‘บวรศักดิ์’ ลุย กิโยติน กม. 4กระทรวงหลัก หวั่นใจ มท.คุย ‘อนุทิน’ อย่างไร

“บวรศักดิ์” เดินหน้ากิโยตินกฎหมาย ลดระเบียบ-ขั้นตอน ตัดภาระ ปชช. ดึงดูดต่างชาติลงทุน ชี้ 4กระทรวงหลัก ต้องปรับเยอะ รับ หวั่นใจ ‘มท.’ จะคุยอนุทิน อย่างไร ขอความร่วมมือทุกกระทรวง รีบลงมือ ถ้าทำไม่ได้เสนอทางออกมา ขีดเส้น3เดือนยังไม่เสร็จมีมาตรการต่อไป
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี แถลงถึงความคืบหน้ากฎหมายสำคัญ ว่า ตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน เร่งรัด และติดตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการประชุมกันไปแล้ว เพื่อเร่งรัดสิ่งที่ได้แถลงไว้ในนโยบายรัฐบาล เรื่องการยกเลิก แก้ไขโดยเน้นที่กฎระเบียบ แต่พระราชบัญญัติ ก็ต้องทำ แต่ว่ามีไม่มาก และข้อสำคัญคืออาจจะทำไม่ทัน
ทั้งนี้ เราจะแก้ไขตั้งแต่พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ และกระบวนงานที่ทำให้เป็นภาระกับประชาชน ใช้เวลานาน มีค่าใช้จ่ายสูง บางทีทำเองไม่ได้ก็ต้องไปจ้างทนายมาทำ โดยมีอีกประมาณ 800เรื่อง ติดค้างอยู่ตามแต่ละที่
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงหลักๆ ที่ต้องปรับเยอะๆ คือกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนั้นทุกกระทรวงก็มีหมดแต่ว่าไม่มากเท่า4กระทรวงนี้ โดยใน4กระทรวงนี้ รมว.พาณิชย์ และปลัดกระทรวงแอ็กทีฟมาก
“แต่ผมก็หวั่นๆใจ จะไปคุยกับรมว.มหาดไทยยังไง เพราะ รมว.มหาดไทย บังเอิญเป็นนายผมเสียด้วย แต่ก็ต้องคุย เราจะลงมือลุยงานกัน ก็ขอความร่วมมือท่านรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ปลัดกระทรวง อธิบดี ช่วยเมตตาลงไปขันชะเนาะลูกน้องท่านหน่อย ให้รีบทำ รีบเลิก รีบแก้ ถ้าทำไม่ได้จริงๆ จะคอขาดบาดตาย เสนอทางออกมาจะทำอย่างไรให้เร็วขึ้น แต่ทำมาอย่างไรก็ทำไปอย่างนั้นไม่ได้ ทำอย่างใหม่สิ” นายบวรศักดิ์ กล่าว
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า เดือนแรกก็จะประสาน ถ้ายังไม่ขยับ จะไปกราบเรียนรัฐมนตรีกระทรวงนั้นด้วยตัวเองให้เชิญปลัดกระทรวง อธิบดี และข้าราชการที่รับผิดชอบเรื่องนั้นมาขอความร่วมมือ ถ้าเดือนที่3 ไม่สำเร็จ จะคิดมาตรการขั้นต่อไปซึ่งอาจจะต้องเป็นขั้นสุดท้าย ก็หวังว่า กิโยติน ที่ทำมาตั้งแต่ปี62 น่าจะเสร็จสิ้นในรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล 4เดือนบวก2-3เดือนตอนรักษาการ ถ้าสิ่งที่สร้างภาระให้กับประชาชนหายไป 3ตัวชี้วัดของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน 1.ความสามารถทางการแข่งขัน ของ IMD 2.ตัวชี้วัดเรื่องหลักนิติธรรม World justice project และ3. ตัวชี้วัดทางธรรมาภิบาล ของสถาบันธนาคารโลก
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า การยกเลิกกฎระเบียบ เปลี่ยนแปลงขั้นตอนและวิธีการในการอนุมัติ อนุญาต เป็นเรื่องของบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของ นายอนุทิน หรือตน เพราะไม่ได้ไปทำธุรกิจอะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่มันจะทำให้เรายกระดับนิติธรรมของไทยขึ้น และปูทางเข้าสู่การเป็นสมาชิกของ OECD ในเอเซียมีน้อยมาก ถ้าเราเข้าได้ด้วยมาตรฐานหลายเรื่องจะดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนมาก







