‘อนุทิน’ โชว์ ‘สี จิ้นผิง’ ไทยเมินกาสิโน อ้อนนักท่องเที่ยวกลับ รับประกันปลอดภัย

‘อนุทิน’ โชว์ ‘สี จิ้นผิง’ ไทยเมินกาสิโน อ้อนนักท่องเที่ยวกลับ รับประกันปลอดภัย

“อนุทิน” ถก “สี จิ้นผิง” เผย พร้อมผลักดันความร่วมมือไทยทุกมิติ นายกฯ ชื่นชมความจริงจังของประธานาธิบดี ร่วมปราบสแกมเมอร์ ย้ำ รัฐบาล ไร้นโยบายกาสิโน ชวนนักท่องเที่ยวกลับมาอีก รับประกันความปลอดภัย จีนยันไม่แทรกแซงนโยบาย

เมื่อเวลา 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ โรงแรม Kolon เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการหารือทวิภาคีกับนายสี จิ้นผิง (Mr. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ  

โอกาสนี้  ประธานาธิบดีจีน กล่าวถวายความอาลัยการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง(พระพันปีหลวง) อีกครั้ง นายกรัฐมนตรีกล่าว ขอบคุณ และซาบซึ้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ได้มีสารถวายความอาลัย และยังได้กล่าวด้วยถ้อยคำในครั้งนี้ ซึ่งมีความหมายต่อคนไทย ทั้งนี้ จะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลทรงทราบด้วย 

นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีกับความสำเร็จของการประชุม Fourth Plenum ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ครั้งที่ 4 ซึ่งได้วางแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจจีนในระยะ 5 ปีข้างหน้า พร้อมย้ำว่าปี 2568 ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ซึ่งเป็นจังหวะสำคัญในการร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่เพื่ออนาคตที่ปลอดภัย และรุ่งเรืองร่วมกัน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยืนยัน และพร้อมผลักดันความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงระดับประชาชน ขณะที่ นายกรัฐมนตรีเห็นถึงศักยภาพในการขยายความร่วมมือด้านนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานสะอาด และเกษตรเพื่ออนาคต 

นายกรัฐมนตรีชื่นชมความจริงจังของประธานาธิบดีสี ที่ให้คำมั่นกับไทยในการร่วมกันปราบปรามภัยไซเบอร์ (Cyber crime) ถือว่าเป็น อาชญากรรมทั้งทางเทคโนโลยี และเศรษฐกิจ  ซึ่งไทยถือเป็นวาระแห่งชาติ และจะระดมความร่วมมือจากภูมิภาคเพื่อที่ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนี้ด้วย 

นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีสี ถึงความร่วมมือด้านการเชื่อมโยง ซึ่งไทยกล่าวถึงความคืบหน้า การบริหารจัดการดำเนินการก่อสร้าง รถไฟไทย-จีน รวมถึง โครงการสะพานมิตรภาพไทย–ลาวแห่งที่ 2 (หนองคาย–เวียงจันทน์) ซึ่งเป็นสะพานทางราง เพื่อเชื่อมต่อรถไฟไทย-ลาว-จีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงระบบรางกับจีน  ทำให้สินค้าสามารถเดินทางไปและกลับตั้งแต่จีนตอนล่างไปจนถึงแหลมมลายู 

ในการหารือ นายกรัฐมนตรียังยืนยันกับท่านประธานาธิบดีสี รัฐบาลไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้กาสิโนมาเป็นเครื่องยนต์กระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเชื่อมั่นว่า ด้วยความสามารถของคนไทย ผลิตภัณฑ์ไทย สินค้าไทย รวมทั้งเทคโนโลยีที่ไทยมีอยู่ ไทยมีทางเลือกอื่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดีขึ้น จึงได้หยุดการนำเสนอกฎหมายการพนันทุกชนิด และขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาเที่ยวอีกครั้ง โดยรัฐบาลจะดูแลความปลอดภัยอย่างดี ซึ่งประธานาธิบดีกล่าว ชื่นชมนโยบายไทย และย้ำว่า ไม่คิดแทรกแซงการดำเนินนโยบายภายในของประเทศใดๆ แต่จะใช้มาตรการภายในของตน ในการหยุดยั้งไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวกาสิโน เท่านั้น เพราะจีน เห็นว่า ธุรกิจการพนันมีผลเสียต่ออย่างมากต่อวิถีชีวิตของคน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ย้ำถึงนโยบายรัฐบาลชุดนี้ และความรู้สึกของคนไทยส่วนใหญ่ ที่ไม่ต้องการมีการพนันที่ถูกกฎหมายเช่นกัน  

นายกรัฐมนตรี ยังถือโอกาสนี้ ติดตามการเจรจา การซื้อข้าวไทยจำนวน 500,000 ตันซึ่งคณะเจรจาได้ทำงานมาระดับหนึ่ง ขณะที่จีนบริโภคทั้งประเทศเกือบ 150 ล้านตัน เชื่อว่ามีแนวโน้มในทางที่ดี 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เชิญนายกรัฐมนตรีจีน มาการประชุมแม่โขง- ล้านช้าง ที่ประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้ด้วย

“ภาพรวมการหารือกับประธานาธิบดีจีนสังเกตได้ถึง บรรยากาศฉันมิตร ปฏิกิริยากลับมาของจีนซึ่งถือเป็นประเทศมหาอำนาจ และมีความสำคัญ เปลี่ยนแปลงทิศทางที่ดีขึ้น และคณะผู้บริหารที่ร่วมหารือก็มีความพึงพอใจ ความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ที่หยุดชะงักไป ได้รื้อฟื้นกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ดีต้องมาจากพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดี ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน” นายกฯ กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์