‘อนุทิน’ โว ผลงาน ‘ปราบสแกมเมอร์’ เยอะจัด ไม่หวั่นมาเฟีย จี้ ‘วรภัค’ ออกเอง

ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ตอนหนึ่งถึงการปราบสแกมเมอร์ ในงานแสดงวิสัยทัศน์ THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ “Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่”ว่า ก่อนที่จะบอกว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการฟอกเงินมันก็ไม่ค่อยแฟร์ สแกมเมอร์เป็นธุรกิจที่น่ารังเกียจ แต่จะไปอยู่ในประเทศที่มีระบบที่ดีแล้วหรือพัฒนาแล้วไม่ได้ มันก็ต้องอยู่ในประเทศแบบอย่างนี้ มีช่องว่างทางกฎหมาย แต่ประเทศไทยไม่ใช่ศูนย์กลาง แต่ดันอยู่ตรงกลางในรอบๆประเทศที่ทำสแกมได้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความน่าเชื่อถือที่สุดในภูมิภาคอินโดจีน

ดังนั้น ไม่ใช่แค่สแกม รวมถึงยาเสพติด ค้ามนุษย์ ก็ต้องใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการฟอกเงิน สิ่งที่เราต้องทำให้ได้คือมีกฎหมายเคร่งครัดเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจจะปราบปราม เรามีกลไกหมด ซึ่งบางทีเป็นเรื่องการปฎิบัติในทางลับ 

นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องนำหน้าคนทำผิดเสมอ ไม่ใช่ไปไล่ตามเป็นโปลิศจับขโขยแบบนี้ไม่ได้ ตนบอกเจ้าหน้าที่หมดแล้ว4เดือนนี้ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ เรื่องความเกรงกลัวต่ออิทธิพลใดๆ ให้คำยืนยันว่าไม่มี เราเป็นรัฐบาลไม่มีนักเลงไม่มีมาเฟีย ขาใหญ่คนไหนจะใหญ่กว่ารัฐบาล ในเมื่อรัฐบาลไม่เกรงกลัวแล้ว ผู้ปฏิบัติก็ต้องไม่กลัว นี่คือนโยบายที่เป็นรูปธรรมของรัฐบาล ผลงานมีอยู่โดยตลอด ยาเสพติดจับได้เดือนเดียวหลายร้อยล้านเม็ด เรื่องสแกม ยึดทรัพย์ไป2หมื่นกว่าล้านแล้ว ดำเนินคดีไปเยอะมาก ถอนสัญชาติก็เยอะมาก แบล็คลิสต์ก็เยอะมาก อายัดทรัพย์ก็เยอะมาก แต่ของพวกนี้มาบอกได้ยังไง เป็นการสืบในทางลับ ไล่ขยายผลยึดทรัพย์ไปเรื่อยๆ 

นายอนุทิน กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้วมีการถอนสัญชาติขาใหญ่คนหนึ่ง ที่อยู่มาได้สัญชาติไทยตั้ง 30 ปี รัฐบาลผมเข้ามา3สัปดาห์ ถอนสัญชาติเรียบร้อย ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ก็ดำเนินการต่อไป เครือข่ายนั้นลากเส้นมายังเห็นอีกเยอะ ก็ไล่ถอนสัญชาติไป เรารู้ถึงขนาดว่าทำมาบอกว่าเป็นคนไทยมีแม่เป็นคนไทย แต่จริงๆไม่ใช่แม่คนไทยอ้างเป็นผู้ให้กำเนิด แต่ไม่ใช่ แสดงว่าได้สัญชาติมาเถื่อนก็ไล่ถอนไป ทุกอย่างได้ทำไปแล้วในรัฐบาลนี้

ส่วนนายวรภัค ธันยาวงษ์ ที่ถูกเชื่อมโยงขบวนการจนลาออกจาก รมช.คลัง นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า นายวรภัคถูกครหา แต่ยังไม่ได้ถูกกล่าวหา แล้วก็ยังไม่ได้มีหลักฐานใดๆ ไม่มีหน่วยงานไหนทั้งไทยและต่างประเทศที่ดำเนินคดี แต่เมื่อมันมีข่าวออกมาเรื่อยๆ 

“ผมนี่แหละเป็นคนบอกให้ท่านลาออก ซึ่งท่านก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า การใช้กฎหมายในรัฐบาลยุคผม มุ่งเน้นไปที่พฤติกรรม ไปที่รูปคดี ไม่ใช่ไปบอกว่าเกลียดคนนี้ ไม่ชอบคนนี้เพราะจะมาเป็นคู่แข่งทางการเมือง เหมือนที่พวกผมเคยโดนมา และการที่มาวันนี้ ผมจะย้อนรอยหรือเปล่า ไม่มีเลย