‘อนุทิน’ รับ โดนกดดันปราบ ‘สแกมเมอร์’ หวั่นถูกตราหน้าไร้ผลงาน

“อนุทิน” เผย เพิ่งรู้ “ปปง.” ขึ้นตรงนายกฯ ก่อนหน้านี้เลยไม่ได้สั่งการโดยตรง ชี้ ปชช. จับตาเป็นพิเศษ ปราบสแกมเมอร์ ฟอกเงินดำ รับ โดนกดดัน ทั้งใน-นอกประเทศ ถ้าไม่เด็ดขาด จะโดนว่าไม่มีผลงาน นานาชาติแซงชั่น ระบุ 4หน่วยงานจับมือทำงาน
ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย แก่คณะกรรมการ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
โดยนายอนุทิน ได้กล่าวตอนหนึ่งช่วงต้นการประชุม ว่า ความเข้าใจตอนแรกของผมคิดว่าหน่วยงานนี้สังกัดกระทรวงยุติธรรม ผมก็เลยไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้สั่งการใดๆ มาโดยตรง หลังจากเข้ามาสังคายนาระบบภายในทำเนียบรัฐบาลก็ทราบว่า ปปง. เป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับนายกฯ ก็รู้สึกเป็นเกียรติ งานในส่วนนี้มีความสำคัญมาก แต่ช่วงนี้ภารกิจของปปง. เป็นที่สนใจติดตามของประชาชนมากเป็นพิเศษ ไม่มีอะไรดังไปกว่าสแกมเมอร์ อาชญากรรมทางการเงินและเทคโนโลยี ซึ่งในธุรกรรมต่างๆของมิฉฉาชีพหลีกเลี่ยงไม่ได้กับงานของ ปปง. ที่มีการฟอกเงิน เพราะมันเป็นเงินที่ไม่สะอาด ไม่ใช่เทา ดำมาเลย ฟอกยังไงก็ยังเป็นเทาอยู่
นายอนุทิน กล่าวว่า เพราะฉะนั้น ผมในฐานะกำกับดูแล ปปง. ก็ยอมรับว่ามีความกดดันจากพี่น้องประชาชน และประชาคมนานาชาติสูงมากในเรื่องการจัดการปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสแกมเมอร์ ถ้าดำเนินการไม่เด็ดขาดหรือไม่เต็มที่เราจะถูกตราหน้าว่าไม่มีผลงาน และสิ่งที่จะตามมาคือถูกแซงชั่น ถูกกีดกัน กดดันจากนานาชาติ
โดยภายหลังการประชุม นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาติดตามความคืบหน้าและถามว่า ปปง. ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอะไรบ้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในยุคที่สแกมเมอร์ที่ถูกบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ ก็ต้องสนับสนุน ปปง.เต็มที่ ตรวจสอบ ยึดทรัพย์ อายัด ดำเนินคดีผู้ทำผิด เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องในประเทศ ถ้าเราไม่สร้างความมั่นใจในเรื่องปราบปรามผู้กระทำผิด ใช้ไทยเป็นฐานฟอกเงินจะมีผลให้นานาชาติที่มีต่อไทยไม่เป็นผลดีเลย และสร้างความเสียหายให้ประเทศเป็นอย่างมาก ปปง.ต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ไม่ให้เงินดำ เงินเทาอยู่ในระบบการเงินของประเทศ
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯ จัดการผู้เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ ไม่ต้องจัดการ เรามีปปง. จัดการ มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดการ ถ้าตรงไหนมีพฤติกรรมฟอกเงิน ก็มีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และปปง. เป็นหน้าที่ที่ต้องเร่งดำเนินการอยู่แล้ว และได้หารือในที่ประชุม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. ก็เป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้นำเสนอจะเร่งทำบันทึกความร่วมมือ เพราะเป็นวาระแห่งชาติ เอา4หน่วยงานหลัก ได้แก่ ปปง. กระทรวงมหาดไทย โดยปลัดกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ และ DSI มาทำข้อตกลงการทำงานร่วมกันในการปราบปรามการฟอกเงิน อาชญากรรมทางเทคโนโลยีร สแกมเมอร์ทั้งหลาย ก็จะลงไปในระดับปฏิบัติและผู้ว่าฯ
นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เรารีบดำเนินการอยู่แล้ว วงเงินที่อายัดไว้ก็2หมื่นกว่าล้านแล้ว ทยอยฟ้อง คือเรื่องพวกนี้มันไปพูดไม่ได้นะ คนก็เลยนึกว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ของพวกนี้ต้องใช้การข่าวสืบเจาะ เมื่อมีหลักฐานครบก็ดำเนินการทันที พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร ผบ.ตร. ก็รายงานทุกวัน ว่าไปอายัดเงิน อายัดทรัพย์พวกทำผิดเหล่านี้และกรณียาเสพติด การพนัน ค้ามนุษย์ เขาดำเนินการอยู่ตลอด แต่ของพวกนี้พูดหมดก็เท่ากับเผยไต๋หมด ใช้วิธีอะไรจับ มันไม่ได้
“สิ่งที่รัฐบาลจะทำให้หน่วยงานเหล่านี้ก็คือ เราต้องมีวิธีการ มีเครื่องไม้เครื่องมือ มีเทคโนโลยี เราต้องอยู่หน้าพวกผู้กระทำผิด ผู้กระทำผิดก็ไม่เบา เขาก็มีวิธีการของเขาเหมือนกัน แต่เราเป็นรัฐต้องเหนือกว่า เราควบคุมทุกอย่าง” นายอนุทิน กล่าว







