'รังสิมันต์' จี้ 'รัฐบาล' ออก พ.ร.ก.ปราบสแกมเมอร์ สกัดทุนเทา

"รังสิมันต์" ห่วงการเลือกตั้ง มีทุนสีดำ ร่วมวงเลือกตั้ง จี้ "รัฐบาล" เอาจริงปราบสแกมเมอร์ - ออก พ.ร.ก.ปราบสแกมเมอร์ สกัดทุนเทาฮุบอำนาจ
KEY
POINTS
- รังสิมันต์ โรม เสนอญัตติด่วนในสภาฯ เรียกร้องให้รัฐบาลยกระดับการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและทุนสีเทาเป็นวาระแห่งชาติ
- ชี้ว่ามาตรการเดิม เช่น การตัดน้ำตัดไฟ ไม่ได้ผลจริง และตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ทำให้การแก้ปัญหาไม่คืบหน้า
- เสนอให้รัฐบาลเร่งออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ในช่วงปิดสมัยประชุม เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการปัญหาแก๊งสแกมเมอร์และสกัดกั้นทุนสีเทาอย่างจริงจัง
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาญัตติด่วน 3 ญัตติ ได้แก่ ญัตติของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอให้สภาฯ พิจารณาแนวทางการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมไซเบอร์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน เพื่อส่งให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนฐานะวาระแห่งชาติ
ญัตติ ของนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กรณีผลกระทบจากการรลงนามความเข้าใจระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา ในการพัฒนา และส่งเสริมการลงทุนแร่ธาตุสำคัญ แถลงการณ์ร่วมต่อภาษีนำเข้าไทย-สหรัฐอเมริกา และ สัญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา
และ ญัตติของนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ต่อบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา ต่อกรณีแร่ธาตุสำคัญ
โดยนายรังสิมันต์ อภิปรายเสนอญัตติตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยมีมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟ และอินเตอร์เน็ต เป็นการนับหนึ่งที่น่าเสียดาย ว่าไม่พบการขยายผลเพื่อระงับยับยั้งความเสียหาย รวมถึงดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น หม่อง ชิตตู ผู้นำกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง แม้ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งเรื่องอัยการสูงสุด แต่พบว่าเรื่องยังค้างอยู่แบบนั้น รวมถึงกลุ่มไทยเทา
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าการตัดไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต ระงับไม่ให้น้ำมันไปที่แสกมเมอร์ ไม่เกิดขึ้นจริง ฝ่ายที่ตัดคือฝ่ายกัมพูชา หากเขาต่อใหม่ กลับสู่สภาพเดิม ทั้งนี้ปัญหาสแกมเมอร์ ไม่ใช่อาชญากรรมข้ามชาติเท่านั้น แต่คือกระบวนการการฟอกเงินจากดำเป็นขาว และนำไปดำเนินธุรกิจแข่งขันกับนานาประเทศ ซึ่งประเทศไทยกำลังเป็นศูนย์กลาง
นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีตั้งกรรมการขึ้นมาพิจารณา แต่ไม่สามารถจัดการกับกรณีของ บริษัทปรินซ์ กรุ๊ป เพราะบอกว่าต้องรอคดีมูลฐาน ทั้งที่กฎหมายระบุว่าแค่สงสัยสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ตนสงสัยว่าหากประเทศไม่ได้ประโยชน์จากแก๊งสแกมเมอร์ ทำไมถึงไม่ดำเนินการ หรือสิ่งที่เป็นเขื่อนกั้นที่ทำให้กลไกรัฐไม่ดำเนินการ สงสัยว่าต้องมีนักการเมืองเทา เจ้าหน้าที่รัฐเทาหรือไม่ ทั้งนี้ตนมีข้อเสนอให้รัฐบาลดำเนินการ คือ
1.ระดับนโยบายต้องทำให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เช่น เอ็มโอยู ปฏิญญาร่วมกับประเทศอื่นๆ ร่วมมือระดับนโยบบาย พร้อมกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน
2.แผนปฏิบัติการ เพื่อให้ประชาชนติดตามความคืบหน้าและมีศูนย์ยุทธการที่ร่วมมือแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานของประเทศต่างๆ เช่น อินเตอร์โพล ทั้งนี้ต้องปิดแหล่งของแก๊งสแกมเมอร์ ที่มีกรอบเวลาชัดเจน หากกัมพูชาไม่ทำต้องใช้กลไกของศาลอาญาระหว่างประเทศดำเนินการ รวมถึงปิดสัญญาณ ปิดเงิน โดย ปปง. ต้องร่วมมือกับบริษัทเอกชน
“วันนี้ศูนย์ไอเอซี มีความพยายามดำเนินการ แต่หากให้ดีกว่านั้นต้องรวมเอกชน และทำเป็นปฏิบัติการเชิงรุก รัฐบาลต้องทำทุกๆ มาตรการนำไปสู่การทลายโครงสร้างอาชญากรรม เพื่อแก้ปัญหาได้” นายรังสิมันต์ อภิปราย
3.กระทรวงดีอีแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อเป็นมาตรการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงประกาศให้ชัดเจนต่อการจับกุมบุคคลที่เป็นอาชญากรข้ามชาติ นอกจากนั้นขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการปราบสแกมเมอร์อย่างจริงจัง โดยช่วงปิดสมัยประชุมอาจประกาศใช้ พระราชกำหนดเพื่อจัดการ
“ผมเข้าใจว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย ต้องรวบรวมเสียงมาสนับสนุน วันนี้มีข้อมูลหลักฐานชี้ชัดว่ามีนักการเมือง คนระดับรองนายกรัฐมนตรี ถูกเชื่อมโยงไปกับแก๊งสแกมเมอร์ วันนี้เห็นรองนายกฯ หนีสื่อ หนีการตอบกรรมาธิการร ไม่กล้าเผชิญหน้ากับฝ่ายค้านเคลียร์ความจริงกับ เบน สมิธ คนใกล้ชิด สมเด็จฮุน เซน ทำให้เกิดความสงสัยต่อความเชื่อมั่นในการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ทั้งนี้ผมขอขอบคุณประธานวิปรัฐบาลที่มองเห็นว่าใครเป็นโจรบ้าง ทั้งนี้หากปัญหาไม่แก้ไข ทุนเทายึดประเทศ และหากปล่อยไว้ภาพลักษณ์ของไทยจะไม่ต่างจากกัมพูชา” นายรังสิมันต์ อภิปราย
นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่าทุนเทากำลังเข้ายึดครองประเทศ เผลอๆ การเลือกตั้งรอบนี้ พรรคการเมืองที่แข่งขันอาจ มี 4 พรรค คือ สีส้ม สีแดง สีน้ำเงิน และสีดำ หากเงินเหล่านี้ลงสู่การเลือกตั้งจะยึดอำนาจรัฐของประเทศไปได้







