‘คดีจริยธรรม’ ในมือ ป.ป.ช. เช็คลิสต์ ก่อนถึงคิว ‘นันทนา’

นางนันทนา นันทวโรภาส แกนนำกลุ่ม สว.อิสระ นับเป็น สว. คนแรกที่ถูกวุฒิสภาลงมติส่งให้ ป.ป.ช. ไต่สวนกรณีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง
KEY
POINTS
- นางนันทนา นันทวโรภาส เป็น สว. คนแรกที่ถูกวุฒิสภาลงมติส่งให้ ป.ป.ช. ไต่สวนกรณีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง
- ยกตัวอย่างนักการเมืองหลายรายที่เคยถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางจริยธรรมและถูกศาลฎีกาพิพากษาลงโทษ เช่น ปารีณา ไกรคุปต์ พรรณิการ์ วานิช และนาที รัชกิจประการ เป็นต้น
- ปัจจุบันมีคดีจริยธรรมของนักการเมืองและบุคคลสำคัญอีกหลายคดีที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. เช่น กรณีศักดิ์สยาม ชิดชอบ 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล และกรณีเอื้อประโยชน์ให้ทักษิณ ชินวัตร
“คดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง” กำลังเป็น “อาวุธ” ที่ถูกฝ่ายนิติบัญญัติอย่าง สว.ใช้ในเกม “นิติสงคราม” ประเดิมโหวตลงมติข้างมาก 131 เสียงส่ง “นันทนา นันทวโรภาส” แกนนำ สว.กลุ่มอิสระ ไปเผชิญ “ดาบสอง” ในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีกล่าวหาว่า “ฝ่าฝืนจริยธรรม” จากการพาดพิง สว.คนหนึ่งว่าเป็น “คนขายหมู” กรณี “นันทนา” ถือว่าเป็น “สว.คนแรก” ที่ถูกใช้ช่องทางดังกล่าว
แม้บางฝ่ายมองว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็น “เรื่องทางการเมือง” โดย “สว.สีน้ำเงิน” ซึ่งเป็น “เสียงข้างมาก” ในสภาฯสูง อย่างไรก็ดี ตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว การลงมติดังกล่าวเรื่องจะต้องไปจบในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช.ต่อไป
ในรัฐธรรมนูญปี 2560 และประมวลมาตรฐานจริยธรรมของศาลรัฐธรรมนูญฯ และประมวลจริยธรรมของสภาฯ แบ่งช่องทางในการร้องเรียนออกได้ 4 ทาง ได้แก่
1.ร้องโดยตรงต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ก่อนส่งศาลฎีกาพิจารณา หากศาลฎีการับคำฟ้องแล้ว ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติ
2.กมธ.ในสภาฯ (สภาผู้แทนฯ/วุฒิสภา) ดำเนินการสอบสวน ก่อนโหวตลงมติ
3.ยื่นคำร้องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
4.ยื่นร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ (ส่วนใหญ่จะเป็นคำร้องจากประธานสภาผู้แทนฯ/ประธานวุฒิสภา)
ที่ผ่านมาหากโฟกัสเฉพาะในส่วนของ “ป.ป.ช.” พบว่า นักการเมืองชื่อดังคนแรกที่ประเดิมต้องดาบ “ฝ่าฝืนจริยธรรม” คือ “ปารีณา ไกรคุปต์” อดีต สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กรณีกล่าวหาว่าถือครองที่ดิน ภบท.5 โดยมิชอบ และส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา โดยศาลฎีกาได้พิจารณาแล้วเห็นว่า “ปารีณา” กระทำผิดตามข้อกล่าวหาจริง จึงสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง สส. และตัดสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต
มิใช่แค่ “ปารีณา” เท่านั้น ยังมี “นักเลือกตั้งชื่อดัง” หลายคนที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลกรณีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม เช่น “พรรณิการ์ วานิช” อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กรณีโพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย สุ่มเสี่ยงกระทบเบื้องสูง และศาลฎีกาตัดสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต “เอกราช ช่างเหลา” สส.หลายพรรค จ.ขอนแก่น กรณีถูกกล่าวหาว่าทุจริตเงินสหกรณ์ครูขอนแก่นกว่า 413 ล้านบาท โดยคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
อีกราย “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ คดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง กรณีโพสต์ใส่ร้าย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” อดีต รมว.คมนาคม อดีตเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เรื่องต้นตอเป็นคลัสเตอร์แพร่เชื้อโควิด-19 ปัจจุบันดคีอยู่ระหว่างพิจารณาในศาลฎีกา
“ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ” อดีต สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย กรณีกล่าวหารับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้ใด เนื่องจากยอมให้บุคคลภายนอกชำระค่ารักษาพยาบาลแทนให้แก่ตนเอง เป็นจำนวนเงิน 1,335,778 บาท ในเข้ารักษาทางด้านโรคหัวใจที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ช่วงวันที่ 23 ก.ย.-18 ต.ค.2562 โดย ป.ป.ช.ชงศาลฎีกา พิจารณาแล้วเช่นกัน
ขณะที่ “บิ๊กเนมภูมิใจไทย” ที่เคยโดนคดีดังกล่าว เช่น “นาที รัชกิจประการ” อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย แกนนำสีน้ำเงินภาคใต้ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลกรณีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ร่วมกับ 2 อดีต สส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย คือ “ฉลอง เทิดวีระพงศ์-ภูมิศิษฎ์ คงมี” คดีเสียบบัตรแทนกันในสภาฯ ซึ่งทั้ง 3 คนมิใช่แค่โดนคดีฝ่าฝืนจริยธรรม และถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตเท่านั้น ยังโดนคดีอาญา และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกไปแล้ว เป็นต้น
ปัจจุบันยังมี “นักเลือกตั้ง” อีกหลายคนขึ้นเขียงถูกไต่สวนอยู่ในชั้น ป.ป.ช. ไล่เรียงจาก “แพทองธาร ชินวัตร” อดีตนายกฯ คดีคลิปเสียงสนทนากับ “ฮุน เซน” ซึ่งเป็นคนละส่วนกับคดีที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ อย่างไรก็ดี ป.ป.ช.อยู่ระหว่างตรวจสอบสำนวนคำวินิจฉัยฉบับเต็มของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อนำมาประกอบในการพิจารณาด้วย
อีกราย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” อดีต รมว.คมนาคม ถูก ป.ป.ช.ไต่สวนคดีจริยธรรมด้วยเช่นกัน ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พ้นจากตำแหน่ง รมว.คมนาคม กรณีเชื่อได้ว่าให้ “นอมินี” ถือครองหุ้นแทนใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดย หจก.แห่งนี้เข้าไปรับงานภายในกระทรวงคมนาคม ระหว่าง “ศักดิ์สยาม” เป็นรัฐมนตรี หลายโครงการ รวมวงเงินหลายร้อยล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีอีกคดีถูกร้องอยู่คือ กรณีไม่สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดกับ “ที่ดินเขากระโดง” ซึ่งกรณีดังกล่าวมีการกล่าวหา “อนุทิน ชาญวีรกูล” เมื่อครั้งเป็นรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่ไม่กำกับดูแลกรมที่ดินให้เพิกถอน “ที่ดินเขากระโดง” และร้องเรียน “ไชยชนก ชิดชอบ” สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย กรณีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในที่ดินเขากระโดงด้วย
ที่ผ่านมาหากมีแนวทางจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาแล้ว มีโอกาสน้อยมากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะวินิจฉัย “สวนทาง” ยกตัวอย่าง คดีโยกย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” ของอดีตนายกฯ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เธอพ้นเก้าอี้นายกฯเมื่อปี 2557 ผ่านมา 6 ปีเมื่อปี 2563 ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิด “ยิ่งลักษณ์” ในคดีนี้ไปเช่นกัน
ต่อมา “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” อดีต รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กรณีถูกกล่าวหาว่าติดป้ายชื่อและหน้าตัวเองบน “ถุงยังชีพ” เพื่อไปแจกจ่ายประชาชน ส่อเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ คดีนี้ ป.ป.ช.ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว อยู่ระหว่างรอฟังคำชี้แจง ก่อนจะพิจารณาสรุปสำนวนต่อไป
44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล (ปัจจุบันเป็น สส.สังกัดพรรคประชาชน 25 ราย) กำลังอยู่ระหว่าง ป.ป.ช.ไต่สวนคดีฝ่าฝืนจริยธรรม กรณีร่วมกันเสนอและลงชื่อเพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดย ป.ป.ช.มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปหมดแล้ว อยู่ระหว่างนำคำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหามาพิจารณา เพื่อสรุปสำนวน ก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ชี้ขาด โดยมีรายงานว่า คดีนี้จะไม่ได้พิจารณาแบบ “เหมารวม” แต่จะไล่เรียงดูพฤติการณ์ “รายคน” คาดว่าจะมีบทสรุปภายในเดือน พ.ย.นี้
เรื่องใหญ่อีกเรื่อง 12 เจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งอดีตรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กรณีกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ได้ไปพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยมิชอบ ป.ป.ช.ก็อยู่ระหว่างการไต่สวนคดีฝ่าฝืนจริยธรรมเช่นกัน หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งบังคับโทษให้ “ทักษิณ” กลับไปจำคุกในเรือนจำ 1 ปี เนื่องจากถูกส่งไปรักษาตัวชั้น 14 มิชอบ
ขณะเดียวกัน “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” อดีต รมว.ยุติธรรม กับพวก เช่น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถูกร้องสอบฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่ กรณีกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงกระบวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว. เรื่องนี้มีคดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาไต่สวนอยู่เช่นเดียวกัน
ทั้งหมดเป็นแค่ “ตัวอย่าง” ของบรรดานักการเมืองระดับชาติเท่านั้น ยังไม่นับ “นักเลือกตั้งท้องถิ่น-ข้าราชการ” ที่เคยถูกไต่สวนในเรื่องนี้ไปอีกนับร้อยราย
ดังนั้นกรณี“นันทนา นันทวโรภาส” จึงเป็น“สว.รายแรก” และเป็นนักการเมือง“รายล่าสุด” ที่ถูกชงเรื่องขึ้นเขียงในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช.ในขณะนี้ บทสรุปสุดท้ายจะออกมาหน้าไหน คงต้องติดตามกัน







