‘ธรรมนัส’นำทัพ ฝ่าเกมส้ม เรียกกระแส ‘มีเรา ไม่มีเทา’

‘ธรรมนัส’นำทัพ ฝ่าเกมส้ม เรียกกระแส ‘มีเรา ไม่มีเทา’

พรรคประชาชนตอนนี้จึงต้องสู้กับตัวเองเพื่อให้สังคมยังเชื่อมั่นว่าไม่ได้กลายพันธุ์ หลังอุ้มเสี่ยหนูสีน้ำเงิน นั่งนายกฯ

KEY

POINTS

  • พรรคสีส้มใช้ประเด็นสแกมเมอร์โจมตี ธรรมนัส และพรรคกล้าธรรม เพื่อสร้างกระแสทางการเมือง
  • ปั้นวาทกรรมใหม่ "มีเรา ไม่มีเทา" หวังผลเหมือนแคมเปญ "มีลุง ไม่มีเรา" ในอดีต
  • กล้าธรรม ที่อาศัยกลยุทธ์บ้านใหญ่และตัวบุคคลลุยเลือกตั้ง ต่างจากพรรคส้มที่เน้นกระแส

ผลพวงของเครือข่ายสแกมเมอร์ที่กำลังโดนทางการหลายประเทศถอนรากถอนโคน โดยมีฐานหลักในกัมพูชา เงินจำนวนมหาศาลที่ได้จากการหลอกลวงถูกโยกเอาไปฟอกผ่านการถือครองทรัพย์สินต่างๆ ในหลายประเทศ

เรื่องนี้ถือว่ามีผลสะเทือนต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลแบบเลี่ยงไม่ได้ ขนาดตัวของอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กว่าจะฝ่าเสียงวิจารณ์ เรื่องความล่าช้าในการปราบปรามสแกมเมอร์ ก็เหนื่อยใช่เล่น

ไม่เว้นแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลอย่าง“กล้าธรรม” แกนนำคนสำคัญอย่าง “ธรรมนัส พรหมเผ่า” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ก็ถูกเชื่อมโยงว่ามีความใกล้ชิดกับ "เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์" หนึ่งในพ่อมดการเงิน ที่มีความแนบแน่นผู้นำกัมพูชา และทักษิณ ชินวัตร

หนึ่งในรัฐมนตรีของรัฐบาลอนุทิน อย่าง“วรภัค ธันยาวงษ์” ก็ต้องตัดใจลาออก รมช.คลัง หลังถูกเชื่อมโยงมีความเกี่ยวข้องกับพ่อมดการเงิน และถูกตั้งข้อสังเกตว่าภรรยามีส่วนได้ผลประโยชน์ใดๆ หรือไม่กับบุคคลนอกแวดวงการเมืองที่ตกเป็นเป้า 

ก่อนหน้านี้ รังสิมันต์ โรม สส.พรรคส้ม ออกมาแย้มให้สังคมสนใจว่ามี 7 นักการเมือง มีส่วนเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ สอดรับกับข้อมูล บิ๊กโจ๊ก สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่เปิดชื่อย่อนักการเมือง ช. ในภาคใต้ ได้ประโยชน์จากสแกมเมอร์

กระทั่ง อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ เฉลยว่า ช. นั้น คือ "ชนนพัฒน์ นาคสั้ว" สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม แบบไม่กลัวถูกฟ้อง กางข้อมูลเส้นเงินต่างๆ ว่าเชื่อมโยงอย่างไร จน สส.กฤต ชนนพัฒน์ ตอบโต้ว่าข้อมูลบางส่วนผิดพลาดคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะในส่วนของบัญชีม้า

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ก่อนที่“ชนนพัฒน์” จะเข้าสู่เส้นทางการเมือง เขาเคยถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ เรื่องก็อยู่ในกระบวนการต่อสู้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากันไป 

ว่ากันว่า สส.กฤต มีแบ็คดีคอยช่วยเหลืออยู่ข้างหลัง จริงหรือไม่และเป็นใครบ้างคนในวงการน่าจะรู้กันดี

จับอาการ ธรรมนัส ที่โดนกระหน่ำเช้าเย็นจากพลพรรคสีส้ม แต่ดูจะไม่สะทกสะท้าน เพราะตอนเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็เคยโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ สมัยพรรคอนาคตใหม่ และเรื่องก็หนักกว่านี้หลายเท่าตัว คือกรณีต้องโทษที่ประเทศออสเตรเลีย จนมีวลีเด็ด มันคือแป้ง

จากวันนั้นถึงวันนี้ ธรรมนัส ผู้ผ่านโลกมาโชกโชน พาวเวอร์ฝ่อลงหรือใหญ่ขึ้น ก็เห็นกันอยู่ คงไม่ต้องบอก

ถามว่าการเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไปของกล้าธรรม จะได้รับผลกระทบหรือไม่ จากเกมการเมืองค่ายส้ม ที่ทำตัวราวเป็นพระเอก ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทางการเมือง

แน่นอนถ้าบอกว่ากล้าธรรม เน้นสนามเมืองหลวง หรือหัวเมืองใหญ่หลายจังหวัด ก็จะได้รับผลกระทบ แต่ถ้าดูขุมกำลังจริงๆ จะเห็นว่าพื้นที่เป้าหมายคือบรรดาบ้านใหญ่ และตัวบุคคลกล้ามใหญ่ในหลายจังหวัด ซึ่งเป็น สส.เดิมและเครือข่าย รวมถึงสส.ค่ายอื่นที่จะเข้ามาเพิ่มเติม

ตรงนี้จึงเป็นความต่างของพรรคกล้าธรรม และอาจจะรวมถึงภูมิใจไทย ที่ไม่เน้นกระแสเหมือนส้ม แต่มีกลยุทธ์ปักธงเลือกตั้งได้ตามเป้าหมายในแบบตัวเอง

เช็กท่วงท่าลีลาค่ายส้ม ที่เจอกระแสตีกลับไม่น้อยหลังเป็นฝ่ายค้ำในฝ่ายค้าน ให้รัฐบาลอนุทิน เสวยอำนาจ ทั้งที่ตัวเองจะได้โชว์ฝีมือเป็นฝ่ายบริหาร แต่กลับตั้งใจปล่อยโอกาสหลุดมือ สวนโหวตเตอร์14ล้านเสียงที่เลือกให้เข้าไปเปลี่ยนแปลง

การเรียกกระแสสีส้มกลับคืนเพื่อปูทางสู่การเลือกตั้ง เลยได้เห็นวาทกรรมจากแกนนำพรรคประกาศ“มีส้ม ไม่มีเทา” หรือ“มีเรา ไม่มีเทา” อะไรทำนองนั้น

เป็นสูตรสำเร็จที่ใช้ได้ผลจากการเลือกตั้งปี 2566 กับแคมเปญช่วงโค้งสุดท้าย “มีลุง ไม่มีเรา” ขย้ำประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลักให้เป็นผู้ร้ายทางการเมือง จนก้าวไกลตอนนั้น ถีบตัวเองชนะเป็นพรรคอันดับ1สำเร็จ

สถานการณ์ตอนนี้ที่ผู้คนไม่ทนกับสแกมเมอร์ จึงเป็นโอกาสของค่ายส้มที่จะฉวยจังหวะ หวังผลทางการเมืองอีกครั้ง คนที่ตกเป็นเป้าถูกเปิดชื่อมาแล้วว่าเป็นใคร ส่วนที่เหลือที่เป็นนักการเมืองอีกหลายคน ตามที่โรม เคยบอกไว้ จะเก็บไว้ใช้ตอนซักฟอกรัฐบาลและยื่นองค์กรอิสระจัดการหรือไม่อย่างไร

พรรคประชาชนตอนนี้จึงต้องสู้กับตัวเองเพื่อให้สังคมยังเชื่อมั่นว่าไม่ได้กลายพันธุ์ หลังอุ้มเสี่ยหนูสีน้ำเงิน นั่งนายกฯ

ส่วนกล้าธรรม ก็เดินในเส้นทางของตัวเอง ไม่ต่างจากภูมิใจไทย มีกลไก เครือข่าย และของพร้อมสรรพ ล็อกเขตเป้าหมาย ไม่ใช่พรรคกระแสแบบสีส้ม