‘ครม.’ ไฟเขียว ร่างสนธิสัญญา ‘ส่งผู้ร้ายข้ามแดน’ อาเซียน

“โฆษกรัฐบาล” เผย “ครม.” เห็นชอบร่างสนธิสัญญาอาเซียน ว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน มอบ ยุติธรรม-ต่างประเทศ ดำเนินการให้มีผลบังคับใช้
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างสนธิสัญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน (ร่างสนธิสัญญาฯ)
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงนามในสนธิสัญญาฯ
3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม ตามข้อ 2
4. ให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงต่างประเทศดำเนินการให้สนธิสัญญาฯ มีผลบังคับใช้ในโอกาสอันเหมาะสมตามแต่ที่จะตกลงไว้ในสนธิสัญญาฯ โดยหลังจากที่รัฐสมาชิกอาเซียนลงนามสนธิสัญญาฯ แล้ว กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงต่างประเทศ จะดำเนินการแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนว่า ฝ่ายไทยได้เสร็จสิ้นการดำเนินการตามกระบวนของกฎหมายภายในเพื่อให้สนธิสัญญาฯ มีผลใช้บังคับแล้ว โดยสนธิสัญญาฯ จะมีผลใช้บังคับ 30 วัน นับจากวันที่รัฐสมาชิกอาเซียนอย่างน้อย 6 รัฐ ได้แจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนว่ามีผลใช้บังคับแล้ว ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อ 29 วรรค 2 ของสนธิสัญญาฯ
5. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างสนธิสัญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนมีการลงนาม ให้กระทรวงยุติธรรมสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอครม.พิจารณาอีกครั้ง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านกฎหมาย (ALAWMM) ครั้งที่ 13 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 15 พฤศจิกายน 2568 ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การแสดงวิสัยทัศน์ของประธานรัฐมนตรีอาเซียนด้านกฎหมาย การกล่าวถ้อยแถลงของรัฐมนตรีอาเซียนด้านกฎหมายประเทศสมาชิกอาเซียน การกล่าวต้อนรับสมาชิกใหม่ของที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านกฎหมาย (สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต) การรับรองแผนงานสำคัญของที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านกฎหมาย เช่น การดำเนินงานหลังการลงนามสนธิสัญญาฯ การพัฒนาความสอดคล้องของกฎหมายการค้า การพัฒนาการจัดตั้งคณะทำงานเชิงเทคนิคเพื่อจัดทำอนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการโอนตัวนักโทษ การรับรองการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยสำหรับการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านกฎหมาย ครั้งที่ 25 นอกจากนี้ ในห้วงการประชุมดังกล่าวจะมีการลงนามสนธิสัญญาฯ ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนภายในของแต่ละประเทศต่อไป
ร่างสนธิสัญญาฯ มีวัตถุประสงค์ เนื้อหาสาระและหลักเกณฑ์ในการให้ความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนภายในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งคล้ายคลึงกับสนธิสัญญาในเรื่องเดียวกันที่ประเทศไทยได้จัดทำกับประเทศต่างๆ โดยได้กำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนในบทบัญญัติ รวม 29 ข้อ
สนธิสัญญาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา รวมทั้งความร่วมมือด้านการยุติธรรมและการปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศภาคี ซึ่งเมื่อมีผลใช้บังคับระหว่างรัฐสมาชิกอาเซียนแล้วจะนำไปสู่ดำเนินความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมภายในภูมิภาคอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานของความเคารพอธิปไตย ความเท่าเทียม และผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน







