'ประเสริฐ' ลั่น 'เพื่อไทย' เลือดหยุดไหล ลั่นได้ 200 สส.ไม่ยากเกิน

'ประเสริฐ' มั่นใจ 'พรรคเพื่อไทย' เลือดหยุดไหล เปิดกว้างคนเก่ากลับมาได้ ลั่นได้ สส. 200 เสียงไม่ยากเกิน รับทำงานเข้าขากันดีกับ 'จุลพันธ์'
KEY
POINTS
- ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แสดงความมั่นใจว่าคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะสามารถหยุดยั้งการย้ายพรรคของสมาชิกได้
- ยืนยันเป้าหมายของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าคือการได้ สส. 200 ที่นั่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นเป้าหมายที่ไม่ยากเกินจริง
- พรรคจะทำงานอย่างหนักโดยนำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาสร้างเป็นนโยบาย และเปิดรับผู้สมัครหน้าใหม่ที่มีคุณภาพ
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยมีคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ จะสามารถหยุดเลือดไหลได้หรือไม่ ว่า มั่นใจ อยู่พรรคนี้มาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย รู้จักสมาชิกทุกคนไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ วันนี้ทุกคนเห็นได้จาก กก.บห.พรรคชุดใหม่ที่มาจากทุกภาคส่วน สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมือง สมาชิกทุกคนมีสิทธิมีเสียง เรากำลังก้าวสู่การเลือกตั้ง กรณีมีสมาชิกย้ายพรรคก็เป็นเรื่องปกติทางการเมือง
“แต่คนที่ยืนอยู่วันนี้ มั่นใจว่าจะไม่มีใครออกไปไหนอีก ทุกคนจะร่วมต่อสู้ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้ากับพรรค เพื่อเข้ามาทำงานรับใช้ประชาชนต่อไป วันนี้เราเปิดกว้างพร้อมรับสมาชิกหน้าใหม่ที่เข้ามาสู่การสรรหาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย เราจะเฟ้นหาคนที่มีคุณภาพที่สุดเพื่อให้ประชาชนได้ใช้งาน รวมไปถึงอดีตสมาชิกพรรคที่เว้นว่างทางการเมืองไป หากอยากกลับมาทำงานการเมืองต่อเราก็เปิดกว้าง” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ เราต้องใช้ทุกสรรพกำลัง มั่นใจว่าด้วยพลังความสามัคคีของสมาชิกพรรคเพื่อไทยวันนี้ เป้าหมายที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทยวางไว้ที่ 200 เสียง ไม่ยากเกินจริง เราจะทำงานอย่างหนักนำความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นตัวตั้งแล้วตีโจทย์ออกมาเป็นนโยบายเพื่อเสนอทางออกให้ประชาชน เชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจเหมือนที่เป็นมา
เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ กล่าวว่า เคยทำงานร่วมกับนายจุลพันธ์มานาน เข้าขากันดี และนายจุลพันธ์ เป็นคนมีวิสัยทัศน์ มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในวันนี้ อีกทั้งยังเป็นคนรุ่นกลางของพรรคเพื่อไทย ที่สามารถเชื่อประสานความร่วมมือกับคนทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นอาวุโสหรือรุ่นใหม่ จึงเชื่อว่าจะสามารถนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งได้ และในฐานะเลขาธิการพรรคฯ ตนจะสนับสนุนการทำงานของ กก.บห.ชุดนี้อย่างเต็มที่ สนับสนุนการทำงานทุกภาคส่วนของพรรคฯ เพื่อเป้าหมายสำคัญคือการเข้าไปทำหน้าที่แก้ปัญหาที่ประชาชนเจออยู่ให้ผ่านพ้นไปให้ได้







