เลขา ปชน.อธิบายชัด โต้ 'ไผ่' ปมโยกเงินผู้ช่วย สส.สมัครสมาชิก

เลขา ปชน.โต้ 'ไผ่' ปมกล่าวหาโยกเงินผู้ช่วย สส.สมัครสมาชิก ลั่นแค่เปิดพรรคช่วงแรกก็สมาชิกครบเกณฑ์แล้ว เชื่อถูกเปิดเรื่องนี้เพราะ สส.ส้มแฉทุนเทา
KEY
POINTS
- ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายไผ่ ลิกค์ กรณีนำเงินผู้ช่วย สส. ไปสมัครสมาชิกพรรค
- ยืนยันว่าพรรคไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนสมาชิกด้วยวิธีดังกล่าว เนื่องจากมีสมาชิกครบเกณฑ์ตามกฎหมายแล้ว และมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมมากกว่าจำนวน
- ตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหานี้อาจเป็นการพยายามทำลายชื่อเสียงพรรค หรือเป็นการตอบโต้ที่พรรคตรวจสอบเรื่องทุนสีเทา
- ชี้แจงว่าประเด็นดังกล่าวเคยมีการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน แต่พรรคยังไม่เคยได้รับหนังสือเรียกให้ชี้แจง
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2568 นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม โพสต์เฟซบุ๊กเป็นเอกสาร พร้อมตั้งคำถามถึงพรรคประชาชน ว่าเอาเงินผู้ช่วย สส. ไปสมัครสมาชิกพรรค เข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่
โดยนายศรายุทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูในสิ่งที่นายไผ่นำเสนอ โดยเราไม่มีนโยบายแบบนั้นอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเอาเงินไปซื้อสมาชิกพรรค เพราะเราไม่เห็นความจำเป็นว่าทำไมเราจะต้องไปเพิ่ม จำนวนสมาชิกพรรคเราอยู่ในเกณฑ์ที่ส่งผู้สมัครได้ครบอยู่แล้วตั้งแต่เริ่มแรกที่เปิดพรรคประชาชนด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์เรื่องของการมีสาขาพรรค หรือตั้งตัวแทนครบทุกจังหวัด
“แค่เปิดตัวพรรคแค่เดือนเดียว เราก็มีสมาชิกครบถ้วนแล้ว ดังนั้น ไม่เห็นความจำเป็นใดๆ ที่เราจะต้องเพิ่มจำนวนสมาชิกด้วยวิธีการนี้ ที่จริงก็ขัดแย้งกับแนวทางที่เราทำปัจจุบันที่เราเน้นตัวชี้วัด (KPI) เรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน ถามว่าเอาสมาชิกเข้ามาแบบนั้น สมาชิกจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร เป็นเพียงแค่รายชื่อ 1 รายชื่อ ก็จะทำให้สัดส่วนการมีส่วนร่วมของสมาชิกเรายิ่งน้อยลงทั้ง ทั้งที่ปัจจุบันเราใช้ KPI ในการทำงาน วัดที่การมีส่วนร่วมของสมาชิก หมายความว่าเรามีจำนวนสมาชิกเท่าไร เราต้องการเห็นสมาชิกมีส่วนร่วมมากเป็นสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยไม่เห็นความจำเป็นใดๆ หรือเหตุผลใดที่เราจะต้องไปทำอย่างนั้น เอาเข้าจริง ค่าสมาชิกแค่ 50 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนที่เราดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เกิดสมาชิกพรรคหนึ่งคน รวมถึงการมีบัตรประจำตัวต่างๆ แทบจะหมดแล้ว เราจะทำไปเพื่ออะไร ผมไม่เห็นเหตุผลใดๆ” นายศรายุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นเพราะเรื่องทุนเทาที่พรรคประชาชนไปแฉหลักฐานด้วยหรือไม่ รวมถึงมองว่าเป็นการใส่ร้ายหรือไม่ นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า เป็นไปได้ อันดับหนึ่งคือในเรื่องกระแสพรรคเรา ต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า เราอยู่ในเบอร์หนึ่ง เรื่องความเป็นไปได้ ดังนั้น หลังจากนี้ไปเราคงได้เห็นความพยายามที่จะทำให้เกิดการดิสเครดิตพรรคประชาชน ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่เราต้องติดตามตลอด
นายศรายุทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนอันที่สอง เป็นไปได้เรื่องการเอาคืน เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมาเราตรวจสอบหนัก และเราเห็นอยู่แล้วในกรณีที่มีการฟ้องปิดปากตามที่ต่างๆ เพื่อทำให้คนไม่กล้าจะไปยุ่ง ไปตรวจสอบเขา ทำให้เสียความสะดวกสบาย โดยเฉพาะต่างจังหวัด ซึ่งชัดเจนว่าเป็นแนวทางเพื่อสร้างความไม่สะดวกสบายทำให้เราทำงานยาก
เมื่อถามว่าควรเรียกร้องให้เขาออกไปแจ้งความหรือไม่ นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า กรณีนี้ เป็นเหตุที่เกิดขึ้น มีการอ้างอิงมาแล้วหนึ่งครั้ง ในกรณีที่มีการไปยื่น กกต. มาแล้ว ก็น่าจะเป็นอันเดียวกันที่เคยเป็นเรื่องราวมาก่อนหน้านี้สัก 2-3 เดือนที่แล้ว แต่ ณ วันนี้ เรายังไม่มีหนังสือเรียกชี้แจงอะไร







