‘เด็กพท.’ ซัด ‘ปชน.’ ค้านเทียม ดับฝัน ‘อสม.’ เล่นเกมสกัด ร่างพ.ร.บ.

“จิรพงษ์” โต้ “ปกรณ์วุฒิ” ปม พ.ร.บ.อสม. ซัด ปชน. ชงญัตติด่วนสแกมเมอร์ ตัดหน้าพิจารณา ร่างพ.ร.บ. อสม. ซัด เล่นการเมือง ดับฝัน อสม.ทั่วประเทศ 1 ล้านคน เหน็บ ค้านเทียม อุ้มรัฐบาลจนเกินงาม
นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวหานายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บิดเบือนข้อเท็จจริงกฎหมายอสม. ว่า ในวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนได้ทำหน้าที่ที่ห้องประชุมสุริยันในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. อบจ. พ.ร.บ. เทศบาล พ.ร.บ. อบต. ซึ่งหลังจากการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นี้เสร็จ ก็จะเป็นการเข้าสู่การพิจารณาร่างพ.ร.บ. ข้าราชการครู และพ.ร.บ. อสม. ตามลำดับ โดยเมื่อมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ. ข้าราชการครูแล้วเสร็จ เห็นว่า ยังมี สส. ผู้เข้าร่วมประชุมเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีอยู่คือ 269 ท่าน ซึ่งการพิจารณาร่างพ.ร.บ. อสม. สามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่สุดท้ายมี สส. ถกเถียงกัน
นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า และอีกเหตุหนึ่งคือความพยายามขอเสนอญัตติด่วนเรื่องสแกมเมอร์ จากพรรคประชาชน เข้าสู่สภาตัดหน้าร่าง พ.ร.บ. อสม. ซึ่งโดยปกติแล้วการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ จะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ การเสนอญัตติด่วนเรื่องสแกมเมอร์ สามารถทำได้ในวันถัดมาคือวันพฤหัสบดี จนเป็นเหตุให้ นายไชยา พรหมา ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ปิดการประชุม ซึ่งเป็นการดับความหวังของ อสม. ทั่วประเทศกว่า 1 ล้านคน ที่รอคอยเห็นการพิจารณาร่างพ.ร.บ. อสม. ในวันนั้น ประกอบกับนายสมศักดิ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ และกรรมาธิการฯจากตัวแทน อสม. ทั่วภูมิภาค รวมถึงกรรมาธิการฯจากหลายพรรคการเมืองพร้อมและสแตนบายที่จะขึ้นเสนอร่างพ.ร.บ. อสม. ในวาระที่ 2 และ 3 อยู่หลังบัลลังก์ทั้งวัน
“ผมมองว่า การขัดขวางการเสนอร่าง พ.ร.บ อสม. ในวาระที่ 2 และ 3 นี้ เป็นการเล่นเกมการเมือง ไม่อยากให้มองว่า ร่าง พ.ร.บ. อสม. เป็นของนายสมศักดิ์ หรือร่างจากพรรคเพื่อไทยเพียงผู้เดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีการเสนอร่าง พ.ร.บ อสม. ประกบจากหลายพรรคการเมือง และในขั้นการพิจารณาของกรรมาธิการ นายสมศักดิ์ ก็เปิดโอกาสให้กรรมาธิการฯจากทุกภาคส่วนช่วยกันปรับปรุงแก้ไขร่างพ.ร.บ. อสม. อย่างอิสระตรงไปตรงมาเพื่อประโยชน์ของ อสม. ทั่วประเทศ ถึงแม้ว่าการเข้าเสนอร่างในวันนั้นอาจพิจารณาไม่ทันทุกมาตราก็ตาม แต่ก็ยังเป็นขวัญและกำลังใจให้กับ อสม. ที่ร่างพ.ร.บ. อสม. ที่พิจารณาแล้วเสร็จ เข้าสู่วาระที่ 2 และ 3 โดยการเปิดประชุมสมัยหน้าก็จะมีการหยิบยกร่างพ.ร.บฯตัวนี้มาพิจารณาก่อน“ นายจิรพงษ์ กล่าว
นายจิรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนได้สังเกตเห็นพฤติกรรมบางอย่างในระหว่างหน้าที่แปรญัตติบางมาตรา ของร่างพ.ร.บ. อบจ. พ.ร.บ. เทศบาล และ พ.ร.บ. อบต. ในฐานะกรรมาธิการฯ เห็นการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเปลี่ยนแปลงไป จนตนก็งงว่าสมัยนี้มีฝ่ายค้านแท้และฝ่ายค้านเทียมเกิดขึ้น อาจจะเกิดจากสมประโยชน์อะไรบางอย่าง มีลักษณะอุ้มฝังรัฐบาลจนมากเกินงาม ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ. อบจ พ.ร.บ. เทศบาล และพ.ร.บ. อบต ทางฝั่งพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการที่แก้ร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว แค่คำนึงถึงการปลดล็อคให้นายกฯอบจ. นายกฯเทศบาล นายฯกอบต. ดำรงตำแหน่งได้เกิน 2 วาระติดต่อกันได้เพียงอย่างเดียว ไม่มุ่งเน้นแค่กับการหาเสียง แต่หัวใจของการแก้ไข พ.ร.บ.เหล่านี้คือ การแก้ไขหมวดอำนาจหน้าที่ ให้กับผู้บริหารท้องถิ่นหรือนายกท้องถิ่นนั้นๆ ให้มีอำนาจอย่างครอบคลุมสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ ต้องทำลายกฎระเบียบต่างๆ ที่เหมือนกะลาครอบผู้บริหารท้องถิ่นไว้ไม่ให้สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างทันท่วงทีโดยมีผลประโยชน์เชิงงบประมาณเป็นเหตุปัจจัยหลัก
นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคเพื่อไทยบางเรื่อง ที่เราไม่เห็นด้วยเราก็อาจจะทำได้โดยที่ไม่เป็นองค์ประชุมให้กับฝั่งรัฐบาล ถึงแม้ว่า สส. จากพรรคเพื่อไทยจะอยู่ในห้องประชุมก็ตาม นี่คือวิถีทางที่ทาง สส. ฝ่ายค้านกระทำได้ แต่ในขณะเดียวกันในการพิจารณา พ.ร.บ. ข้าราชการครู ในลำดับต่อมาทางฝั่ง สส. พรรคเพื่อไทย ก็เป็นองค์ประชุมให้สภาฯ เพื่อผ่านพ.ร.บ. ข้าราชการครู ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทางด้านการศึกษาโดยยึดโยงกับประโยชน์ของนักเรียนนักศึกษา ถ้าฝ่ายค้านอุ้มองค์ประชุมให้ซีกฝ่ายรัฐบาลทุกเรื่องแล้วจะมีฝ่ายค้านไว้ทำไม ตนขอเชิญชวน อสม. ทั่วประเทศให้จับตาดูว่าเปิดสมัยประชุมครั้งหน้าจะมีการขัดขวางในการเสนอร่างพ.ร.บ. อสม. ในวาระที่ 2 และ 3 อีกหรือไม่ ถ้ามี สส. หรือพรรคใดขัดขวาง ร่างพ.ร.บ. อสม. ดังกล่าว ขอให้ อสม. ทั่วประเทศจำไว้และพิพากษาในวันเลือกตั้งครั้งหน้า







