพื้นที่ของ “นายกฯอนุทิน” ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค เยือนบ้านใหญ่ตรังพร้อม เปิดตัว “4 ว่าที่ผู้สมัคร” สส.ตรัง ประกอบด้วย
เขต 1 เอกพล ณ พัทลุง นายกอบต.บ้านควน หลานชายนายหลานชาย จำนง นาวาแก้ว หรือ “กำนันนงค์” อดีตกำนันตำบลบ้านควน
เขต 2 ทวี สุระบาล สส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ
เขต 3 สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ลูกสาว “โกหนอ” สมชาย โล่ห์สถาพรพิพิธ อดีตสส.ตรัง บ้านใหญ่ย่านตาขาว
เขต 4 พิชัย เจริญศิริสุนทร หรือ สจ.ล้าน สจ.เขตอำเภอกันตัง หลานชาย “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ในฐานะแม่ทัพภาคใต้ค่ายภูมิใจไทย
ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะคำให้สัมภาษณ์ของ “โกหนอ” สมชายเองก็พูดย้ำหลายครั้งหลายครา ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นชายคาหลังเก่า หาก “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” อดีตหัวหน้าพรรคไม่อยู่ หรือหาก “มีสาทิตย์ ก็ไม่มีสมชาย”
ในเมื่อ“เฉลิมชัย” ซึ่งมีข่าวขนสส.ย้ายไปพรรคกล้าธรรม ในขณะที่รายชื่อกรรมการบริการ ปชป.ชุดใหม่มีชื่อ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” อดีตสส.ตรัง และอยู่ในสายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรองหัวหน้าพรรค
ก็แทบไม่ต้องคาดเดาให้ยุ่งยากว่า การโชว์ซีนต้อนรับ“คีย์แมนสีน้ำเงิน” จะเป็นเพียงพิธีการในเชิงนิตินัย เพื่อเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยสมบูรณ์แบบแต่เพียงเท่านั้น
แน่นอนว่า สนามเมืองตรังที่เวลานี้เปิดฉากเกมย้ำแค้นอย่างเต็มรูปแบบ จะกลายเป็นศึกศักดิ์ศรีระหว่าง “โกหนอ” แห่งพรรคภูมิใจไทย บวกพรรคกล้าธรรม ซึ่งตัว “โกหนอ” เคยย้ำหลายครั้งหลายครา ว่าเป็นคนละพรรคแต่พวกเดียวกัน กับพรรคประชาธิปัตย์ที่เวลานี้มี “นายหัว”ชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค เป็นผู้คุมเกม
ย้อนกลับไปในการเลือกตั้งรอบที่แล้ว สนามเมืองตรังแบ่งเป็น 4 เขต เกิดสัญญาณลมเปลี่ยนทิศ เมื่อ “บ้านโล่ห์ฯ” ประกาศปลดแอก “นายหัว” แถมประกาศชัดช่วยหาเสียงเฉพาะเขต 3 ซึ่งเป็นเขตเดิมของ “สส.ท่ามเอง” ลูกสาว และเขต 4 กาญจน์ ตั้งปอง เด็กในสังกัด แต่เพียงเท่านั้น
ผลปรากฎว่า “บ้านโล่ห์ฯ” ที่เดินเกมคนละพรรคแต่พวกเดียวกัน ส่งสส. 4 คน จาก 3 พรรค ชนะยกจังหวัด ประกอบด้วย เขต 1 ถนอมพงศ์ หลีกภัย จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับการสนับสนุนจาก “กำนันนงค์” โดยมี “โกหนอ” เป็นกองหนุน
มารอบนี้ “กำนันนงค์” เปลี่ยนเกมส่งหลานชายลงแทน โดยอาจปรับบทบาท“ถนอมพงศ์” ไปอยู่ในจุดอื่น หรืออีกทางเลือก คือปลายทางที่“พรรคกล้าธรรม” ในฐานะพรรคพันธมิตร
เขต 2 ทวี สุระบาล พลังประชารัฐ ล้ม สาทิตย์ วงศ์หนองเตย แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีแรงแค้นกับบ้านใหญ่จากศึกชิงนายกอบจ. เมื่อปี 2563
เขต 3 สุณัฐชา และเขต 4 กาญจน์ จากพรรคประชาธิปัตย์ รอบนี้ภูมิใจไทย ส่ง "สจ.ล้าน" ซึ่งเป็นหลานชายพิพัฒน์ลงแทน
ขณะที่เด็กในคาถา“นายหัวชวน” รอบที่แล้ว พ่ายเรียบ ไม่ว่าจะเป็นเขต 1 “หมอตุล”นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น อดีตแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลตรัง แพ้“ถนอมพงศ์” ไม่ต่างจากเขต 4 “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” อดีตเลขานุการประธานสภาฯ ลูกรัก“นายหัวชวน” ที่แพ้โพลพรรค จนต้องย้ายค่าย ลงชิงในนาม“รวมไทยสร้างชาติ” แต่แพ้“สส.กาญจน์” เด็กปั้นบ้านใหญ่
ศึกเลือกตั้งครั้งนั้น ยังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ถึงขั้นที่ “ทวี” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบ้านใหญ่ ร้องกกต.เอาผิด“ชวน”และ“สาทิตย์”ปราศรัยใส่ร้าย
โดยระบุว่า“ชวน”พูดสนับสนุนคำพูดของ“สาทิตย์” เรื่องการย้ายพรรคของ“ทวี”ว่า กินบนเรือนขี้รดหลังคา ช่วงย้ายพรรคไปอยู่กับ“ทักษิณ ชินวัตร” เพราะเห็นแก่เงิน 42.4 ล้านบาท
ต่อเนื่องมาถึงศึกชิงนายกอบจ.เมื่อเดือน ก.พ.2568 ที่ผ่านมา เมื่อ “โกเล้ง”บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ แชมป์เก่า ซึ่งเป็นพี่ชายของ“โกหนอ” ปลดแอกจาก“ทีมกิจปวงชน”ของ“กิจ หลีกภัย”อดีตนายกอบจ.ตรัง พี่ชาย“ชวน”ในรอบที่แล้ว หันไปใช้แบรนด์ใหม่“ทีมนายกบุ่นเล้ง” และได้รับชัยชนะในที่สุด
ท่ามกลางการจับตาไปที่“มนต์ขลังนายหัว” ที่เสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัด ต่างจากบ้านใหญ่ที่แผ่บารมีอย่างชัดเจน
เช่นนี้ต้องจับตา “สงครามน้ำลาย” ระหว่าง “โกหนอ”ที่ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ ถึงการเลือกตั้งในทำนองที่ว่า “เวลาเราขัดแย้งกัน ไม่มีใครมาไกล่เกลี่ย เราสู้กันเอง...รอบหน้า จ.ตรัง อาจจะอยู่คนละพรรคแต่เป็นพวกเดียวกัน”
วันเดียวกัน “สาทิตย์” ออกมาสวนกลับอย่างดุเดือดว่า “คำพูดที่ว่า พรรคเดียวกันคนละพวก พวกเดียวกันต่างพรรค มันสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอ ความล้มเหลวของความเป็นพรรคการเมือง”
การเมืองที่ส่อแววสู้กันดุเดือด ล่าสุด “สส.ท่ามเอง” ลูกสาวโกหนอ ยังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ถึงการเมืองในเวลานี้ว่า ช่วงนี้ถ้าสังเกตให้ดี ปฏิบัติการไอโอ เฟสบุ๊คปลอมและอินฟลู(ถูกจ้าง)มาคอมเม้นการเมืองค่อนข้างเยอะ ชมตัวเองไม่ว่ากัน555แต่ปล่อยข่าวมั่วโจมตีคนอื่นนี่ก็เกินไป
#เข้าใจว่าคนเราถนัดไม่เหมือนกัน เสพข่าวอย่างมีสตินะคะทำงานๆดีกว่า
เหล่านี้ตอกย้ำถึง “เกมย้ำแค้น” ระหว่าง“บ้านโล่ห์สถาพรพิพิธ” พรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรมในฐานะพรรคพันธมิตร กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี “ชวน” และ “สาทิตย์” เป็นคีย์แมนคนสำคัญ
เชื่อได้เลยว่า กว่าจะถึงวันรู้ผลแพ้-ชนะ จะได้เห็นอีกหลายฉากหลายตอนที่สู้กันมันหยดแน่นอน!







