‘อินโวฯ’ บ.ขายเกราะ 11 ปีได้งานเฉียดพันล. ก่อนดราม่า ‘กัน-กองทัพ’

‘อินโวฯ’ บ.ขายเกราะ 11 ปีได้งานเฉียดพันล. ก่อนดราม่า ‘กัน-กองทัพ’

บริษัท อินโวสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตเสื้อเกราะ เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐด้านความมั่นคงในช่วง 10 ปี (2558-2568) รวม 196 โครงการ มูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาท

KEY

POINTS

  • บริษัท อินโวสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตเสื้อเกราะ เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐด้านความมั่นคงในช่วง 10 ปี (2558-2568) รวม 196 โครงการ มูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาท
  • บริษัทถูกเชื่อมโยงกับกรณีที่กองทัพขอความอนุเคราะห์ให้ "กัน จอมพลัง" ใช้เงินบริจาคจัดซื้อเสื้อเกราะ โดยมีการเจาะจงให้ซื้อจากบริษัทดังกล่าว
  • มีการให้ข้อมูลว่า อินโวสตาร์เป็นผู้ผลิตเสื้อเกราะกันกระสุนระดับสูง (Level IV) เพียงรายเดียวในประเทศไทย ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่กองทัพเจาะจงให้จัดซื้อ

เงื่อนปมการตรวจสอบ “กัน จอมพลัง” หรือชื่อจริง กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ อินฟลูเอนเซอร์ดัง ในการเปิดรับบริจาคเพื่อไปช่วยเหลือแนวหน้า จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กำลังถูกสังคมจับตามองอย่างมาก โดยเฉพาะกรณี “กองทัพ” มีการขอความ “อนุเคราะห์” ผ่าน “กัน จอมพลัง” เพื่อซื้อ “ยุทโธปกรณ์” ทางทหารจริงหรือไม่?

วานนี้ (30 ต.ค.) ในช่วงเย็น มีการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร โดยมีวาระสำคัญคือการเชิญ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และ “กัน จอมพลัง” มาชี้แจงแก่ กมธ.การทหารฯ ซึ่ง “กัน” นำเอกสารหลักฐานมาโชว์ต่อที่ประชุมว่า มีหน่วยงานของ “กองทัพ” ทำเรื่องขอความอนุเคราะห์เสื้อเกราะจริง โดยเจาะจงให้จัดซื้อกับ “บริษัทแห่งหนึ่ง” 

เบื้องต้น “พล.ต.วินธัย” ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าวในที่ประชุม ทว่าเช้าวันนี้ (31 ต.ค.) เขายอมรับแล้วว่า กองทัพบกขอความอนุเคราะห์ผ่าน “กัน จอมพลัง” สนับสนุนแผ่นเกราะกันกระสุน ระดับ IV จำนวน 250 แผ่น ตามข่าวที่ปรากฏออกมาให้จริง โดยสนับสนุนให้กับตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และทหารพราน เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2568

ล่าสุด วันนี้ (31 ต.ค.) เอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรค ปชน.ในฐานะประธาน กมธ.การทหาร เปิดเผยว่า กมธ.อยู่ระหว่างขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก “กัน จอมพลัง-กองทัพบก” กรณีขอรับบริจาคยุทธภัณฑ์ 

อย่างไรก็ดียังไม่มีข้อมูลยืนยันข้อเท็จจริงทั้งจากหน่วยงานรัฐ กองทัพ และ “กัน จอมพลัง” ว่า บริษัทที่หน่วยงานกองทัพ “เจาะจง” ให้ซื้อยุทธภัณฑ์นั้นคือบริษัทใด 

ทว่าเฟซบุ๊กแฟนเพจ “thaiarmedforce.com” ที่รายงานข่าวคราวความเคลื่อนไหวของทหารทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงอัปเดตยุทธภัณฑ์ต่าง ๆ โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า Envomilitary เป็นผู้ผลิตเกราะของไทยที่มีขีดความสามารถสูงในระดับหนึ่ง ในประเทศไทยมีอยู่บริษัทเดียวที่เกราะได้ในระดับนี้ ในอาเซียนมีอยู่ไม่กี่บริษัทด้วยซ้ำ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทขายทั้งในและต่างประเทศ กองพันจู่โจมที่เข้าตีภูมะเขือก็ถือเกราะของ Envo เข้าตีเหมือนกัน

ดังนั้นถ้าหน่วยงานหรือกองทัพของไทยจะต้องการจัดหาเสื้อเกราะ มันไม่แปลกที่ทุกคนจะบอกว่าให้ไปซื้อเกราะของ Envo ต่อให้เอา พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างมาจับ ก็ยังสามารถทำได้ เพราะเข้ากรณีสินค้าที่มีผู้ผลิตน้อยราย สามารถเฉพาะเจาะจงได้ด้วยซ้ำ เพราะในประเทศนี้มีบริษัทเดียวที่ทำให้ได้ และผลิตเกราะได้ตั้งแต่ Level I ถึง Level IV เหมือนในโลกนี้ถ้าใครคิดจะผลิตชิปแล้วต้องซื้อเครื่อง Lithography มันก็นึกออกอยู่บริษัทเดียวคือ ASML มันไม่มีทางเลือกอื่น

ส่วนทำไมต้องซื้อ Level IV ทั้งที่ปกติกองทัพจะซื้อ Level III/IIIA ตรงนี้คาดว่าพอหน่วยเห็นว่ามีคนมาบอกว่าจะซื้อเกราะ ให้ไปเลือกมาเลย หน่วยก็คงเลือกของสเปคสูงสุด เหมือนมีคนมาบอกว่าจะซื้อรถให้คันนึง ไปเลือกมาเลย เราคงเลือก Camry ไม่เลือกแค่ Altis

‘อินโวฯ’ บ.ขายเกราะ 11 ปีได้งานเฉียดพันล. ก่อนดราม่า ‘กัน-กองทัพ’
(ภาพจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ thaiarmedforce.com)

เอาจริง ๆ เราคิดว่าเรื่องนี้บริษัทไม่น่าจะผิด เพราะเขาเป็นคนขายของ หน่วยงานราชการมาซื้อเขาก็ขาย หน่วยในพื้นที่เจาะจงให้ไปซื้อกับ Envo ก็ไม่น่าจะผิด เพราะประเทศนี้มีผู้ผลิตอยู่บริษัทเดียว #กันจอมพลัง ไปจ่ายเงินให้บริษัทนี้ก็ไม่น่าจะผิด เพราะหน่วยบอกมาให้ซื้อจากบริษัทนี้ เอาจริง ๆ เชื่อว่ากัน จอมพลัง เผลอ ๆ ไม่รู้จัก Envo ด้วยซ้ำ

"แต่ถามว่าเหมาะสมไหม อันนี้มีความไม่เหมาะสมเกิดขึ้นแน่นอน แต่ความไม่เหมาะสมตรงนี้ น่าจะอยู่แค่ทำไม #กองทัพบก มีนโยบายว่าไม่ขอรับบริจาค แต่ยังมีหน่วยทำหนังสือออกไปขอบริจาค รวมถึงถ้าเสื้อเกราะไม่พอ ทำไมถึงไม่พอ เราคาดการณ์สถานการณ์ผิดหรือไม่ ทั้งที่ถ้ามีบริษัทในไทยผลิตได้ มันน่าจะเป็นข้อได้เปรียบในการจัดหาด้วยซ้ำ ตรงนี้ต่างหากที่ควรจะเป็นประเด็น ดีกว่าไปไล่ถามว่าทำไมล็อคสเปคไปซื้อ Envo ครับ" เฟซบุ๊กแฟนเพจ “thaiarmedforce.com” ระบุ

สำหรับ Envomilitary คือเพจเฟซบุ๊กของ บริษัท อินโวสตาร์ จำกัด ประกอบกิจการจำหน่ายอุปกรณ์ตรวจจับวัตถุระเบิด ชุดเกราะ อุปกรณ์ตรวจหาสาร หรือทุ่นระเบิด และอุปกรณ์ยุทโธปกรณ์ทางทหารทุกประเภท 

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อ 31 ต.ค. 2568 พบว่า บริษัท อินโวสตาร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2550 ทุนปัจจุบัน 140 ล้านบาท (ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท และมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนล่าสุดเมื่อปี 2565 เป็น 140 ล้านบาท) สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 125/16 หมู่ที่ 1 ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ การผลิตเครื่องอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย

ปรากฏชื่อ นายวิวรณ์ มีชูธน เป็นกรรมการคนเดียว นำส่งชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 18 ส.ค. 2568 นายวิวรณ์ มีชูธน ถือหุ้นใหญ่สุด 98.25% ที่เหลืออยู่ในชื่อของนายนันทชัย มีชูธน ถือ 0.7286% น.ส.แหวนดรา มีชูธน ถือ 0.3357% น.ส.แพรวา มีชูธน ถือ 0.3357% นายมีค่า มีชูธน ถือ 0.3357% นางอุบลวรรณ มีชูธน ถือ 0.0071% นางวนิดา มีชูธน ถือ 0.0071% และผู้ถือหุ้นรายย่อย (มิได้ระบุชื่อ) ถือ 0.0001%

นำส่งงบการเงิน 5 ปีหลังสุด ดังนี้

ปี 2567 รายได้รวม 176,136,147 บาท รายจ่ายรวม 168,743,918 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 2,189,925 บาท เสียภาษีเงินได้ 2,086,759 บาท กำไรสุทธิ 3,115,543 บาท

ปี 2566 รายได้รวม 155,019,426 บาท รายจ่ายรวม 156,678,334 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 2,729,325 บาท เสียภาษีเงินได้ 246,870 บาท ขาดทุนสุทธิ 4,635,103 บาท

ปี 2565 รายได้รวม 390,003,986 บาท รายจ่ายรวม 349,432,380 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 3,305,213 บาท เสียภาษีเงินได้ 8,876,813 บาท กำไรสุทธิ 28,389,578 บาท

ปี 2564 รายได้รวม 271,229,275 บาท รายจ่ายรวม 229,750,747 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 2,061,092 บาท เสียภาษีเงินได้ 8,250,724 บาท กำไรสุทธิ 31,166,711 บาท

ปี 2563 รายได้รวม 270,020,232 บาท รายจ่ายรวม 218,669,977 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 2,985,636 บาท เสียภาษีเงินได้ 10,142,450 บาท กำไรสุทธิ 38,222,168 บาท

จากการตรวจสอบฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ระหว่างปีงบประมาณ 2558-2568 พบว่า บริษัท อินโวสตาร์ จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ส่วนใหญ่คือหน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นต้น อย่างน้อย 196 โครงการ รวมวงเงิน 979.96 ล้านบาท

โดยสัญญาที่มีมูลค่าสูงสุด (เท่าที่ปรากฏต่อสาธารณะ) คือ กองทัพเรือ จัดซื้อชุดควบคุมฝูงชนพร้อมอุปกรณ์ประกอบ จำนวน 900 ชุด โดยวิธีคัดเลือก วงเงิน 42.24 ล้านบาท ทำสัญญาเมื่อ 21 ก.ค. 2563 (ช่วงเวลาดังกล่าว ยังอยู่ระหว่าง “ม็อบราษฎร” กระแสสูง และมีการชุมนุมใน กทม.ต่อเนื่อง)

ไล่เรียงแต่ละปีงบประมาณ ดังนี้

ปีงบประมาณ 2568 จำนวน 13 โครงการ วงเงิน 32.17 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 13 โครงการ วงเงิน 50.46 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2566 จำนวน 12 โครงการ วงเงิน 44.68 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2565 จำนวน 10 โครงการ วงเงิน 46.28 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2564 จำนวน 24 โครงการ วงเงิน 97.87 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2563 จำนวน 16 โครงการ วงเงิน 129.71 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2562 จำนวน 23 โครงการ วงเงิน 128.55 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2561 จำนวน 34 โครงการ วงเงิน 110.30 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2560 จำนวน 27 โครงการ วงเงิน 181.05 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2559 จำนวน 14 โครงการ วงเงิน 92.30 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 10 โครงการ วงเงิน 66.59 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวข้างต้น ยังมิได้ปรากฏการร้องเรียนแต่อย่างใด และยังไม่มีข้อมูลยืนยันข้อเท็จจริงว่า บริษัท อินโวสตาร์ จำกัด คือบริษัทเดียวกันกับที่ “กองทัพ” ขอความอนุเคราะห์ผ่าน “กัน จอมพลัง” เพื่อซื้อ “เสื้อเกราะ” และยุทธภัณฑ์ทางทหารหรือไม่ การเปิดเผยครั้งนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์สาธารณะเท่านั้น